JFIN วิ่งรับกระแสดิจิทัล ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเท่าตัว ขานรับนโยบายภาครัฐ สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล
“กลุ่มเจมาร์ท” ผลักดัน “เจ เวนเจอร์ส (J Ventures)”ขานรับธีมการลงทุนในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล หลัง สำนักงาน ก.ล.ต. แถลงแผนหนุนเศรษฐกิจดิจิทัล และการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม ด้านซีอีโอ “ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์” เผย JFIN Chain ตัวเต็ง ได้อานิสงส์ หลังเดินหน้าขยายวงกว้างสร้างอีโคซิสเต็มผ่านระบบบล็อกเชนของกลุ่ม “JFIN Chain” ซึ่งเป็น Blockchain Infrastructure ที่พัฒนามาแล้วมากกว่า 5 ปี และจะเป็นระบบพื้นฐานหลักของกลุ่มเจมาร์ท ในอนาคต
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จํากัด (J Ventures) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีบล็อกเชนในเครือเจมาร์ท กล่าวว่า สำหรับธีมการลงทุนในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลมีแต่ฉายแววสดใสขานรับนโยบายภาครัฐ ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แถลงแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2567 - 2569ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของตลาดทุนไทย และส่งเสริมตลาดทุนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยรัฐบาลได้เห็นชอบในหลักการที่ลดอุปสรรคของการส่งเสริมระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัล อีกทั้งเป็นการสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
ซึ่งส่งผลดีต่อ J Ventures ในฐานะผู้นำตลาด Blockchainตามนโยบายของกลุ่มบริษัทเจมาร์ทที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี โดย เจ เวนเจอร์สได้รุกพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล สู่ผู้นำ DX-Digital Transformation และนำพา JFIN Chain ขยายการเติบโต และขยายระบบนิเวศ ให้กลุ่มบริษัทเจมาร์ท และขยายวงกว้างออกไปในอนาคต โดยระบบ JFIN Chain ถือเป็นระบบ Blockchain ที่ได้รับการยอมรับ และเชื่อมั่นมากว่า 5 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ในวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ภายหลังการแถลงของแถลงแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. และการสนับสนุนของภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องดังกล่าว สนับสนุนให้โทเคนดิจิทัล JFIN ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย Bitkub Exchange ราคา JFIN บนกระดานในช่วง 24ชั่วโมง (ของวันที่ 7 - 8ธันวาคม 2566) ปริมาณซื้อขายหนาแน่นมากกว่า 11ล้าน พุ่งไปมากกว่า 100%โดยมีราคาสูงสุดที่ 12.5 บาทต่อ JFINมองว่าเป็นการสะท้อนการตอบรับของข่าวดีต่อผู้ลงทุน ที่ให้ความสนใจในประเด็นนี้ และจะยิ่งส่งผลดีต่อ Node Validator ซึ่งเป็นกลุ่ม หรือหน่วยงาน ที่นำ JFIN Token มา Stake ไว้กับระบบ JFIN Chain จะได้รับมูลค่าของการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็น Node Validator มากขึ้น
นายธนวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า เจ เวนเจอร์ส เร่งโฟกัส ในฐานะผู้พัฒนา ‘JFIN Chain’ บล็อกเชนเพื่อธุรกิจในเครือเจมาร์ท พร้อมตอบโจทย์การใช้งานบนบล็อกเชนให้ทุกไลฟ์สไตล์อย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดเปิดเผยความคืบหน้า แผนการเดินหน้าจับมือพันธมิตร BitmonsterNFT เกมส์ NFT เลี้ยงสัตว์วิเศษสัญชาติไทย พร้อมให้ผู้เล่นสามารถ สร้างดินแดนและเลี้ยงเหล่ามอนสเตอร์ได้แล้วบน JFIN Chain และเดินหน้าขับเคลื่อนให้บล็อกเชนและแอปพลิเคชันเติบโตสู่ Community เกมเมอร์
พร้อมกับการมุ่งสร้าง Ecosystem ให้แข็งแกร่ง และขยายการใช้งานให้กว้างขึ้น โดยขณะนี้เรามี DApps ที่เข้ามาทำงานบนเชน กว่า 20แอปพลิเคชัน นอกเหนือจากการเดินทางผลักดันให้เกิดการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบสนองการทำงานของธุรกิจแล้ว เรายังต้องการที่จะตอบโจทย์การใช้งานของทุกไลฟ์สไตล์
นอกจากนี้ สำหรับเทรนด์ของ Bitcoin Halving 2024ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า 2567 มองอาจเป็นโอกาส โดยตามสถิติย้อนหลังในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2012 แต่ละครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ราคาของ Bitcoin จะพีคขึ้นทำนิวไฮ ซึ่งอันนี้เป็นสถิติย้อนหลัง และแต่ละปีมีปัจจัยภายนอกไม่เหมือนกัน โดยคาดว่าในช่วงเมษายนจะเป็น Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 ในปี 2024 นี้มองว่าจะนำไปสู่กระแสคริปโตเคอเรนซี่ได้รับความสนใจจากทั้งผู้ลงทุนและสถาบัน สนับสนุนอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัล “Tokenization” ที่จะเชื่อมโลกธุรกิจกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้