‘ดีลอยท์’ ชี้บริษัทไทยขึ้นเงินเดือนลดลง จากแรงกดดันด้านต้นทุน เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น!
"ดีลอยท์" ชี้การปรับเงินเดือนในประเทศไทยในปี 2568 มีอัตราลดลง เพราะองค์กรต่าง ๆ รับมือแรงกดดันด้านต้นทุนและการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ผลสำรวจล่าสุดของ ดีลอยท์ ประเทศไทย เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับเงินเดือน ค่าตอบแทน และความท้าทายด้านทรัพยากรบุคคลที่ได้จัดทำเมื่อต้นเดือนตุลาคม พบว่า เงินเดือนในประเทศไทยปรับเพิ่มขึ้น 4.5% ในปี 2568 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 5% การลดลงเหลือ 4.5% สะท้อนถึงแรงกดดันด้านต้นทุนและเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ องค์กรจึงต้องจัดการงบประมาณเงินเดือนด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ในปี 2568 อุตสาหกรรมพลังงานและสาธารณูปโภคยังคงรักษาอัตราการปรับขึ้นเงินเดือนที่คาดการณ์ไว้ที่ 5% ในขณะที่อุตสาหกรรมค้าปลีกและเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยเพียง 4% แสดงถึงอัตราที่ตํ่าที่สุดในบรรดาอุตสาหกรรม
การสํารวจครั้งนี้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากบริษัทชั้นนําในประเทศไทย 176 แห่ง และเผยให้เห็นว่าองค์กรไทยกําลังเผชิญกับแรงกดดันสองทางจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลายองค์กรให้ความสำคัญอย่างมากกับการบูรณาการทักษะและเทคโนโลยี AI เข้ากับการดําเนินงาน ซึ่งมีอิทธิพลต่อโครงสร้างค่าตอบแทนและกลยุทธ์การจัดการแรงงานอย่างเห็นได้ชัด
การบูรณาการ AI และเทคโนโลยีเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดในการจัดการทรัพยากรบุคคล ซึ่งกําลังเปลี่ยนสมการค่าตอบแทนตามงานเป็นสมการที่เน้นผลตอบแทนตามทักษะ องค์กรชั้นนําที่ใช้ AI กําลังเชื่อมโยงค่าตอบแทนกับความสามารถของพนักงานแทนที่จะพึ่งพาระดับงานหรือการดำรงตำแหน่งเพียงอย่างเดียว
นายอริยะ ฝึกฝน ลีดเดอร์ ด้านเทคโนโลยีและการปฏิรูปองค์กร ดีลอยท์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้หลายองค์กรต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ก็ไม่สามารถชะลอการลงทุนในบุคลากรได้ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและทักษะที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของความสามารถในการแข่งขันในอนาคต ดังนั้น AI จึงไม่ได้เข้ามาแทนที่ผู้คน แต่กําลังเปลี่ยนคุณค่าของทักษะในตลาดแรงงาน องค์กรที่เข้าใจวิธีการใช้เทคโนโลยีควบคู่ไปกับการลงทุนในการพัฒนาบุคลากรจะได้เปรียบทั้งในด้านประสิทธิภาพและความสามารถในการรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง
แนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือน โบนัส และความคล่องตัวของพนักงาน
ในส่วนของโบนัสผันแปร การสํารวจแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการชําระเงินโดยรวมสำหรับปี 2568 ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2567 โดยเฉลี่ยประมาณสองเดือน อุตสาหกรรมที่มีการจ่ายโบนัสสูงสุดในปี 2568 ได้แก่ เคมีภัณฑ์ พลังงาน และน้ำมันและก๊าซ ซึ่งจ่ายประมาณสามเดือน ในขณะที่อุตสาหกรรมที่มีระดับโบนัสต่ำกว่า ได้แก่ เทคโนโลยีและการค้าปลีก โดยมีการจ่ายโบนัสประมาณ 1.5 เดือน นอกจากนี้ ประมาณ 28% ขององค์กรไทยยังคงให้โบนัสคงที่เพิ่มเติมอีก 1 เดือน
การสํารวจพบว่าอัตราการลาออกโดยสมัครใจโดยเฉลี่ยโดยรวมของประเทศไทยอยู่ที่ 12.9% โดยมีความแตกต่างในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมที่มีอัตราการหมุนเวียนสูงสุด ได้แก่ ค้าปลีกที่ 32.9% อสังหาริมทรัพย์ที่ 16.9% และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ 15.1% ในทางกลับกัน อัตราการหมุนเวียนล่าสุดพบในพลังงาน น้ำมัน และก๊าซที่ 3.9% ยานยนต์ที่ 4.9% และภาคอุตสาหกรรมที่ 5.3%
องค์กรต่าง ๆ กําลังลงทุนในบทบาทสำคัญแม้จะมีการเติบโตปานกลาง
แม้ประเทศไทยจะมีสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่การสํารวจพบว่าองค์กรส่วนใหญ่สามารถรักษาเสถียรภาพได้ 44% รายงานการเติบโตในระดับปานกลาง และ 52% บรรลุเป้าหมายการปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตาม 35% ระบุว่าการเติบโตตํ่ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเน้นยํ้าถึงสถานะ "การบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง" ที่องค์กรไทยต้องระมัดระวังในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวนี้
ท่ามกลางการชะลอตัวของธุรกิจ องค์กรต่าง ๆ กําลังปรับกลยุทธ์การชดเชยให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ การสํารวจพบว่า 57% ขององค์กรได้ลดหรือวางแผนที่จะลดงบประมาณค่าตอบแทนและสวัสดิการโดยรวม ในขณะเดียวกันกว่า 55% ขององค์กรเลือกที่จะเสนอค่าตอบแทนที่สูงกว่าตลาดสำหรับตำแหน่งที่มีผลกระทบทางธุรกิจสูงในขณะที่จ่ายตํ่ากว่าอัตราตลาดสำหรับตำแหน่งทั่วไป ซึ่งสะท้อนถึงการจัดลำดับความสำคัญและการลงทุนที่ตรงเป้าหมาย
แม้จะมีข้อจํากัดด้านงบประมาณ แต่องค์กรยังคงให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและการรักษาพนักงาน โดย 61% ใช้โอกาสในการพัฒนาอาชีพเป็นเครื่องมือหลักในการรักษาพนักงาน ในบรรดาพนักงานที่มีศักยภาพสูงและผู้ที่มีผลงานยอดเยี่ยม 65% ขององค์กรพิจารณาการเลื่อนตำแหน่งพิเศษควบคู่ไปกับการพัฒนาความก้าวหน้าในอาชีพเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจและรักษาบุคคลที่มีความสามารถในระยะยาว
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง องค์กรต้องเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการบุคลากรให้สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในแง่ของความโปร่งใสในการสื่อสารเกี่ยวกับค่าจ้างและค่าตอบแทน และวิธีที่ AI จะสนับสนุนการพัฒนาองค์กรให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการทำงานสมัยใหม่และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เงินเดือนเท่าไรต้องจ่ายภาษี? มือใหม่ยื่นภาษี 2568 เตรียมพร้อมที่นี่!
- เตรียมพร้อมยื่นภาษี 2568 เงินเดือนเท่านี้ เสียภาษีเท่าไร ใครต้องยื่นภาษีบ้าง?
- เช็กอัตราใหม่! ราชกิจจา ประกาศ พ.ร.บ.เงินเดือนข้าราชการพลเรือนกลาโหม ปี 68
ติดตามเราได้ที่