โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568

efinanceThai

เผยแพร่ 16 มิ.ย. เวลา 01.36 น.

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -16 มิ.ย. 68 8:36: น.

*** สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ของสหรัฐฯ ปิดที่ 72.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.94 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7.62% โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.87 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7.02% โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 สัญญา ปรับตัวเพิ่มขึ้นภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่รัสเซียบุกยูเครนจนทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในวันศุกร์และปิดที่ระดับกว่า 7% หลังอิสราเอลและอิหร่าน เปิดฉากโจมตีทางอากาศเข้าใส่กัน สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนว่าการปะทะกันครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคตะวันออกกลาง

*** ความกังวลของนักลงทุนในตลาดน้ำมันเปลี่ยนจากเรื่องอุปทานล้นตลาด มาเป็นความหวาดวิตกต่อการขาดแคลนน้ำมัน ภายในระยะเวลาเพียง 2 วันของสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน และอิหร่านประกาศใช้มาตรการตอบโต้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงสุดถึง 13% สู่ระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือนม.ค. เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอาจเกิดการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง

*** อิสราเอลและอิหร่าน เปิดฉากโจมตีเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) ซึ่งเสี่ยงทำให้สงครามขยายตัว โดยในวันเสาร์ที่ผ่านมา อิสราเอลพุ่งเป้าไปที่แหล่งก๊าซธรรมชาติใหญ่ที่สุดในโลกของอิหร่าน ส่วนอิหร่านยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าสู่อิสราเอล นอกจากนี้ ยังทำให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอิหร่าน ยกเลิกการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ ที่สหรัฐฯ ระบุว่าเป็นทางเดียวที่จะหยุดยั้งการโจมตีของอิสราเอล ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เตือนว่า นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น ของการตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นในวันข้างหน้า

*** อิสราเอลออกคำเตือนให้ประชาชนอิหร่านที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงานผลิตอาวุธในกรุงเตหะราน อพยพออกจากพื้นที่ หลังทั้ง 2 ประเทศยังคงปะทะกันด้วยการโจมตีทางอากาศ โดยรมว.กลาโหมอิสราเอล ประกาศว่า กองทัพอิสราเอลจะโจมตีสถานที่เหล่านี้ และจะทยอยทำลายขีดความสามารถของอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็น อาวุธนิวเคลียร์และระบบขีปนาวุธ พร้อมเปรียบเปรยว่า จะ ลอกหนังงูอิหร่านออกทีละชั้น

ก่อนหน้านี้ โฆษกทหารอิสราเอล ได้โพสต์คำเตือนบน X เป็นภาษาอาหรับและเปอร์เซีย ระบุว่า คำเตือนนี้ครอบคลุม ทุกโรงงานผลิตอาวุธและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ

*** สำนักข่าว Tasnim ของอิหร่านรายงานว่า โมฮัมหมัด คาเซมี หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) และฮัสซัน โมฮากิก รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง ถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ โมห์เซน บาเกรี เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง IRGC คนที่ 3 ก็ถูกสังหารในการโจมตีที่กรุงเตหะรานด้วย ซึ่งมีรายงานว่าทั้งหมดถูกสังหารในการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์

ทางด้านนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวก่อนหน้านี้แล้วว่า คาเซมีและโมฮากิก ถูกสังหาร โดยอิสราเอลและอิหร่านได้โจมตีใส่กันเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตหลายสิบคน และเพิ่มความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างขึ้น ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ขู่ว่าจะใช้กำลังที่รุนแรงยิ่งขึ้น

*** อิหร่านได้แจ้งแก่ผู้ไกล่เกลี่ยอย่างกาตาร์และโอมานว่า จะไม่เจรจาหยุดยิงในขณะที่ยังถูกอิสราเอลโจมตีอยู่ ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากโจมตีรอบใหม่และเพิ่มความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างขึ้น โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่า อิหร่านแจ้งกาตาร์และโอมาน ซึ่งเป็นผู้ไกล่เกลี่ย ว่าพวกเขาจะดำเนินการเจรจาอย่างจริงจังก็ต่อเมื่ออิหร่านตอบโต้การโจมตีเชิงรุกของอิสราเอลเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น พร้อมกล่าวว่า อิหร่านได้ แจ้งอย่างชัดเจนว่าจะไม่เจรจาในขณะที่ถูกโจมตี

*** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ U.S. Steel มูลค่า 14,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Nippon Steel ของญี่ปุ่น หลังใช้ระยะเวลายาวนานถึง 18 เดือน เนื่องจากเผชิญกับการคัดค้านจากสหภาพแรงงานและการตรวจสอบความมั่นคงแห่งชาติ 2 ครั้ง โดย Nippon Steel จะซื้อหุ้น 100% ของ U.S. Steel และลงทุนใหม่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2028 พร้อมข้อผูกมัดด้านการบริหาร การผลิต และการค้า

*** รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาขยายข้อจำกัดการเดินทางเพิ่มขึ้น โดยอาจสั่งห้ามพลเมืองจาก 36 ประเทศเพิ่มเติม ไม่ให้เดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ เพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามด้านความมั่นคงและผู้ก่อการร้ายต่างชาติ โดยมาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการเข้าเมืองที่ทรัมป์เริ่มขึ้นในวาระที่ 2 ซึ่งรวมถึงการเนรเทศและการจำกัดการเข้าเรียนของนักศึกษาต่างชาติ

