โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

สีหศักดิ์ นำ บัวแก้ว สู่การทูตเชิงรุก ปิดเกมเขมร ไม่ต้องเสียกระสุนแม้แต่นัดเดียว

MATICHON ONLINE

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สีหศักดิ์ นำ บัวแก้ว สู่การทูตเชิงรุก ปิดเกมเขมร ไม่ต้องเสียกระสุนแม้แต่นัดเดียว

โดยปกติแล้ว กระทรวงการต่างประเทศไม่ใช่กระทรวง “บิ๊ก” เมื่อเทียบกับกระทรวงอื่นๆ ทั้งในแง่ความเกี่ยวข้องกับชีวิตคนไทยและบริบททางการเมือง ไม่ต้องไปวัดวากับกระทรวงมหาดไทย ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กระทรวงมหาดไทยผูกพันชีวิตคนตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย การปกครองภูมิภาคและท้องถิ่น ไปจนถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

แต่น่าเสียดาย กระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมา เป็นกระทรวงไม่สมราคา นักการเมืองเข้าล้วงลูกอยู่ตลอด โยกเยกไปกับรัฐบาลที่เปลี่ยนมือทุกครั้ง คนไทยได้แต่เสพข่าวการโยกย้ายข้าราชการประจำ ทั้งระดับผู้ว่าฯ อธิบดีกรมกองต่างๆ จนถึงนายอำเภอ ชนิดพวกใครพวกมัน ยังโยงถึงกลุ่มทุนสีเทาที่พูดภาษาไทยไม่ได้ กลับมีบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อกล่าวถึงคุณสมับติของบุคคลเหล่านี้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างไรบ้างถึงได้บัตรเลข 13 หลัก

อีกทั้งกลุ่มทุนสีเทาแยกกันไม่ออก ระหว่าง สแกมเมอร์ กระบวนการฟอกเงินข้ามชาติ และอาชญากรทางไซเบอร์

เป็นภาพจำของคนไทยจริงๆ

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศกลับช่วยเชิดหน้าชูตาประเทศไทยชนิดที่คาดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ หากย้อนไปสมัยรัฐบาลที่แล้วต่อปัญหาไทย-กัมพูชา กระทรวงนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า “ไม่ทันเกม” และจะเข้าใจยิ่งขึ้นเมื่อมาดูบทบาทของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ในวันนี้

“สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” อดีตข้าราชการระดับเกียรตินิยม ระดับเกรด A+ ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในวันแรกของการเข้าทำงานในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ของรัฐบาลอนุทิน ว่า จะนำพาประเทศไทยกลับสู่ “จอเรดาร์โลก”

ฟังดูแล้วตอนนั้น เป็นการกล่าวที่เข้าใจได้ในการพูดเชิงทูต คือ ไม่หวือหวา

กระทั่ง รมว.สีหศักดิ์ ไปปรากฏตัวเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ณ นครนิวยอร์กในอีก 2 วันต่อมา ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในประเด็นข้อพิพาทไทย-กัมพูชา

ตอนหนึ่งกล่าวแทงใจดำเขมร ถูกจริตคนไทยอย่างยิ่ง คือ เขมรชอบเล่น “บทเหยื่อ” เรียกร้องสันติภาพกับทั่วโลก แต่แท้จริงแล้วฉากหลังเป็น “ผู้กระทำ” กระทำการรุนแรงต่อพี่น้องคนไทย ยิงจรวจปืนใหญ่ตกใส่ย่านชุมชนฝั่งไทย มีทั้งคนเจ็บคนตายและบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหายมากมาย

ทั้งชอบบิดเบือนข้อเท็จจริง ยังเมินการแก้ปัญหาระดับทวิภาคี โยนเข้าสู่ปัญหาระดับนานาชาติ ไม่มีความจริงใจในการร่วมมือแก้ปัญหา ชอบยั่วยุและละเมิดข้อตกลงต่างๆ ของการหยุดยิง ไปจนถึงการลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ตายชายแดน

หลายครั้ง ที่ทหารไทยต้องสูญเสียขาไปขณะลาดตระเวนชายแดน เขมรยังปากแข็งตลอดเวลา ทั้งที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของสองชาติไปแล้ว

