โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ไม่รับวินิจฉัยสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ โยน เป็นหน้าที่ กกต.

อีจัน

อัพเดต 25 เม.ย. 2562 เวลา 08.33 น. • เผยแพร่ 25 เม.ย. 2562 เวลา 08.31 น. • อีจัน
จากกรณี กกต.ยื่นคำร้องถึงศาลรัฐธรรม&#36…

จากกรณี กกต.ยื่นคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณ จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์

กระทั่งวานนี้(24 เม.ย. 62) เวลาประมาณ 16.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่หนังสือชี้แจงคำร้องดังกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก(7 ต่อ 2) ไม่รับคำร้องกรณีที่ กกต. ยื่นขอให้พิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับปัญหาการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า กกต. ไม่สามารถใช้สิทธิยื่นต่อศาลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (1) ได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญได้บัญญัติกระบวนการและขั้นตอนในการยื่นคำร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของบทบัญญัติแห่งกฎหมายไว้เป็นการเฉพาะแล้ว โดยการใช้สิทธิทางศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 และการใช้สิทธิทางผู้ตรวจการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำร้องโดยตรงในประเด็นนี้ โดยอาศัยช่อทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (1) ได้

ส่วนคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า จะคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยวิธีใดนั้น กรณีดังกล่าวเป็นอำนาจและหน้าที่ของผู้ร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 128 ซึ่งต้องกระทำหลังจากมีการประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตแล้ว และข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่ปรากฏว่า ผู้ร้องได้ใช้หน้าที่และอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติ กรณีนี้จึงยังถือไม่ได้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ร้องเกิดขึ้นแล้ว คำร้องนี้จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 44 ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...