ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ ’ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร‘ ชดใช้ความเสียหายจากคดีจำนำข้าว 10,028 ลบ.
ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ความเสียหายจากคดีจำนำข้าว 10,028 ลบ.
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 พ.ค. 68 15:26 น.
ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหายในคดีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท จากที่กระทรวงคลังเรียกร้องที่ 35,717 ล้านบาท
ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 10,028 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากที่กระทรวงการคลังเรียกร้องวงเงิน 35,717.27 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุด พิพากษากลับคำตัดสินของศาลปกครองกลาง ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจำนำข้าวเพียงส่วนหนึ่ง โดยพิจารณาจากระดับความผิดชอบที่แท้จริง
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า คดีนี้เริ่มต้นในปี 2559 เมื่อกระทรวงการคลังออกคำสั่งที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 กำหนดให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวเต็มจำนวน 35,717.27 ล้านบาท
โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร ได้ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ ทั้งที่ทราบถึงปัญหาการทุจริตในโครงการแล้ว
ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ได้ยื่นฟ้องคำสั่งดังกล่าวต่อศาลปกครองกลาง โดยชี้แจงว่าคำสั่งของกระทรวงการคลังไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน และขาดหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรง
โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังทั้งหมด โดยศาลเห็นว่ากระทรวงการคลังไม่สามารถนำพยานหลักฐานมายืนยันได้ชัดเจนว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ มีเจตนาหรือเป็นผู้กระทำละเมิดโดยตรง
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด โดยนำเสนอหลักฐานเพิ่มเติมและข้อโต้แย้งที่ละเอียดมากขึ้น จนศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท
เรียบเรียง โดย ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์
อีเมล์. pattraporn@efinancethai.comอนุมัติ โดย สุรเมธี มณีสุโข
ดูข่าวต้นฉบับ