โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ลบภาพจำสูงวัยโลว์เทค! CMMU เผย ‘Silver Age’ ยุคใหม่ติดจอ 4 ชม./วัน ใช้ AI คล่องปรื๋อ 94% ยก ‘ChatGPT’ เป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่ง

THE STANDARD

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
ลบภาพจำสูงวัยโลว์เทค! CMMU เผย ‘Silver Age’ ยุคใหม่ติดจอ 4 ชม./วัน ใช้ AI คล่องปรื๋อ 94% ยก ‘ChatGPT’ เป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่ง

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ได้เปิดเผยข้อมูลงานวิจัยในหัวข้อ ‘Silver Age Technology Adoption’ ซึ่งลบภาพจำเดิมๆ ที่ว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่ตามเทคโนโลยีไม่ทัน โดยผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่ากลุ่มคนวัย 50 ปีขึ้นไป หรือ ‘Silver Age’ ได้เปลี่ยนสถานะกลายเป็นผู้บริโภคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบแล้วในปัจจุบัน

ข้อมูลเชิงสถิติยืนยันชัดเจนว่า กลุ่มเป้าหมายนี้กว่า 95% ครอบครองสมาร์ตโฟนเป็นของตนเอง และอีกกว่า 61% มีแท็บเล็ตไว้ใช้งาน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ได้กลายเป็นประตูสำคัญที่พาพวกเขาเข้าสู่โลกออนไลน์ ส่งผลให้พฤติกรรมการเสพสื่อและการติดต่อสื่อสารเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยมีการใช้แอปพลิเคชันอย่าง LINE และ Facebook เป็นช่องทางหลักในการเชื่อมต่อกับสังคม

ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสองปรากฏการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศ นั่นคือการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ข้อมูลจากปี 2567 ระบุว่าประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงขนาดของตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่น่าจับตามองคืออัตราการใช้อินเทอร์เน็ตในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากเพียง 18.20% ในปี 2560 พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 69.30% ในปี 2567 ปัจจุบันมีผู้สูงอายุวัย 50 ปีขึ้นไปกว่า 19.6 ล้านคนใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลในชีวิตประจำวัน โดยใช้เวลาออนไลน์เฉลี่ยสูงถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับคนวัยทำงาน

ประเสริฐ ธวัชโชคทวี อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ได้กล่าวในงานสัมมนาว่า สังคมสูงวัยไม่ใช่แค่เรื่องของการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรผู้สูงอายุ แต่คือการเปลี่ยนโครงสร้างความต้องการของประเทศทั้งระบบ ตั้งแต่เรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย ไปจนถึงคุณภาพชีวิต ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดที่ทุกภาคส่วนต้องเร่งปรับตัว

การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจมหาศาลที่ซ่อนอยู่ในตลาดเศรษฐกิจสูงวัย หรือ ‘Silver Economy’ ซึ่งทางสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI ร่วมกับสภาพัฒน์ฯ ได้คาดการณ์ว่าตลาดนี้จะมีมูลค่าเติบโตสูงถึง 3.5 ล้านล้านบาท ภายในปี 2576 ผู้ประกอบการที่เข้าใจอินไซต์นี้จึงจะได้เปรียบในการแข่งขัน

งานวิจัยชิ้นนี้ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 621 คน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีรายได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป จนถึงมากกว่า 150,000 บาทต่อเดือน กลุ่มนี้จึงไม่ใช่แค่ผู้สูงวัยทั่วไป แต่เป็นตลาดแห่งคุณค่าที่การตัดสินใจซื้อขับเคลื่อนด้วยความรู้และความคาดหวังในคุณภาพมากกว่าราคา

ในด้านพฤติกรรมการใช้งานแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิง YouTube ครองแชมป์อันดับหนึ่งที่ 90% ตามมาด้วย Netflix ที่ 56% ส่วนการซื้อสินค้าออนไลน์ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดย Shopee เป็นแพลตฟอร์มหลักที่ 73% ตามด้วย Lazada และ TikTok Shop แสดงให้เห็นความคุ้นเคยกับระบบอีคอมเมิร์ซ

สิ่งที่สร้างความประหลาดใจที่สุดคือการยอมรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยพบว่ากลุ่ม Silver Age กว่า 94% เคยใช้งาน AI มาแล้ว ซึ่งเครื่องมือยอดนิยมอันดับหนึ่งคือ ChatGPT ที่มีผู้ใช้งานถึง 72% รองลงมาคือ Google Gemini และ Microsoft Copilot โดยส่วนใหญ่นำมาใช้เพื่อค้นหาข้อมูลและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

