พระราชินีคามิลลา เผยความลับสุดช็อก เคยถูกลวนลามบนรถไฟสมัยวัยรุ่น
“ควีนคามิลลา” เผยความลับสุดช็อก เล่านาทีสู้ยิบตาหลังถูกลวนลามบนรถไฟสมัยวัยรุ่น หวังปลุกพลังหญิงสู้ความรุนแรง
สมเด็จพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักร ทรงสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ฟังทั่วประเทศ หลังเปิดเผยเรื่องราวส่วนพระองค์เป็นครั้งแรก ถึงประสบการณ์เลวร้ายเมื่อครั้งยังทรงเป็นวัยรุ่น ต้องต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดจากการถูกลวนลามทางเพศบนรถไฟ
พระองค์ทรงเลือกที่จะแบ่งปันประสบการณ์นี้ระหว่างการสนทนาพิเศษในรายการวิทยุ “Today” ของสถานีบีบีซี เรดิโอ 4 เพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมในประเด็นความรุนแรงต่อสตรีและความเกลียดชังผู้หญิง
พระองค์ทรงย้อนความหลังว่า เกิดขึ้นขณะเดินทางไปพบพระมารดาเมื่อครั้งพระชนมายุประมาณ 16 หรือ 17 พรรษา ในขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ จู่ๆ ก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามาจู่โจม พระองค์ตัดสินใจสู้กลับอย่างไม่ยอมแพ้
แม้ฝันร้ายจะผ่านไปนานจนเกือบจะลืมเลือนไปแล้ว แต่ความรู้สึกโกรธแค้น เดือดดาล ในตอนนั้นยังคงฝังลึก โดยทรงจำได้แม่นยำว่าเมื่อลงจากรถไฟ พระมารดาถึงกับตรัสถามด้วยความตกใจว่าทำไมผมเผ้าถึงชี้ฟูและกระดุมเสื้อโค้ทหลุดหายไป ซึ่งเป็นร่องรอยจากการต่อสู้ขัดขืนในครั้งนั้น
การออกมาเปิดพระทัยในครั้งนี้ มีแรงบันดาลใจมาจากความกล้าหาญของครอบครัว “ฮันต์” ที่มาร่วมรายการด้วย เมื่อปีที่ผ่านมา จอห์น ฮันต์ ผู้ประกาศข่าวแข่งม้าของบีบีซี ต้องสูญเสียภรรยาและลูกสาว 2 คนไปอย่างไม่มีวันกลับจากเหตุฆาตกรรมโหดภายในบ้านพักฝีมืออดีตแฟนหนุ่มของลูกสาว
ช็อก ภรรยา-ลูกสาวผู้ประกาศช่องดัง ถูกฆ่ายกครัว เพื่อนบ้านได้ยินกรีดร้องโหยหวน
สมเด็จพระราชินีคามิลลาทรงระบุว่า เมื่อได้รับรู้เรื่องราวความสูญเสียของครอบครัวฮันต์ ทำให้พระองค์รู้สึกร่วมกับเรื่องนี้อย่างรุนแรง ตัดสินใจนำประสบการณ์ในอดีตที่เคยซุกซ่อนไว้ออกมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อแสดงจุดยืนเคียงข้างเหยื่อความรุนแรงทุกคน
แหล่งข่าวจากสำนักพระราชวังระบุเพิ่มเติมว่า แม้ควีนคามิลลาจะไม่เคยมีความตั้งใจที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะมาก่อน แต่ทรงเล็งเห็นว่าหากการพูดถึงประสบการณ์ตรงของพระองค์จะช่วยลบล้างตราบาปของเหยื่อ และช่วยเสริมสร้างความกล้าหาญให้เด็กผู้หญิงในปัจจุบันกล้าที่จะลุกขึ้นสู้ ขอความช่วยเหลือ หรือพูดถึงมัน ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
ทั้งนี้ พระองค์ยังทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้การศึกษาในโรงเรียนเพื่อต่อต้านแนวคิดเกลียดชังผู้หญิง ซึ่งเป็นรากฐานของความรุนแรงอีกด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง