โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กฟผ.ดัน ‘Quick Big Win’ชงก่อสร้าง โซลาร์ลอยนํ้า 348 MW สร้างความยั่งยืนพลังงานระยะยาว

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 08 พ.ย. เวลา 09.32 น. • เผยแพร่ 08 พ.ย. เวลา 22.45 น.

กฟผ. ขานรับนโยบาย Quick Big Win ของ “รมว.พลังงาน” ชงก่อสร้างโซลาร์ทุ่นลอยนํ้า 3 เขื่อนใหญ่ระยะแรกกำลังผลิตรวม 348 เมกะวัตต์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย ลดปล่อย CO2 หนุน Net Zero

จากนโยบาย “Quick Big Win” ด้านพลังงาน ของ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ยึดหลักการดำเนินงานสำคัญ 3 ด้าน หรือ The Energy Trilemma for Transition Era เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ “ประชาชนและประเทศ” ทั้งการสร้าง ความมั่นคงทางพลังงาน (Security) พลังงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Economics) และพลังงานคาร์บอนตํ่า (Sustainability)

ไม่เพียงสอดคล้องรับนโยบายของรัฐบาลในการ “ลดค่าพลังงาน” และ "ส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานสะอาด" เพื่อสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2050

ขณะเดียวกันยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยนํ้า ใน 3 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล, เขื่อนศรีนครินทร์, เขื่อนวชิราลงกรณ ด้วยกำลังการผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์ ที่คาดว่าจะกระตุ้นการลงทุนกว่า 53,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดเทคโนโลยีและ Know-how ภายในประเทศ ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้ามีต้นทุนตํ่า พร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์( CO2) ได้อีกกว่า 0.82 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี หรือราว 20.50 ล้านตัน ตลอดระยะเวลา 25 ปี

ล่าสุดมีรายงานว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้นำโครงการโซลาร์ทุ่นลอยนํ้าของ 3 เขื่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างระยะแรก รวมกำลังผลิต 348 เมกะวัตต์ เสนอไปยังสำนักงานนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สนพ.) พิจารณากลั่นกรอง ก่อนนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ในการอนุมัติการก่อสร้าง ตามนโยบาย “Quick Big Win” ด้านพลังงาน

ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าว สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์การลงทุนในระยะ 5 ปี ( 2568-2572) ของกฟผ.ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน ที่มีเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยนํ้ารวมกำลังผลิต 2,725 เมกะวัตต์ ในปี 2573 จากศักยภาพการติดตั้งของเขื่อนทั่วประเทศที่มีถึง 10,000 เมกะวัตต์

ประกอบกับที่ผ่านมาโครงการโซลาร์ทุ่นลอยนํ้าของทั้ง 3 เขื่อน กฟผ. ได้เตรียมความพร้อมการดำเนินงานรองรับ โดยทยอยเปิดประกวดราคาก่อสร้างโครงการฯ มาเป็นระยะ แต่ยังไม่สามารถประกาศผู้ชนะการประมูลได้ เนื่องจากต้องรอโครงการผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ก่อน ได้แก่ โครงการโซลาร์ทุ่นลอยนํ้าเขื่อนศรีนครินทร์ ระยะที่ 1 กำลังผลิต 140 เมกะวัตต์

รวมถึงโครงการโซลาร์ทุ่นลอยนํ้าเขื่อนภูมิพล ระยะที่ 1 จ.ตาก ขนาดกำลังผลิต 158 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ทุ่นลอยนํ้าต่อเนื่องที่เขื่อนวชิราลงกรณ ระยะที่ 1 ขนาดกำลังผลิต 50 เมกะวัตต์

ทั้ง 3 โครงการคาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2570 รวมกำลังการผลิตทั้ง 3 โครงการ 348 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 14,000 กว่าล้านบาท ที่จะต้องเร่งเสนอให้ ครม. ชุดปัจจุบันอนุมัติการก่อสร้างตามนโยบาย “Quick Big Win” ก่อนที่จะทยอยก่อสร้างต่อไป

“ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ดำเนินโครงการโซลาร์ทุ่นลอยนํ้าไปแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 45 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เมื่อ ปี 2564 และเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 24 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เมื่อ ปี 2567”

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยนํ้านี้ เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์สำคัญของ กฟผ. ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ซึ่งใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยนํ้าในอ่างเก็บนํ้าของเขื่อน เป็นการใช้โครงสร้างและอุปกรณ์หลักร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังนํ้าที่มีอยู่เดิม ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ทำให้ค่าไฟฟ้ามีราคาที่เหมาะสม ช่วยลดการนำเข้าก๊าซ LNG ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพงได้

นอกจากนี้ การติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ใช้พื้นที่เพียงไม่ถึง 1% ของพื้นที่ผิวนํ้าในอ่างเก็บนํ้า จึงไม่กระทบต่อการทำประมง การสัญจรทางนํ้า และการใช้ประโยชน์จากพื้นที่นํ้าภายในเขื่อนยังช่วยลดการใช้พื้นที่ทางการเกษตรได้อีกทางหนึ่ง

โครงการโซลาร์ทุ่นลอยนํ้าของ กฟผ. นั้น ดำเนินงานด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางผังพื้นที่ โดยคำนึงถึงทัศนียภาพและสิ่งแวดล้อม รอบ ๆ เขื่อน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่เป็นแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบดับเบิลกลาส (Double Glass) ที่มีคุณสมบัติเป็นกระจกทั้งสองด้าน ช่วยป้องกันความชื้นซึมเข้าสู่แผง ป้องกันสิ่งปนเปื้อนลงสู่แหล่งนํ้า และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ขณะที่ทุ่นลอยนํ้าผลิตจากวัสดุ HDPE (High Density Poly Ethylene) ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับท่อส่ง นํ้าประปา จึงปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม แผงเซลล์แสงอาทิตย์ยังได้รับการติดตั้งให้มีความลาดชัน เอื้อให้แสงและออกซิเจนสามารถผ่านลงสู่ใต้นํ้าจึงไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพนํ้า หรือการดำรงอยู่ของสัตว์นํ้าในพื้นที่ อีกทั้งตัวแผง ฯ ยังมีส่วนช่วยลดการระเหยของนํ้า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการทรัพยากรนํ้าของเขื่อน

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยนํ้าของ กฟผ.ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศ แต่เป็นก้าวสำคัญเพี่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนพลังงานและรับมือกับราคาพลังงานที่ผันผวน พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ด้วยการผสานเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าสูงสุด ควบคู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน และมีส่วนสนับสนุนในการบรรลุปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ของประเทศได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...