ปิดบัญชีม้า! รวบ "ไอ้แม็ค มาบพุด" ตัวการเปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 6 แสน
ระยอง ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการล่าตัวกลางเมืองระยอง รวบ “ไอ้แม็ค มาบพุด” หรือ นายศศิกร อายุ 34 ปี หลังพบเป็นเจ้าของบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกเหยื่อ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อ้างเอาบัตร ปชช. ไปเปิดซิมผิดกฎหมาย หลอกเหยื่อโอนเงินตรวจสอบ ปปง. สุดท้ายสูญกว่า 600,000 บาท!
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. 68 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 พ.ต.ท.นพดล บุตรวงษ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท. และทีมสืบสวน บก.สอท.1 จับกุม นายศศิกร ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 619/2568 ลงวันที่ 18 มิ.ย. 68 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายร้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ ว่าเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 68 ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ “กรมคมนาคมการสื่อสาร” แจ้งว่ามีผู้ร้ายนำบัตรประชาชนของเหยื่อไปเปิดเบอร์ซิมเอไอเอส และใช้ก่ออาชญากรรม จากนั้นได้หลอกเหยื่อให้แอดไลน์ชื่อ “SAMED PLS” พร้อมส่งเอกสารปลอม อ้างว่าเหยื่อถูกซัดทอดจากผู้ต้องหาคนหนึ่งว่าเป็นผู้ขายบัญชีม้าให้ และจะต้องโอนเงินทั้งหมดให้ ปปง. ตรวจสอบ หากไม่ดำเนินการจะถูกดำเนินคดีทั้งครอบครัว เหยื่อเกิดความกลัว รีบโอนเงินไปตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์บอก รวมแล้วกว่า 525,203 บาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ จึงสั่งการเร่งติดตามภายใต้ยุทธการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยตำรวจไซเบอร์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ลงพื้นที่แกะรอยจนทราบว่าเจ้าของบัญชีรับโอนคือ “นายศศิกร” หรือฉายา “ไอ้แม็ค มาบพุด”
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบเบาะแสว่า นายศศิกร เดินอยู่บริเวณสวนสาธารณะศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จึงนำกำลังเข้าจับกุม เมื่อตรวจสอบบัตรประชาชน และตำหนิรูปพรรณพบว่าตรงตามหมายจับ เจ้าตัวไม่ขัดขืน และยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง พร้อมอ้างว่าเมื่อ 1-2 ปีก่อน เคยฝากรถจักรยานยนต์ไว้กับเพื่อนชื่อ “เอ็ม” โดยมีเอกสารบัญชีและบัตรประชาชนอยู่ใต้เบาะรถ บอกให้เพื่อนนำไปคืนแม่ แต่ไม่ทราบว่าเพื่อนนำไปให้ใคร จนกลายเป็นบัญชีม้าในขบวนการหลอกลวง
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาหนัก “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์” ก่อนคุมตัวส่ง บก.สอท.1 ดำเนินคดีต่อไปพล.ต.ท.ไตรรงค์ ฝากเตือนประชาชน หากได้รับโทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแล้วขอข้อมูลส่วนตัว หรือหลอกให้โอนเงิน อย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด ควรตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที หรือโทรสายด่วน 1441 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อป้องกันตกเป็นเหยื่อ.