โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เมกะโปรเจ็กต์ "สิงห์ปาร์ค" เทพันล้านปั้น รร.หรู 6 ดาว

ประชาชาติธุรกิจ

เผยแพร่ 20 ก.พ. 2562 เวลา 12.39 น.

“สิงห์ปาร์ค” ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ในเครือ “สิงห์” หรือเดิมทีเรียกว่า ไร่บุญรอด ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเกษตรนิเวศ ไปจนถึงสถานที่จัดเทศกาลดนตรี อาหาร กีฬา ฯลฯ จนกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเชียงราย ที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ ด้วยทราฟฟิกจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามาที่ไร่แห่งนี้ปีละกว่า 2 ล้านคน

“พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด เล่าถึงแนวทางของสิงห์ปาร์คต่อจากนี้ว่า ยังมีโอกาสอีกมากที่จะสร้างทราฟฟิกเพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมาฤดูการท่องเที่ยวเชียงรายมีไฮซีซั่นอยู่แค่ช่วงปลายปี-ต้นปี แต่ช่วงกลาง ๆ ปี หรือฤดูฝน เป็นช่วงโลว์ซีซั่น

โดยปีนี้เตรียมที่จะจัดงาน “ไตรกีฬา” ขึ้นในช่วงกลางปี พร้อมกับพัฒนาแหล่งน้ำใหม่จำนวน 300 ไร่ รองรับกิจกรรมทางน้ำที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวสปอร์ตให้ชัดเจนมากขึ้น เสริมกับกิจกรรมไฮไลต์ของสิงห์ปาร์คที่จัดขึ้นเกือบทุกปีอย่างเทศกาลอาหาร ดนตรี “Farm Festival” และงานบอลลูนนานาชาติ ที่เพิ่งผ่านไปในช่วงวาเลนไทน์อย่าง “สิงห์ปาร์ค เชียงราย อินเตอร์เนชั่นแนล บอลลูน เฟียสต้า 2019” ซึ่งจะถูกต่อยอดให้เป็น Love Destination ระดับประเทศ

ไม่เพียงเท่านั้น ภายใต้พื้นที่ 8,000 ไร่ของสิงห์ปาร์ค ที่ปัจจุบันถูกใช้ไปเพียง 3,000 ไร่ ยังเตรียมที่จะมีโปรเจ็กต์ขนาดยักษ์เกิดขึ้นอีกในปีหน้า นั่นก็คือการสร้างโรงแรมระดับ 6 ดาว รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์ และโรงแรมสำหรับครอบครัว หรือกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา ภายใต้การลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนคอนเซ็ปต์อื่น ๆ นั้นยังอยู่ระหว่างพูดคุย

แม้จะเป็นการทำธุรกิจโรงแรมเอง แต่ “พงษ์รัตน์” ก็ยังย้ำเสมอว่า นโยบายของ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จะไม่ทำอะไรที่ไปกระทบกับโอกาสของคนในพื้นที่ ซึ่งโรงแรมระดับ 6 ดาว ก็ถือว่ามีกลุ่มทาร์เก็ตที่แตกต่างออกไป หรือการจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ก็ดี ในช่วงปีใหม่ ซึ่งเป็นไฮซีซั่นอยู่แล้วก็เลี่ยงการจัดออกไปในช่วงอื่นที่ไม่ค่อยมีใครจัดกัน อย่างไรก็ตาม จะมีอีเวนต์ที่สร้างสีสันจัดขึ้นทุกเดือน และอีเวนต์ขนาดใหญ่ทุก ๆ ไตรมาส

ส่วนในด้านของธุรกิจชาเขียวที่เป็นอีกขาของรายได้สิงห์ปาร์ค ที่เกิดจากการร่วมทุนกับ “มารุเซ็น ที เจแปน” จัดตั้งบริษัท มารุเซ็น ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพื่อผลิตชาเขียวป้อนธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส ทั้งร้านอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่ม ตลอดจนเชนไอศกรีมชื่อดังอย่างสเวนเซ่น ซึ่งจุดเด่นของตลาดนี้ก็คือ การเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากร้านอาหารญี่ปุ่น รวมถึงร้านเบเกอรี่ ร้านกาแฟ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยที่แต่ละแห่งก็ต้องการใช้วัตถุดิบคุณภาพ ซึ่งแต่เดิมต้องสั่งนำเข้ามา ก็สามารถซื้อจากบริษัทได้ในราคาที่ถูกกว่าประมาณ 30% เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า

แม้แบรนด์มารุเซ็นจะเน้นการเจาะตลาดฟู้ดเซอร์วิสเป็นหลักถึง 70% แต่ก็มีสินค้าที่วางขายผ่านช่องทางค้าปลีก ทั้งชาเขียวชงเย็น เชคกุ เชคกุ หรือชาเขียวมัทฉะ ชนิดผง เป็นต้น

“พงษ์รัตน์” ระบุเพิ่มเติมว่า ยังมีธุรกิจชาภายใต้แบรนด์บุญรอดฟาร์ม ที่เร็ว ๆ นี้จะเปลี่ยนชื่อเป็นสิงห์ปาร์ค เน้นทำตลาดแบบ B2C (Business to Consumer) และปรับคอนเซ็ปต์การสื่อสารใหม่ โดยมีโจทย์คือการดื่มในโอกาสที่แตกต่างกันไป ผ่านการออกชาซีรีส์ใหม่ 5 รายการ เช่น ชาสำหรับดื่มตอนเช้า ชาสำหรับดื่มเรียกน้ำย่อย ฯลฯ

รวมถึงการออกเครื่องดื่มชาแบบใหม่ “ไนโตร โคล์ดบรู ที” ซึ่งใช้วิธีเดียวกันกับกาแฟ ไนโตร โคล์ดบรู เจาะเซ็กเมนต์คนดื่มชาเพื่อสุขภาพ และสร้างสีสันให้กับตลาดและผู้บริโภค มีแคลอรีต่ำ โดยใช้ความหวานจากหญ้าหวานทดแทน เบื้องต้นวางขายภายในงานเทศกาลบอลลูนที่สิงห์ปาร์ค ก่อนจะนำไปจำหน่ายในร้านกาแฟ หรือร้านรูปแบบอื่น ๆ ต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดร้านชาภายใต้แบรนด์ “สิงห์ ปาร์ค คาเฟ่” โดยการจับมือกับบริษัทยูเรก้า คอฟฟี่ แอนด์ โรสเตอร์ จำกัด เจ้าของร้านกาแฟ และชานมไข่มุก “ยูเรก้า คอฟฟี่ ไนโตร” ซึ่งจะช่วยพัฒนาคอนเซ็ปต์ของร้านให้ คาดว่าจะเปิดได้ภายใน 3 เดือนหลังจากนี้ โดยสาขาแรกจะตั้งอยู่ที่ตึกสิงห์ คอมเพล็กซ์

ในปีที่ผ่านมาสิงห์ปาร์คมีรายได้อยู่ที่ 400 ล้านบาท มีทราฟฟิกคนเข้ามาตลอดทั้งปีประมาณ 2 ล้านคน โดยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ก็ยังคงเดิม คือการเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของเชียงรายให้ดีขึ้นต่อไป โดยที่ธุรกิจก็ต้องเติบโต และเลี้ยงตัวเองได้เช่นกัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...