หากประเทศเหล่านี้ไม่ดำเนินการแก้ไขข้อกังวลภายใน 60 วัน พวกเขาอาจเผชิญกับการห้ามเข้าประเทศทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งจะถือเป็นการขยายข้อจำกัดที่สำคัญจากการห้ามพลเมืองจาก 12 ประเทศที่บังคับใช้เมื่อต้นเดือนนี้ และการจำกัดบางส่วนจาก 7 ประเทศอื่น ๆ ในปัจจุบัน โดยประเทศที่อาจได้รับผลกระทบ อาทิ ภูฏาน, กัมพูชา, แคเมอรูน, โกตดิวัวร์, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก,เซเนกัล, ซูดานใต้ และซีเรีย

*** การเจรจาสหรัฐฯ-จีน ยังคงไม่คลี่คลายประเด็นข้อจำกัดการส่งออกด้านความมั่นคงชาติ หลังจีนยังไม่ยอมผ่อนปรนการส่งออก แม่เหล็กแร่หายาก ที่สหรัฐฯ ใช้ในเครื่องบินรบและระบบขีปนาวุธ ขณะที่สหรัฐฯ ก็ยังคงจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูง ให้จีน เนื่องจากกังวลเรื่องการใช้งานทางทหาร โดยทางการจีน แสดงท่าทีว่าจะพิจารณาผ่อนปรนเรื่องแร่หายากก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ ยกเลิกข้อจำกัดชิป AI ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนมุมมองจากการค้ายาเสพติดและภาษีมาเป็นการควบคุมเทคโนโลยี

ด้านแนวโน้มมาตรการรีดภาษี คาดว่าสหรัฐฯ จะเตรียมขยายเวลาภาษีนำเข้าสินค้าจีนออกไปอีก 90 วัน นับจากวันที่ 10 ส.ค. ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายยังหาข้อตกลงระยะยาวไม่ได้ในเร็ววัน

*** ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคสหรัฐฯ เริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงต้นเดือนมิ.ย. และลดความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อพุ่งสูง หลังเห็นสัญญาณความคืบหน้าในสงครามการค้าโลก โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 60.5 สูงกว่าที่ Dow Jones คาดการณ์ไว้ที่ 54 และเพิ่มขึ้น 15.9% จากเดือนก่อน ขณะที่ดัชนีสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันเพิ่ม 8.1% ส่วนความคาดหวังในอนาคตพุ่งสูง 21.9%

ขณะที่ความคาดหวังเงินเฟ้อระยะ 1 ปีลดลงเหลือ 5.1% (ลดลง 1.5% จากเดือนก่อน) ส่วนระยะ 5 ปีอยู่ที่ 4.1% (ลดลง 0.1%)

*** ผลสำรวจล่าสุดของ NBC News Decision Desk Poll โดย SurveyMonkey ระบุว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวาระที่ 2 ยังคงติดลบ เช่นเดียวกับทัศนคติทั่วไปต่อนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ประเด็นการอพยพเข้าเมืองและความมั่นคงชายแดนยังคงเป็นข้อยกเว้น

ผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีส่วนใหญ่ (55%) ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของทรัมป์ในตำแหน่งประธานาธิบดี ในขณะที่ 45% เห็นด้วย ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากผลสำรวจ NBC News Stay Tuned Poll เมื่อเดือนเม.ย.

แม้ตัวเลขโดยรวมจะคงที่ แต่มีสัญญาณเล็กน้อยที่แสดงถึงความกระตือรือร้นที่ลดลงในหมู่ผู้สนับสนุนประธานาธิบดี โดยสัดส่วนของผู้ใหญ่ที่เห็นด้วยอย่างยิ่งลดลงเล็กน้อยตั้งแต่เดือนเม.ย. ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งก็ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน

*** บรรดาผู้นำกลุ่ม G7 (Group of Seven) เดินทางถึงเทือกเขาร็อกกีของแคนาดาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งถูกบดบังด้วยสงครามที่ขยายวงกว้างทั่วตะวันออกกลาง และสงครามการค้าที่ยังไม่คลี่คลายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านและการตอบโต้ของอิหร่าน ซึ่งดูเหมือนจะทำให้ผู้นำโลกหลายคนประหลาดใจ เป็นสัญญาณล่าสุดของโลกที่ผันผวนมากขึ้น ในขณะที่ทรัมป์พยายามถอนสหรัฐฯ ออกจากบทบาทผู้พิทักษ์สันติภาพโลก

*** ไต้หวันเพิ่มรายชื่อ Huawei Technologies และ Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) ของจีน เข้าสู่บัญชีควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงเชิงยุทธศาสตร์ของกระทรวงเศรษฐกิจ โดยบริษัทเหล่านี้จะอยู่ในบัญชีรายชื่อเดียวกับกลุ่มตาลีบันและอัลกออิดะห์ ส่งผลให้บริษัทไต้หวันต้องขออนุมัติจากรัฐบาลก่อนส่งออกสินค้าใด ๆ ให้กับหัวเหว่ยและ SMIC ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายควบคุมการส่งออกชิปที่เข้มงวดของไต้หวันที่มีต่อบริษัทจีน

ไต้หวัน ถือเป็นฐานการผลิตของ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกและเป็นซัพพลายเออร์หลักให้กับ Nvidia โดยทั้งหัวเหว่ยและ SMIC กำลังแข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยีชิป

*** Amazon ลงทุน 20,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สร้างศูนย์ข้อมูลในออสเตรเลียระหว่างปี 2025-2029 โดยมีเป้าหมายหวังเพิ่มขีดความสามารถด้าน AI ของประเทศ พร้อมขยายและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลในออสเตรเลีย โดยเน้นขยายศักยภาพเซิร์ฟเวอร์และสนับสนุนงานด้าน Generative AI พร้อมกันนี้ Amazon จะสร้างฟาร์มโซลาร์เซลล์ 3 แห่ง ในรัฐวิกตอเรียและควีนส์แลนด์ ด้วยกำลังการผลิตรวม กว่า 170 เมกะวัตต์

รายงาน โดย สิริพงศ์ สิริชุมศรี เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...