โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เทียบฟอร์มหุ้นกู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ “Lotus’s vs BJC” ใครเจ๋งกว่ากัน?

Finnomena

เผยแพร่ 10 เม.ย. 2567 เวลา 09.56 น. • Finnomena Editor

ภาพรวมธุรกิจค้าปลีก

Opportunity : โอกาส

  • การท่องเที่ยวฟื้นตัวดีกว่าคาด ทำให้คาดการณ์ปี2024 จำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาถึง90% จากปี2019
  • รัฐบาลวางกรอบการเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจในวงเงินไม่ต่ำกว่า3.5 ล้านล้านบาท เริ่มเบิกจ่าย ต.ค. 2024

Threat : ความเสี่ยง

  • ต้นทุนการทำธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น ทั้งจากราคาพลังงาน วัตถุดิบ และการขนส่ง
  • การบริโภคภาคเอกชนคาดการขยายตัวต่ำจากรายได้ที่ฟื้นตัวช้าและภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง

การวิเคราะห์หุ้นกู้คุณภาพดี แบ่งออกเป็น2 ส่วน

  • Fundamental ประกอบด้วย ความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น, ความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นไม่รวมInventory, หนี้สินต่อทุน, ความสามารถในการทำกำไร, ความสามารถในการชำระดอกเบี้ย และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
  • Momentum ประกอบด้วย Bloomberg default probability และ Altman Z-score

Bloomberg Default Probability และ Altman Z-score ของกลุ่มค้าปลีก

  • จากกราฟBloomberg Default Probability ของBJC ถือว่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน แต่หากดูจากค่าBloomberg Default Probability แล้วอยู่ที่0.23% ยังถือว่าเป็นค่าที่ต่ำ หมายความว่าในอีก12 เดือนข้างหน้ามีโอกาสเพียง0.23% ที่BJC จะผิดนัดชำระหนี้
  • Altman Z-score ของกลุ่มค้าปลีกทุกตัวมีค่าเกิน0.50 ซึ่งเป็นระดับที่ลงทุนได้

เปรียบเทียบFundamental ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน

1. ความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น: วิเคราะห์จากตัวเลข อัตราส่วนทุนหมุนเวียน หรือCurrent Ratio มีสูตรดังนี้

อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (Current Ratio) = สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Asset) / หนี้สินหมุนเวียน (Current Liabilities)

  • ถ้าค่า> 1 = สินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน หมายถึงบริษัทนั้นมีความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นที่ดี
  • ถ้าค่า< 1 = หนี้สินหมุนเวียนมากกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน หมายถึงบริษัทนั้นอาจมีปัญหาในการชำระหนี้ระยะสั้นได้

Current Ratio ของ Lotus’s อยู่ที่ 0.93 ในขณะที่ Current Ratio ของ BJC อยู่ที่ 0.66

2. หนี้สินต่อทุน(D/E Ratio): แสดงสัดส่วนการกู้หนี้ยืมสินว่าเป็นกี่เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้น มีสูตรดังนี้

หนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) = หนี้สินรวม (Total Debt) / ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity)

ยิ่งD/E สูง จะแสดงถึงภาระหนี้ที่สูง สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทนั้น โดยD/E จองLotus’s อยู่ที่4.06 ในขณะที่D/E ของBJC อยู่ที่1.69

3. ความสามารถในการทำกำไร: วิเคราะห์จากตัวเลข อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) เป็นอัตราส่วนที่แสดงว่าขาย100 บาท จะมีกำไรสุทธิเท่าไรยิ่งNet Profit Margin สูง แสดงว่าบริษัทนั้นมีความสามารถในการทำกำไร มีสูตรดังนี้

อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) = (กำไรสุทธิ / ยอดขายสุทธิ) *100

อัตรากำไรสุทธิของ Lotus’s อยู่ที่ 0.15 ในขณะที่ BJC อยู่ที่ 3.40

4. ความสามารถในการชำระดอกเบี้ย: วิเคราะห์จากตัวเลข อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย(Times Interest Earned Ratio) มีสูตรดังนี้‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍‍‍‍‍ ‍‍

อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย (Interest Coverage Ratio) = กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT)/ ดอกเบี้ยจ่าย(เท่า)‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍‍‍‍‍ ‍‍

  • ถ้าค่า> 1 กิจการมีรายได้เพียงพอต่อดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย
  • ถ้าค่า< 1 กิจการไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ เจ้าหนี้สามารถบังคับหนี้ได้ตามกฎหมาย

สำหรับอัตราส่วนนี้ ยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี โดยค่าเฉลี่ยInterest Coverage Ratio ของLotus’s อยู่ที่3.85 ในขณะที่BJC อยู่ที่2.16

5. กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน(Cash Flow from Operating: CFO) คือกระแสเงินสดที่เหลือจากการใช้จ่ายเพื่อให้กิจการดำเนินกิจการต่อได้

กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของLotus’s อยู่ที่17,637 ล้านบาท ในขณะที่BJC อยู่ที่19,856 ล้านบาท

สรุป2 หุ้นกู้ ค้าปลีกยักษ์ใหญ่Lotus’s vs BJC

“ชมรมหุ้นกู้” รายการที่จะพาผู้เชี่ยวชาญมาพูดคุยถึงข่าวในวงการหุ้นกู้ หุ้นกู้ออกใหม่ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกู้ พร้อมคลีนิกหุ้นกู้ ให้นักลงทุนได้สอบถามความเห็นที่เป็นกลางตามหลักสากล และวิธีลงทุนในหุ้นกู้ได้อย่างถูกต้อง! 🔔 พบกันทุกวันอังคาร เวลา 19.00 น. ที่ Facebook และ Youtube ของ Finnomena

สำหรับ EP เจาะลึกหุ้นกู้ของ TPIPP สามารถรับชมได้ที่ https://www.youtube.com/live/ZQ1QFENP4Fc

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...