ร.อ.ธรรมนัส”ซัด “อภิสิทธิ์” อย่าพูดเอาหล่อ แต่ไม่มีผลงาน
ที่พรรคกล้าธรรม ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างรายการ ดีเบตอีกสักตั้ง ไทยรัฐเลือกตั้ง 69 มีช่วงหนึ่งระบุว่า “พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคกล้าธรรมได้ครับ"
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเข้ามาทำงานการเมืองโดยมีพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง และไม่ใช่ลักษณะของนักการเมืองอาชีพที่มุ่งเน้นแต่การสร้างประเด็นความขัดแย้งในสังคม โดยเน้นย้ำว่าพรรคกล้าธรรมมีจุดยืนที่ชัดเจนคือ "ทำมากกว่าพูด"และมุ่งเน้นการสร้างผลงานที่จับต้องได้จริงมากกว่าการขายฝันด้วยวาทกรรม
ส่วนที่มีบางพรรคการเมืองออกมาประกาศจุดยืนว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม หรือไม่สนับสนุนตนเองนั้น ร.อ. ธรรมนัส มองว่าเป็นการเสียมารยาททางการเมือง และยังไม่ใช่เวลาที่จะมาประกาศว่าจะจับมือกับใคร เพราะควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในวันเลือกตั้งเสียก่อน พร้อมระบุว่าหากพรรคใดมี สส. ในมือเกิน 25 คนค่อยมาหารือกัน
เมื่อถามว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่พรรคประชาธิปัตย์แต่เมื่อเช้าที่ผ่านมาทางด้านของพรรคประชาชนได้มีการประกาศว่าจะไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรม และจะไม่ยอมให้ ร.อ.ธรรมนัส ขานชื่อโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คนอย่างตนไม่เคยขานชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี และคนอย่างตน ชัดเจนไม่ต้องดัดจริต คนเราจะแต่งงานกับใครเขาไม่แต่งกับเรา เราจะไปบังคับเขาได้อย่างไร ตนก็เห็นพูดแบบนี้ก็เสร็จทุกราย จบไม่สวยสักราย ตนไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะเวรกรรมจะตามสนองเอง
“ ผมสวดมนต์ทุกเช้า สวดมนต์ก่อนนอนทุกวัน แผ่เมตตาไปหาพวกคุณแล้ว แต่ละคนก็เห็นจบไม่สวยสักราย” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
นอกจากนี้ ร.อ. ธรรมนัส ยังได้ตอบโต้พรรคการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์ตนเอง โดยยกบทเรียนจากพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ประสบปัญหาภายในจนเกิดความวิบัติจากการไม่รักษาคำพูดของผู้นำ พร้อมทั้งตั้งคำถามถึงผลงานในอดีตของบางพรรคที่สร้างปัญหาทิ้งไว้ เช่น โครงการโรงพัก 396 แห่ง หรือนโยบายเกษตรที่ผิดพลาดในอดีต
“อย่าพูดเอาหล่อแล้วทำไม่ได้ พอเป็นรัฐมนตรีก็สร้างความเสียหายให้ลูกหลานจนถึงปัจจุบัน ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่ามาเล่นการเมืองดีกว่า และตนไม่ได้ประกาศว่าไม่จับมือกับใคร หรือใครไม่จับมือกับผม ก็เป็นเรื่องของคุณ ผมไม่เล่นการเมืองแบบนั้น พรรคเราชัดเจน ในเรื่อง 112 ไม่แตะเด็ดขาด พรรคไหนแตะเราไม่เอา ต้องชัดเจน ผมจบโรงเรียนเตรียมทหาร ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ คุณอย่าตัดสินใจแทนประชาชน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
พร้อมเปิดเผยว่าเมื่อคืนตนได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีว่าตอนที่มีคนประกาศว่า “ ไม่เอาท่านไม่เอาผม”เราเอายังไง นายกฯก็บอกว่าเราก็อยู่ด้วยกันสิ จะไปยากอะไร
นอกจากนี้ ร.อ. ธรรมนัส ได้ชูผลงานในการแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ในยุคของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนต้องมีการจำหน่ายไข่ไก่แบบชั่งกิโลกรัมขาย และการยึดคืนที่ดิน สปก. จากกลุ่มทุนเพื่อนำมาปฏิรูปให้เกิดประโยชน์ต่อรัฐ รวมถึงการลงพื้นที่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผ่านกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรในจังหวัดมหาสารคาม และการผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษในกลุ่มจังหวัดอันดามันเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
ส่วนกรณีที่มีภาพถ่ายคู่กับ เบน สมิธ ร.อ. ธรรมนัส ระบุว่า เป็นการเหมารวมที่ไม่เป็นธรรม เพราะถ้าเอารูปมากางบนโต๊ะ กลุ่มชนชั้นนำและข้าราชการระดับสูงเกือบครึ่งประเทศต่างก็เคยถ่ายภาพร่วมกับคนนี้และตั้งคำถามว่า แสดงว่าประเทศไทยไม่มีคนดีเลย พร้อมเตือนกลุ่มการเมืองรุ่นใหม่ที่ออกมาให้ร้ายตนเองว่าให้ระวังคำพูดและรักษาตัวให้ดี เล่นการเมืองต้องรู้จักแยกแยะ น้องหลายคนฟันน้ำนมยังไม่หลุดออกจากปาก อนาตคอีกไกลรักษาตั้งเองให้ดี บางคนปากกล้าพูดไปเรื่อย ผมก็แจ้งความไปต่างกรรมต่างวาระ หลายคนบอกทำไมต้องแจ้งความ ตนก็บอกว่าถ้าคนดี ๆ ใครจะไปแจ้ง
เมื่อถามต่อว่าหลังจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส จะมีโอกาสไปขึ้นดีเบต การเมืองช่วงเลือกตั้งบ้างหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่าตนได้ปรึกษากับคนในรัฐบาลว่าถ้าเป็นเวทีดีเบตที่สร้างสรรค์ ตนก็จะไปแต่หากไม่สร้างสรรค์ไปยุให้คนทะเลาะกันตนไม่ไปเพราะตนเป็นคนที่อุณหภูมิเดือดไว อาจจะส่งน.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมไปแทน
นอกจากนี้ ตอนหนึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคประชาชน (ปชน.) ประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม นั้นโดยร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีการโจมตีว่าตนไปถ่ายรูปกับบุคคลต่างๆ ถ้าเอารูปมาแผ่กลางกันบนโต๊ะ กลุ่มชนชั้นนำเกือบทั้งประเทศ เกือบครึ่งประเทศถ่ายรูปกับเขา นักการเมืองตั้งแต่ระดับหัวจนถึงระดับล่าง ถ่ายรูปกับเขาข้าราชการผู้ใหญ่ทุกกระทรวงก็ถ่ายรูปกับเขา แสดงว่าประเทศไทยไม่มีคนดีใช่หรือไม่ เป็นสแกมเมอร์กันหมด แต่เราไม่รู้จักแยกแยะสแกมเมอร์คืออะไร การเล่นพนันผิดกฎหมายคืออะไร หรือการกระทำผิดแต่ละเรื่องคืออะไร เราเหมารวมกันหมด โดยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าวันนี้ตนไปนั่งกินข้าวกับสื่อมวลชนแล้ว วันหนึ่งตนไปทำอะไรผิด แล้วสื่อมวลชนจะผิดไปด้วย มันก็ไม่ใช่ แต่มันต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อให้เขาพิสูจน์ว่าผิดหรือไม่ผิด
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคปชน.โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้อายัดเรือยอร์ชของเบญจมิตรและเรียกร้องให้ร.อ.ธรรมนัส ออกข้อมูลในเรื่องนี้เพราะเป็นผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ว่า คุณก็ให้มหาเศรษฐีไปชี้แจงด้วยสิ เราเล่นการเมืองต้องรู้จักแยกแยะ น้องๆหลายคนอายุฟันน้ำนมยังไม่หลุดจากปาก อย่าอวดเก่งมาก ชีวิตคุณยังอีกไกล อนาคตยังอีกไกล รักษาตัวเองให้ดีๆ คนที่ปากกล้าพูดไปเรื่อย ตนก็แจ้งความไปเรื่อย ต่างกรรมต่างวาระทุกวัน ก็อย่าว่ากันนะ หลายคนบอกว่าทำไมตนต้องแจ้งความ ถ้าคุณดีๆ ใครจะไปแจ้งความคุณ แต่คุณไปใส่ร้าย
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างผู้นำบางพรรค วันนี้ฝ่ายกฎหมายพรรคเขารวบรวมข้อมูลไว้หมดแล้ว คุณอย่าไปว่าพรรคเขาอีก ถ้ากล่าวหาใส่ร้ายเขาในขณะที่มี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ออกมาแล้ว อาจจะทำให้บ้านคุณลุกเป็นไฟได้ และตนได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายระดับปรมาจารย์แล้ว เขาบอกว่าตายแน่เลย
เมื่อถามต่อว่ารู้สึกอย่างไรหลายพรรคโจมตีว่าพรรคกล้าธรรมเป็นพรรคเทา ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อะไรคือเทาตนผ่านกระบวนการยุติธรรมและพิสูจน์ตัวเองมาทุกอย่าง
“คนที่ขาวทั้งหลายก็เทาทั้งนั้น พรรคที่โจมตีผมทุกวันนี้ ปาร์ตี้ลิสต์มีใครขาวบ้างล่ะ เป็นคนดำด้วยซ้ำไป แถวนครศรีธรรมราช หลายคนทั้งเกี่ยวข้องกับน้ำมันเถื่อน การเกเร บ่อนการพนัน“ ร.อ.ธรรมนัส กล่าว