เอเลี่ยนสปีชีส์ในน้ำไทย จากปัญหาสิ่งแวดล้อมสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม | เงินทองของจริง
การแพร่ระบาดของปลาต่างถิ่นในแหล่งน้ำธรรมชาติของไทยกำลังกลายเป็น "ภัยเงียบใต้น้ำ" ที่คุกคามระบบนิเวศและส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของชาวประมง สัตว์น้ำเหล่านี้ที่เรียกว่า "เอเลี่ยนสปีชีส์" ส่วนใหญ่เข้ามาจากการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นปลาหมอบัตเตอร์ ปลาหมอคางดำ หรือปลาชนิดอื่น ๆ ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในแหล่งน้ำต่าง ๆ
แต่ท่ามกลางวิกฤตนี้ หน่วยงานภาครัฐและชุมชนท้องถิ่นได้ร่วมมือกันหาทางออก ด้วยการเปลี่ยนปัญหาให้เป็นโอกาส นำปลาต่างถิ่นเหล่านี้มาแปรรูปเป็นอาหารและผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ ล่าสุด กรมราชทัณฑ์ได้พัฒนา "น้ำปลาหับเผยแม่กลอง" จากปลาหมอคางดำจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า OTOP ซึ่งไม่เพียงช่วยควบคุมจำนวนปลาต่างถิ่นในธรรมชาติ แต่ยังสร้างรายได้ให้ชุมชนและฝึกทักษะอาชีพให้ผู้ต้องขัง กลายเป็นตัวอย่างของการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและสร้างสรรค์
ภัยเงียบใต้น้ำที่กำลังคุกคามระบบนิเวศไทย
การแพร่ระบาดของสัตว์น้ำต่างถิ่น หรือที่เรียกว่า "เอเลี่ยนสปีชีส์" กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญที่คุกคามระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติของไทย โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นช่องโหว่ใหญ่ที่สุดของปัญหานี้
ประธานเครือข่ายเสียงจากป่าอธิบายว่า ในเชิงวิทยาศาสตร์ "เอเลี่ยน" หมายถึงสัตว์หรือพืชต่างถิ่นที่ไม่ใช่สายพันธุ์ดั้งเดิมของไทย แม้บางส่วนจะถูกนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายเพื่อการวิจัยหรือสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในปัจจุบันส่วนใหญ่มาจากการลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย
ปัจจุบันมีรายงานการพบปลาต่างถิ่นหลายชนิด เช่น ปลาหมอบัตเตอร์, ปลาหมอมายัน, ปลาซักเกอร์, และปลาอโรวานา ที่แพร่กระจายในแหล่งน้ำหลายพื้นที่ ตอกย้ำถึงความเร่งด่วนที่กรมประมงต้องเร่งวางมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเข้มงวด
กรณีศึกษา: ปลาหมอบัตเตอร์ที่เขื่อนสิริกิติ์
เมื่อปีที่แล้ว ชาวประมงและกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สำคัญของประเทศ พบและจับปลาหมอบัตเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 ปลาหมอต่างถิ่นที่กรมประมงห้ามนำเข้า ส่งออก หรือเพาะเลี้ยง
ประมงจังหวัดอุตรดิตถ์ร่วมกับเขื่อนสิริกิติ์จัดกิจกรรม "ส่งเสริมการจับปลาหมอบัตเตอร์และนำมาปรุงอาหาร" ทั้งในครัวเรือนและเพื่อสร้างรายได้ เป็นการลดจำนวนประชากรและยับยั้งการแพร่กระจายไปยังแหล่งน้ำอื่นๆ
แม่ครัวประจำร้านอาหารสันเขื่อนสิริกิติ์ยืนยันว่า ปลาหมอบัตเตอร์ตัวขนาดใหญ่ตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไปมีเนื้อเยอะ สามารถทำได้หลายเมนู ทั้งปลาเผา ทอดกระเทียม ฉู่ฉี่ ปลานึ่งราดมะนาว โดยเฉพาะตัวสดๆ จะมีเนื้อเยอะ แน่น หอม หวาน อร่อยเหมือนปลานิล
ปลาหมอคางดำ: จากปัญหาสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
กรมประมงยืนยันว่าปลาหมอคางดำสามารถบริโภคได้ โดยองค์ประกอบหลักของเนื้ออยู่ในเกณฑ์เดียวกับปลาน้ำจืดทั่วไปที่พบได้ตามธรรมชาติ แต่ต้องไม่ใช่ปลาที่จับมาจากแหล่งน้ำเน่าเสีย เพราะอาจมีเชื้อโรคหรือสารพิษปะปน
กรมประมงได้จัดแสดงตัวอย่างเมนูอาหารจากปลาหมอคางดำถึง 10 เมนู ประกอบด้วย:
- ย่างเกลือ
- ทอดเกลือ
- ฉู่ฉี่
- คั่วกลิ้ง
- ต้มยำ
- ขนมจีนน้ำยา
- ทอดมัน
- แดดเดียว
- ขนมปั้นขลิบ
- น้ำปลา
น้ำปลาหับเผยแม่กลอง: นวัตกรรมใหม่จากเรือนจำ
กรมราชทัณฑ์ได้ขึ้นทะเบียน "น้ำปลาหับเผยแม่กลอง" ที่ผลิตจากปลาหมอคางดำเป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน
ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรสงครามกล่าวว่า โครงการนี้เป็นการบูรณาการความช่วยเหลือสังคมในการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ด้วยการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและฝึกเป็นทักษะอาชีพให้ผู้ต้องขัง การยกระดับขึ้นทะเบียน OTOP จะช่วยขยายผลการผลิตเพื่อการจำหน่ายและบริโภคในวงกว้าง รวมถึงเป็นองค์ความรู้ให้ผู้ต้องขังนำไปต่อยอดเป็นอาชีพหลังพ้นโทษ
จุดเด่นของน้ำปลาหับเผยแม่กลอง
- ผลิตจากเนื้อปลาหมอคางดำคุณภาพดี
- หมักด้วยวิธีธรรมชาติผสมกับเกลือสมุทรสงคราม
- รสชาติหอม อร่อย กลมกล่อม ความเค็มไม่มาก
- ไม่มีสารปรุงแต่งรสอาหาร วัตถุกันเสีย ผงชูรส
- ไม่แต่งกลิ่นและสี
- มีโปรตีนสูงไม่ต่างจากเนื้อปลาทั่วไป
เปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาส
ประมงจังหวัดสมุทรสงครามระบุว่า การทำน้ำปลาหับเผยแม่กลองเป็นหนึ่งในแนวทางการนำปลาหมอคางดำมาสร้างมูลค่าเพิ่มและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ช่วยลดปริมาณปลาในธรรมชาติให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ขณะเดียวกันยังสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้ต้องขังในเรือนจำ
ประมงจังหวัดพื้นที่ต่างๆ ได้ส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร สร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ให้กับชุมชน ตลอดจนส่งเสริมให้มีการบริโภคกว้างขวางขึ้น ช่วยลดปลาหมอคางดำให้อยู่ในปริมาณที่ควบคุมได้อย่างยั่งยืน และเปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาสทางการค้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนของแต่ละพื้นที่
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "ทิน โชคกมลกิจ" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digitall
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/9cIoVg_029U?si=ehFqc23mdgXpqI4C