ศาล รธน. ไต่สวนคดีฮั้ว สว. อดีตรองนายกฯ–รมว.ยุติธรรม “ภูมิธรรม” มั่นใจแจงได้
วันที่ 24 ธ.ค.68 ศาลรัฐธรรมนูญนัดพยานและผู้เกี่ยวข้อง ที่ประกอบด้วย พลตำรวจตรีฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พันตำรวจตรีทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอกสรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เดินทางมาศาลตามนัด ที่กำหนดให้มีการไต่สวนพยานบุคคล ในเวลา 10.30 น.
ในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลง เฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยก อำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม จึงถือได้ว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรม เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการไต่สวน ยืนยันว่าดำเนินการเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ เบื้องต้นได้ชี้แจงทั้งหมดไปแล้ว แต่วันนี้ศาลนัดไต่สวนในฐานะพยานและผู้ถูกร้องด้วย
เมื่อถามว่าศาลนัดไต่สวนในวันนี้เพราะยังคงสงสัยที่ใช้อำนาจแทรกแซงดีเอสไอ ในคดีฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าศาลมีข้อสงสัยเรื่องอะไร หากศาลจะถามเรื่องความชัดเจนก็พร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้ว ตามกรอบอำนาจที่มีอยู่ และสิ่งที่เป็นจริง เชื่อว่าตนเองบริสุทธิ์ ทำหน้าที่ในสิ่งที่ควรทำใน ฐานะประธานกรรมการบอร์ดดีเอสไอ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