พาณิชย์ เปิดข้อมูล "เศรษฐกิจสหรัฐ" ปี 69 โตแกร่ง 2.25% อานิสงส์ลงทุน AI พุ่ง
เว็ปไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในประเทศ (สคต.) เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานว่า Vanguard คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2569 โตแกร่งกว่า 2.0 %จากแรงลงทุน AI ในขณะที่เงินเฟ้อยังสูง และแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ยจำกัด
ทั้งนี้ในรายงาน Vanguard Economic and Market Outlook 2026 ซึ่งจัดทำโดย Vanguard Group, Inc. บริษัทบริหารการลงทุนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2569 มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) จะอยู่ที่ประมาณ 2.25 % สูงกว่าระดับศักยภาพ จากแรงขับเคลื่อนสำคัญ คือ การใช้จ่ายด้านการลงทุนของภาคธุรกิจ
โดยเฉพาะการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ซึ่งกลายเป็นเสาหลักใหม่ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2568 และจะมีบทบาทโดดเด่นต่อเนื่องในปี 2569
รายงานระบุว่า การใช้จ่ายด้านการลงทุน (Capital Expenditures) จะยังเป็นแกนหลักในการเสริมความยืดหยุ่นให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯและช่วยผลักดัน GDP ให้อยู่เหนือ 2 % โดยในช่วงปีที่ผ่านมา การลงทุนโดยรวมเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต แม้อยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
หนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนหลัก คือ การเร่งลงทุนด้าน AI ครอบคลุมตั้งแต่ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ไปจนถึงซอฟต์แวร์ขั้นสูง โดย Vanguard ประเมินว่า ภายใน 12 เดือนข้างหน้า การลงทุนด้าน AI จะสร้างเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ราว 4.5 แสนล้านดอลลาร์ และจะหนุนให้การลงทุนที่มิใช่ที่อยู่อาศัย (Nonresidential Investment) ขยายตัวสูงถึง 7 %
ในด้านนโยบายการค้า รายงานชี้ว่า นโยบายภาษีศุลกากร และการปรับทิศทางการค้าของสหรัฐฯ แม้จะสร้างแรงกดดันเชิงชะงักงันควบเงินเฟ้อ (Stagflationary) ต่อเศรษฐกิจ แต่ผลกระทบยังอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากภาคธุรกิจมีการเร่งนำเข้าสินค้าล่วงหน้า และการส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้แรงกดดันบางส่วนถูกเลื่อนออกไปในปี 2569 นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากนโยบายการคลังในระดับปานกลางและจังหวะการลงทุนที่ยังแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยลดทอนผลกระทบด้านลบดังกล่าว
ด้านตลาดแรงงาน การจ้างงานในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ จากระดับเฉลี่ยประมาณ 150,000 ตำแหน่งต่อเดือน เหลือราว 30,000 ตำแหน่งในช่วงล่าสุด อย่างไรก็ดี Vanguard มองว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความยืดหยุ่น โดยกว่า 70 % ของการชะลอตัวมาจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรและการย้ายถิ่นฐาน ทำให้อุปทานแรงงานเติบโตช้าลงและลดความจำเป็นในการจ้างงานใหม่ของภาคธุรกิจ
Vanguard ประเมินว่า เพื่อรักษาอัตราการว่างงานให้อยู่ในระดับทรงตัว เศรษฐกิจสหรัฐฯ จำเป็นต้องสร้างงานใหม่ประมาณ 60,000 ตำแหน่งต่อเดือน และคาดว่าอัตราการว่างงานจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 4.2 % ภายในสิ้นปี 2569
ในด้านเงินเฟ้อ รายงานระบุว่า เงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทรงตัวในระดับค่อนข้างสูง โดยมีโอกาสอยู่เหนือ 2.5 % จากผลของการส่งผ่านภาษีศุลกากรและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุน ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีพื้นที่จำกัดในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน และอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปีจะอยู่ใกล้ระดับ 3.5 % ซึ่งถือเป็นระดับดอกเบี้ยที่เป็นกลางของเศรษฐกิจ
สำนักงานสคต.นครชิคาโก ให้ข้อคิดเห็นว่า โดยภาพรวม เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2569 ยังคงเป็นตลาดสำคัญที่มีศักยภาพสูง สำหรับผู้ประกอบการไทยหากสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับทิศทางการลงทุน เทคโนโลยี การยกระดับมาตรฐานการผลิตและความยั่งยืน (Environment, Social and Governance-ESG) และนโยบายการค้าได้อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และความได้เปรียบในการแข่งขัน และการรักษาส่วนแบ่งในตลาดได้อย่างยั่งยืน
ควรติดตามนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมพิจารณาปรับโครงสร้างราคา การกระจายตลาด และใช้ประโยชน์จากการเร่งส่งมอบหรือการบริหารสินค้าคงคลัง เพื่อรับมือกับต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทสหรัฐฯ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงเทคโนโลยี ตลาด และเครือข่ายการจัดจำหน่ายได้ดีขึ้น ซึ่งในปี 2569 Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย ส่งผลต่อเงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ตลาดแรงงานสหรัฐฯ เติบโตช้าจากปัจจัยโครงสร้าง ส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มีความระมัดระวังมากขึ้น สินค้าอุปโภคบริโภคจึงควรเน้นความคุ้มค่า ราคากลาง ประหยัด