หนุ่มแชร์ประสบการณ์ภาวะหล้ามเนื้อสลายเกือบไม่รอด เหตุจากวิ่งเทรล 60 กิโล
ผู้ใช้อินตราแกรมที่มีชื่อว่า piicha ได้ออกมาแบ่งปันประสบการณ์ เกือบเอาชีวิตไม่รอดหลังไป วิ่งอัลตร้าเทรล 65 กิโลเมตร 12 ชั่วโมง และเกิดภาวะกล้าเนื้อสลาย โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าวันที่เกิดเหตุอากาศค่อนข้างร้อนมาก ตนเองดื่มน้ำปกติ และไม่มีสัญญาณใดเตือนก่อนเกิดภาวะนี้ แต่ขณะกลับตนเองรู้สึกเหนื่อยเพลียจึงตัดสินใจแวะนอนที่โรงแรม และหลังจากเขาไปพักที่โรงแรมได้ไม่ถึง 5 นาที ก็ได้เกิดอาการ เวียนหัว คลื่นไส้ หน้ามืด รู้สึกเหมือนร่างกายเอาไม่อยู่ ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ยังพอมีสติจึงโทร 1669 และเดินออกมาขอความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นจึงหมดสติไปรู้สึกตัวอีกที ผ่านไป 2 วัน คือวันที่ 11 พฤศจิกายน 68 วันที่ตนเองสลบไปคือวันที่ 9 ตื่นมาแบบ งง ๆ ตามัว แขนขาถูกมัด มีอุปกรณ์หลายอย่างที่ใช้ดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในสภาวะฉุกเฉิน ได้คำตอบว่ เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อสลายขั้นรุนแรง โซเดียมตก ค่า CK พุ่งถึง 90,000 ขณะที่หมดสติแพทย์ตรวจหลายอย่างมากโชคดีที่ไม่มีสภาวะไตวาย ที่หมดสติไป 2 วันจำอะไรไม่ได้เลยใช้เวลาในการรักษาตัว 12 วัน เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าความช่วยเหลือเพียงเสี้ยววินาที สามารถช่วยชีวิตคนได้จริงอยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยชีวิตผมไว้
ภาวะกล้ามเนื้อสลาย หรือ Rhabdomyolysis เป็นภาวะที่เกิดจากการแตกสลายของเซลล์กล้ามเนื้ออย่างเฉียบพลัน ทำให้สารภายในกล้ามเนื้อ เช่น ไมโอโกลบิน (Myoglobin) และเอนไซม์ต่าง ๆ ถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ภาวะนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัย โดยแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
1. การบาดเจ็บหรือแรงกระแทกรุนแรง อุบัติเหตุ รถชน ถูกของหนักทับ บาดเจ็บจากไฟไหม้หรือไฟฟ้าช็อต ถูกบดอัดเป็นเวลานาน (Crush injury)
2. การใช้กล้ามเนื้อหนักเกินไป ออกกำลังกายหักโหม เช่น วิ่งมาราธอน ยกน้ำหนักหนักมาก ออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้เกิดภาวะลมแดดร่วมด้วย
3. ยาและสารพิษ ยาลดไขมันกลุ่ม Statin ยาเสพติด เช่น ยาบ้า โคเคน เฮโรอีน แอลกอฮอล์พิษงูและแมลงบางชนิด
4. การติดเชื้อและโรคบางชนิด การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียรุนแรง โรคทางเมตาบอลิซึม เช่น ภาวะโพแทสเซียมต่ำ
อาการอาจแตกต่างกันไปตามความรุนแรง แต่สัญญาณสำคัญที่ควรระวัง ได้แก่
1. อาการทางกล้ามเนื้อ
- ปวดกล้ามเนื้ออย่างมาก
- กล้ามเนื้อแข็ง ตึง หรืออ่อนแรง
- ขยับร่างกายลำบาก
2. ปัสสาวะผิดปกติ
- ปัสสาวะสีเข้มเหมือนชาหรือโคล่า เนื่องจากมีไมโอโกลบินออกมา
- ปัสสาวะน้อยหรือไม่ออกเลย
3. อาการอื่น ๆ ร่วม
- อ่อนเพลีย คลื่นไส้
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ (จากเกลือแร่ผิดปกติ)
- ในบางรายอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลัน
การรักษาที่สำคัญคือรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยทั่วไปประกอบด้วย
1. ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด (IV Fluid)
เพื่อช่วยขับสารพิษ เช่น ไมโอโกลบิน ออกจากไต ลดความเสี่ยงไตวาย
2. ควบคุมสมดุลเกลือแร่
- แพทย์จะปรับระดับ
- โพแทสเซียม
- แคลเซียม
- ฟอสเฟต
- เพราะความผิดปกติอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
3. หยุดยาและสิ่งที่เป็นสาเหตุ
เช่น หยุดยา statin หรือสารเสพติด
4. ฟอกไต (ในรายที่อาการรุนแรง)
ใช้ในผู้ป่วยที่เกิดไตวายเฉียบพลันหรือมีภาวะน้ำท่วมปอด
การป้องกัน
- ไม่ออกกำลังกายหักโหมเกินกำลัง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยา/สารเสพติด
- หากใช้ยาลดไขมันและมีอาการปวดกล้ามเนื้อผิดปกติควรพบแพทย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง