โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ตำรวจไซเบอร์ ล่าตัว “ก๊กอาน” คนสนิท "ฮุน เซน" คดีฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 08 ก.ค. เวลา 01.12 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. เวลา 07.59 น.

วันนี้ (8 ก.ค.68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปฏิบัติการใหญ่เข้าค้น 19 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และชลบุรี

โดยการค้นครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ โดยเฉพาะกิจกรรมอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางออนไลน์ การฟอกเงินผ่านบัญชีม้า และการทำธุรกรรมกับสกุลเงินดิจิทัล

การตรวจค้นในครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่การจับกุม "ก๊ก อาน (Kok An)" ผู้ต้องหาชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ โดยก๊กอานมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และมีบทบาทสำคัญในกิจการของ Crown Casino Resort ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ เช่น Hybrid Scam, Call Center และการฟอกเงินผ่านบัญชีม้า

การสืบสวนในครั้งนี้เริ่มต้นจากคำสั่งที่ 172/2568 ของ บช.สอท. ซึ่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับก๊กอานและเครือข่ายของเขา โดยพบว่าก๊กอานเป็นเจ้าของสถานที่หลายแห่งในเมืองปอยเปต เช่น อาคาร 25 ชั้น อาคาร 18 ชั้น อาคาร HISO และ Crown Casino Resort ซึ่งเหล่านี้ถูกใช้เป็นศูนย์กลางของการทำธุรกิจหลอกลวงทางออนไลน์ และเป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

อีกทั้งยังพบข้อมูลที่เชื่อมโยงกับการใช้แรงงานคนไทยจำนวนมาก ที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นบัญชีม้าในต่างประเทศ และถูกบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันธุรกรรมต่างๆ ในขณะเดียวกันกลุ่มอาชญากรเหล่านี้ยังมีพฤติกรรมในการกักขังหน่วงเหนี่ยวบุคคลในต่างประเทศด้วย

การสืบสวนยังได้เปิดเผยว่า "ก๊ก อาน" รู้ถึงการกระทำผิดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และมีส่วนร่วมในการจัดการและอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้ จึงมีหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอในการยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับตามคำร้องหมายจับที่ 3924/2568 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2568

ในระหว่างการตรวจค้นครั้งนี้ ตำรวจได้ตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ เช่น รถยนต์หรูจำนวนหลายคัน และเงินสดจำนวน 27 ล้านบาท ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่จะช่วยในการดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป

ภาพ ก๊กอาน ถ่ายรูปกับ

การตรวจค้น 19 จุดในครั้งนี้ยังพบความเชื่อมโยงกับการฟอกเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้สกุลเงินดิจิทัลและการทำธุรกรรมที่หลอกลวง โดยมีการใช้เทคโนโลยีในการหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ จึงเป็นการปฏิบัติการครั้งใหญ่ของตำรวจไซเบอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อล่าตัวผู้กระทำผิด

จากนี้ไป ทางตำรวจไซเบอร์จะมีการแถลงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการในวันนี้ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและเปิดเผยขั้นตอนการทำงานในการจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...