สีหศักดิ์ ประกาศชัดเจนต่อหน้าชาวโลกว่า จุดยืนของไทยคือการปกป้องอธิปไตย ให้เขมรเลือกจะ “เผชิญหน้า” หรือ“ร่วมมือ”

แต่เขมรให้คำตอบทางอ้อม เลือกที่จะเลียแข้งเลียขาชาติมหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐอเมริกาให้เข้ามายุ่งด้วย และยังทำตัวเกเรตามบริเวณชายแดนไทย

กระทั่ง แผนเชิงรุกสเตปต่อมาของสีหศักดิ์ เมื่อ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ขยี้เขมรต่อหน้าชาวโลกได้หนักขึ้น โดยกล่าวในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ครั้งที่ 22 ณ นครเจนีวา มุ่งประเด็นตรงเรื่องการวางทุ่นระเบิดใหม่ของเขมร เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตาวา และละเมิดหลักการด้านมนุษยธรรม

พร้อมแสดงคลิปวิดีโอจากมือถือของทหารเขมรที่ทำตกหล่น เป็นคลิปสอนประกอบทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ทหารไทยเหยียบขาขาดไปแล้ว 7 ราย

ตามด้วยไทยเสนอให้เลขาธิการสหประชาชาติใช้อำนาจจัดตั้ง “คณะผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง” ที่เป็นอิสระ อย่างทันท่วงที ตามกลไกข้อ 8 ของอนุสัญญา จอเรดาร์ของไทยทำงานแล้วในการติดตามสัญญานนี้

นับเป็นความแข็งกร้าวเชิงการทูตที่คนไทยต้อนรับอย่างล้มหลาม กระทรวงต่างประเทศในยุคสีหศักดิ์ ได้รับการถูกติดตามมากมายจากประชาชนอย่างไม่เป็นมาก่อน

แต่ละก้าวของรัฐมนตรีที่เปิดเกมรุก ไม่ต่างกับ “เสือคาบดาบ” บ่งบอกถึงความดุดัน แข็งกร้าว การปกป้องอธิปไตยไทย ต่างจากบัวแก้วในอดีต

ในรัฐบาลสมัยแพทองธาร กองทัพยังได้รับเสียงชื่นชมมากกว่ากระทรวงการต่างประเทศ การตัดสินใจของทหารเข้าสู่การรบกับทหารเขมรที่เปิดศึกก่อน อีกทั้งเสียงนานาชาติต่างชื่นชมประสิทธิภาพยุทธวิธีการรบของทหารไทย ทั้งภาคทางอากาศและภาคพื้นดิน ระดมเครื่องบินรบเอฟ 16 กับกริพเพนไปจนถึงโดรนทิ้งระเบิด

ประจักษ์แล้วว่า ขณะที่กองทัพเวลานี้ต้องอยู่ในที่ตั้ง แต่เตรียมพร้อมเสมอ ส่วนกระทรวงต่างประเทศที่แสดงบทบาทอย่างสมศักดิ์ศรี เป็นตัวแทนประเทศไทย ไม่คลุมเครือ ซ่อนเงื่อน ไม่ต้องใช้นโยบายลู่ไปตามลมเหมือนรัฐบาลก่อนๆ มุ่งใช้เวทียูเอ็น ที่ทำให้โลกเข้าใจสันดานเขมรตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ควรมีใครคบ แล้วก็ไม่ควรมีพื้นที่ที่จะให้อภัย ต้องสั่งสอนให้เข็ดราบถึงการเป็นประเทศบนแผนที่โลก เค้าอยู่กันอย่างไร

ทั้งที่เป็นกระทรวงทำงานในรัฐบาลที่มีโอกาสแค่ 4 เดือน กลับมีการทูตเชิงรุกที่ทรงคุณค่าอย่างมาก ไม่ต้องให้ทหารออกรบ ไม่ต้องเปลืองกระสุน ไม่ต้องเสี่ยงเสียเลือดเนื้อหรือบาดเจ็บ หลังจากนี้ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขมร.

โดย เสกสรรค์ กิตติทวีสิน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สีหศักดิ์ นำ บัวแก้ว สู่การทูตเชิงรุก ปิดเกมเขมร ไม่ต้องเสียกระสุนแม้แต่นัดเดียว

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...