โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ความคืบหน้า 'คดีนอมินีตึก สตง.' อัยการสั่งฟ้อง 6 จำเลย ล่าสุด DSI นำตัว 'นายวู' ผู้ต้องหาฯ ส่งพนักงานอัยการเพิ่ม

VoiceTV

อัพเดต 13 มิ.ย. เวลา 03.17 น. • เผยแพร่ 13 มิ.ย. เวลา 02.33 น. • กองบรรณาธิการวอยซ์ออนไลน์

เมื่อวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ/โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีการสอบสวนดำเนินคดีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

(นอมินี) ของกิจการร่วมค้าที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกิดเหตุถล่มหลังจากมีเหตุแผ่นดินไหวฯได้ชี้แจงการดำเนินการสอบสวนในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม โดยที่มีการเผยแพร่ข่าวสาร “DSI ส่งสำนวนกรณีฮั้วฯ ตึก สตง. ให้ ป.ป.ช.” นั้น

สืบเนื่องจากการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษสรุปผลการดำเนินการสอบสวนคดีที่ 32/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีความเห็นทางคดีเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี) ทั้งหมด 5 ราย ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว และต่อมาที่ประชุมได้ดำเนินการแยกสำนวนการสอบสวนเป็น 2 สำนวนได้แก่ สำนวนแรก เป็นการดำเนินคดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ซึ่งต่อเนื่องหรือเกี่ยวพันกัน และสำนวนที่สองเป็นการดำเนินการสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (คดีฮั้วประมูลฯ) โดยมีการแยกเลขคดีเป็นคดีพิเศษที่ 58/2568 คดีดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนพบว่ามีพฤติการณ์

และหลักฐานเกี่ยวกับ การดำเนินการควบคุมงานของบริษัท PKW ที่ปรากฏว่าในส่วนของบุคลากรพบมีการปลอมลายมือชื่อและอ้างชื่อบุคคลอื่นซึ่งไม่เป็นไปตาม TOR มาดำเนินการเสนอราคาเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งคุณสมบัติของบุคลากรตาม TOR นั้นหมายถึง บุคลากรที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้นำมาเสนอต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะต้องเป็นบุคคลที่มีคุณวุฒิประสบการณ์อันจะสามารถควบคุมงานได้จริงตลอดจนการทำงานได้เสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์การที่ผู้ต้องหากับพวกได้ใช้กลอุบายหลอกลวงนำชื่อของบุคคลอื่นโดยที่เต็มใจหรือไม่เต็มใจหรือไม่มีการเข้าร่วมงานจริงภายหลังที่ได้รับงานซึ่งเป็นเจตนาที่เห็นได้ชัดว่ามิได้มีความสุจริตในการจะเข้าเสนอราคากับหน่วยงานของรัฐโดยร่วมกันใช้กลอุบายหลอกลวงเพื่อหวังประโยชน์อันเป็นเงินได้จากการรับงานโดยไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ จึงมีการกล่าวหาดำเนินคดีกับบริษัท PKW รวมแล้ว 6 คน ตามมาตรา 4 และมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ประกอบกับมีบุคคล (ปกปิดนาม) จำนวน 2 รายกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แบ่งได้ทั้งหมด 3 กลุ่ม ดังนี้

1. กลุ่มผู้บริหารองค์กรอิสระ

2. กลุ่มคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการจ้างออกแบบ จ้างก่อสร้าง และจ้างควบคุมงาน ทั้งหมด 10 คณะ

3. กลุ่มคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ

ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงอยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะไต่สวนและวินิจฉัย ตามมาตรา 28 ประกอบมาตรา 61 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการส่งสำนวนดังกล่าว ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเร็ว ต่อไป

DSI นำนายวู ผู้ต้องหาคดีนอมินี ตึก สตง.ถล่ม ส่งพนักงานอัยการแล้วเมื่อ 12 มิ.ย.2568

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนกรณีอาคารสำนักงาน สตง.ถล่ม ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี) เป็นคดีพิเศษที่ 32/2568 โดยเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นทางคดีเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาในฐานความผิดการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ (นอมินี) ทั้งหมด 6 ราย คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการตามกฎหมาย และพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 6 ราย ตามความเห็นของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 แล้วนั้น

โดยวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568 นายวู (สงวนนามสกุล) สัญชาติจีน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีหมายจับตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา เป็นผู้ต้องหาที่ 6 ในคดีดังกล่าว ได้มา มอบตัวกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ทำการรับตัวไว้ ควบคุมตัว และแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวฝ่าฝืนประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตามบัญชีสาม (10) การก่อสร้าง ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยเป็นคนต่างด้าว ซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนการประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวตามบัญชีสาม (10) การก่อสร้าง อันเป็นความผิดทางอาญามาตรา 36 , 37 ประกอบมาตรา 4 (3) (ก) และมาตรา 8 (3) ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบแล้ว ทำการสอบสวนปากคำผู้ต้องหา และเนื่องจากการสอบสวนดังกล่าวพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณา มีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...