วาระสุดท้ายกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ วังหน้าสมัยรัชกาลที่ 5
วาระสุดท้ายกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ วังหน้าสมัยรัชกาลที่ 5
กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ) ทรงเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือ “วังหน้า” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นวังหน้าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) หลายคนจึงอาจเข้าใจไปว่าตำแหน่งวังหน้าเป็นการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่
ตำแหน่งวังหน้านี้ พระมหากษัตริย์จะทรงเป็นผู้แต่งตั้ง โดยจะทรงเลือกพระราชอนุชาขึ้นมาดำรงตำแหน่งวังหน้า
แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 กลับกลายเป็นว่าผู้สนับสนุนให้ยกพระองค์เจ้ายอดยิ่งยศขึ้นมาเป็นวังหน้า คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ขุนนางเปี่ยมอำนาจ โดยที่รัชกาลที่ 5 ซึ่งขณะนั้นทรงมีพระชนมายุราว 15 พรรษา ไม่ได้ทรงเป็นผู้เลือกเอง
ตลอดระยะเวลาที่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทรงเป็นวังหน้า มีเหตุการณ์ใหญ่ที่ทำให้เกิดความบาดหมางใจระหว่างพระองค์กับวังหลวง คือ วิกฤตการณ์วังหน้า ใน พ.ศ. 2417
เหตุการณ์นี้เริ่มจากเหตุไฟไหม้วังหลวงที่ลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ ถึงขั้นที่วังหน้าทรงขอลี้ภัยในสถานกงสุลใหญ่อังกฤษ ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่าชาติมหาอำนาจอย่างอังกฤษจะแทรกแซงกิจการภายในสยาม แต่ท้ายสุดวิกฤตก็ค่อยคลายความตึงเครียดลง
วาระสุดท้ายกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ พระองค์ทรงพระประชวรหนัก ดังที่ “จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาค 19” วันศุกร์ แรม 3 ค่ำ เดือน 9 ปีระกาสัปตศก จ.ศ. 1247 (พ.ศ. 2428) ระบุว่า
กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งเสด็จไปประชวรอยู่ที่พลับพลา ณ เมืองสมุทรปราการ ทรงมีพระอาการทรุดหนักลง จากพระอาการเดิมที่เสวยพระกระยาหารไม่ได้ ทรงอาเจียนเป็นพระวาโย พระเขฬะเหนียว พระเสมหะไปวันละหลายๆ ครั้ง พระบังคนหนักตึงผูก 2-3 เวลาไปครั้งหนึ่ง บางทีต้องสูบจึงออกบ้าง
พระองค์ทรงมีพระวรกายซูบ พระฉวีเผือดผิดปกติ พระกำลังถอยน้อยไป พระอาการทรงอยู่บ้าง ทรุดอยู่บ้าง พระยาประเสริฐศาสตรธำรงถวายพระโอสถมาช้านาน พระอาการทรงอยู่และมากไปไม่คลายถอย จึงโปรดให้หมอวิลิศถวายยามาหลายเวลา พระอาการก็ไม่คลายและให้สะบัดร้อนสะท้านหนาว
ครั้งขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 พระอาการทรุดมาก ไปพระบังคนหนักทั้งกลางวันกลางคืนวันละหลายๆ ครั้ง ครั้งละน้อยๆ มีพระเสมหะเจือระคนเป็นอุจจาระธาตุพิการ พระอาการตกถึงระหว่างอติสาร เจ้าหมื่นสรรพ์เพ็ชญ์ได้ลงไปเชิญพระอาการทุกวันมา ได้ถามพระยาประเสริฐศาสตรธำรง พระประสิทธิ์วิทยาคม ว่าพระอาการเห็นจะไม่ตลอด
“วันแรม 6 ค่ำ เดือน 9 กรมหมื่นสถิตย์ธำรงค์สวัสดิ์และข้าราชการในพระราชวังบวรทูลเชิญเสด็จให้กลับขึ้นมากรุงเทพฯ ทรงเรือพระที่นั่งปิกนิก เรือกลไฟสีนวนน้อยจูงขึ้นมาจากเมืองสมุทรปราการเวลา ๒ ทุ่มเศษ พร้อมด้วยพระองค์สายสินิทวงศ์และเจ้าหมื่นสรรพ์เพ็ชญ์ภักดีซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้ลงไปเฝ้าฟังพระอาการนั้น ขึ้นมาถึงกรุงเทพ ฯ เวลา ๔ ทุ่มเศษ ทรงพระเก้าอี้สอดคานหามเข้าในพระราชวังบวร ประทับอยู่ที่พระที่นั่งบวรปริวัตรได้ประมาณครึ่งชั่วโมงพระโรคกำเริบหนัก ทิวงคตเวลา ๕ ทุ่ม ๓๐ นาที
กรมพระราชวังบวรสถานมงคลประสูติณ วันพฤหัสบดี แรม 2 ค่ำ เดือน 10 ปีจอสัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๐๐ เป็นพระโอรสที่ ๓ ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทิวงคตพระชนมายุคำนวณตามโหราศาสตร์ได้ ๔๗ พรรษา ดำรงอยู่ในตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลได้ ๑๖ ปี ๙ เดือนกับ ๘ วัน มีพระโอรส ๑๑ องค์ พระธิดา ๑๒ องค์ รวม ๒๓ พระองค์”
หลังวาระสุดท้ายกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญเมื่อ พ.ศ. 2428 รัชกาลที่ 5 ก็ทรงยกเลิกตำแหน่งวังหน้า กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญจึงทรงเป็นวังหน้าพระองค์สุดท้ายแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
อ่านเพิ่มเติม :
- กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงเสี่ยงทายอธิษฐาน? ก่อนสวรรคต
- รู้จัก กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข “วังหลัง” องค์แรกและองค์เดียวในยุครัตนโกสินทร์
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาค 19. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดให้ตีพิมพ์พระราชทานในงานพระเมรุ สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ณ พระเมรุท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2484.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 26 ธันวาคม 2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : วาระสุดท้ายกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ วังหน้าสมัยรัชกาลที่ 5
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com