งานวิจัยยังค้นพบอินไซต์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับความแตกต่างทางเพศ โดยพบว่าผู้ชายวัย 50+ มีแนวโน้มเป็นกลุ่มเปิดรับเทคโนโลยีด้านสุขภาพ หรือ ‘Health Tech’ เร็วกว่าผู้หญิงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์แจ้งเตือนฉุกเฉิน หรือแอปพลิเคชันปรึกษาแพทย์ทางไกล เพราะผู้ชายมีแนวคิดที่มุ่งเน้นการจัดการและการป้องกันความเสี่ยงที่จับต้องได้

ในทางกลับกัน ผู้หญิงมีระดับความกังวลสูงกว่าผู้ชายในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ปัจจัยด้านรายได้ก็มีผลต่อความกังวลเช่นกัน กลุ่มรายได้ปานกลางจะกังวลเรื่องความปลอดภัยมากที่สุด ในขณะที่กลุ่มรายได้สูงซึ่งมีความมั่นคงทางการเงินแล้ว จะหันไปโฟกัสกับความกังวลเรื่องสุขภาพร่างกายเป็นหลัก

แม้จะเปิดรับเทคโนโลยี แต่ก็ยังมีอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการใช้งาน นั่นคือความซับซ้อนของระบบและฟังก์ชันที่ยุ่งยากเกินไป รวมถึงปัญหาทางกายภาพ เช่น ตัวหนังสือที่มีขนาดเล็ก และความหวาดกลัวเรื่องข้อมูลรั่วไหลหรือการถูกหลอกลวง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนวัยนี้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ก่อนตัดสินใจใช้งาน

ปัจจัยที่ช่วยทลายกำแพงความกังวลได้ดีที่สุดไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่อ แต่คือคำแนะนำจากแหล่งข้อมูลที่ไว้ใจได้ โดยผลสำรวจระบุว่าช่องทางออนไลน์ของแบรนด์โดยตรง หรือ Owned Media ได้รับความน่าเชื่อถือสูงสุดถึง 59% รองลงมาคือรีวิวจากผู้ใช้จริง และคำแนะนำจากคนในครอบครัว

เพื่อเจาะตลาดกลุ่มนี้ให้สำเร็จ ภาคธุรกิจควรนำกลยุทธ์ ‘5A Star metrix Framework’ ไปประยุกต์ใช้ เริ่มจาก Accessibility หรือการเข้าถึง เทคโนโลยีต้องถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้ และลดทอนความยุ่งยากซับซ้อน เพื่อไม่ให้ประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีตกลายเป็นกำแพงปิดกั้นการเรียนรู้สิ่งใหม่

ต่อมาคือ Assurance หรือความมั่นใจ เทคโนโลยีต้องสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ผ่านการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญ และมีรีวิวที่ตรวจสอบได้จริง ถัดมาคือ Autonomy หรือความเป็นอิสระ เครื่องมือเทคโนโลยีควรช่วยเสริมพลังให้ผู้สูงวัยสามารถดูแลตัวเองได้ และดำรงชีวิตได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่นตลอดเวลา

ปัจจัยที่สี่คือ Affordability หรือความคุ้มค่า กลุ่ม Silver Age ไม่ได้มองหาของที่ถูกที่สุด แต่ต้องการราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับคุณค่าที่ได้รับ การสื่อสารให้เห็นถึงความคุ้มค่าในระยะยาวจึงเป็นกุญแจสำคัญ และสุดท้ายคือ Affinity หรือความผูกพัน เทคโนโลยีควรเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ในครอบครัว

ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งบ้าน หรือมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ลูกหลานมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุ จะมีโอกาสถูกตัดสินใจซื้อสูงกว่า เพราะสำหรับคนวัยนี้ ความอุ่นใจจากการได้เชื่อมต่อกับลูกหลานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และหากเทคโนโลยีสามารถตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความสัมพันธ์ได้ ก็จะสามารถชนะใจชาว Silver Age ได้อย่างยั่งยืน

ธนาวรรณ กล่อมจิตร์ หัวหน้าทีมวิจัย ทิ้งท้ายว่า การเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริงของกลุ่ม Silver Age จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ สร้างการยอมรับ และคว้าโอกาสจากเศรษฐกิจสูงวัยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยในสังคมไทยให้ก้าวทันโลกยุค AI ได้อย่างยั่งยืน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...