โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

#เดินเปลี่ยนอนาคต ถึงรัฐสภา ยื่นข้อเรียกร้องรื้อ รธน. 60 และเลือกตั้ง สสร. 100%

iLaw

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • iLaw

วันนี้ (9 ธันวาคม 2568) ที่ลานประชาชน รัฐสภา คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) จัดกิจกรรม “We are Here เราพร้อมเปลี่ยนอนาคต” เพื่อเป็นเวทีให้ภาคประชาชนได้นำเสนอข้อเรียกร้องที่ต้องการให้อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก่อนที่รัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระสอง ในวันที่ 10-11 ธันวาคม 2568 และก่อนจะไปถึงการออกเสียงประชามติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2569

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งการ #เดินเปลี่ยนอนาคต #Walktothefuture ระหว่างวันที่ 6-10 ธันวาคม 2568 เริ่มเดินจากวังน้อยถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยระยะเวลา 5 วัน ระยะทาง 55 กิโลเมตร ซึ่งรัฐสภาเป็นจุดหมายปลายทางของวันที่ 4

เวลาประมาณ 15:40 น. ขบวนประชาชนเดินเปลี่ยนอนาคตเดินทางมาถึงรัฐสภา โดยเดินเท้าไปยังหน้าประตูฝั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพื่อประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1) ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 2) เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ 3) ผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% โดยตัวแทนประชาชนได้เข้าไปสั่นระฆังที่หน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อประกาศข้อเรียกร้องดังกล่าว ก่อนจะเข้ามาพักที่ลานประชาชน จากนั้นมีการแสดงดนตรี และการนำเสนอไอเดียจากผู้ออกแบบโปสเตอร์รณรงค์การเชียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตลอดจนการแนะนำบูธกิจกรรมต่างๆ จากภาคประชาชน

เวลา 17:30 น. กลุ่มไอแพมได้ยื่นหนังสือรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนจากกิจกรรม ConThai ที่จัดขึ้นทั้ง 77 จังหวัด โดยมีตัวแทนทั้งสส. และ สว. มารับหนังสือความคิดเห็นดังกล่าว ประกอบด้วยสส. ได้แก่ ขัตติยา สวัสดิผล สส. พรรคเพื่อไทย และพนิดา มงคลสวัสดิ์ กับสหัสวัต คุ้มคง สส. พรรคประชาชน ส่วนฝั่งสว. มีผู้มารับหนังสือ ประกอบด้วย นรเศรษฐ์ ปรัชญากร วีรยุทธ สร้อยทอง เทวฤทธิ์ มณีฉาย ประภาส ปิ่นตบแต่ง และกัลยา ใหญ่ประสาน ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา

สส.-สว. ยืนยัน ดันที่มาผู้ร่างรัฐธรรมนูญจากการเลือกตั้งสุดทาง แต่แพ้มติกรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญ

ตัวแทนผู้มารับหนังสือได้อัพเดทสถานการณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนจะพิจารณาในวาระสอง โดยขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและกรรมธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ระบุว่า “ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระสองในวันพรุ่งนี้และมะรืนนี้ โดยเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภานั้นหมายความว่า จะเป็นการประชุมร่วมกันของทั้ง สส. สว. ซึ่งจุดมุ่งหมายเจตนารมณ์แรกของเราคือเราอยากเปิดทางเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอันเป็นการเปิดทางไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 ทำให้เรามีเงื่อนไขมากมายในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน…พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย เราก็ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างสุดความสามารถ รายละเอียดในการแก้ไขครั้งนี้ มันอาจจะไม่ถูกใจ เราทุกคน แต่อยากบอกให้รู้ไว้ว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนเราพยายามกันอย่างสุดความสามารถแล้วแต่กรรมาธิการ 35 คน ที่อยู่ในคณะไม่ได้มีแค่ สส.พรรคฝ่ายค้าน แต่มีฝั่งรัฐบาลและฝั่งทางวุฒิสมาชิกด้วยเช่นกันที่เขาก็มีความเห็นในอีกแบบหนึ่ง นั้นทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ออกมาว่า หนึ่งก็คือไม่มีสสร. หรือสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

แต่ถึงแม้จะมีกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญก็ตามจำนวน 35 คน แต่ 35 คนนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แล้วเราก็ยังมีกรรมาธิการรับฟังความเห็นอีกจำนวน 35 คน ซึ่งกรรมาธิการชุดนี้ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอีกเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากจะบอกว่าในบรรยากาศทางพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยพยายามแล้วที่จะทำให้กรรมาธิการทั้ง 2 ชุดนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่เราก็ไม่สามารถทำได้ แต่ว่าเราทั้ง 2 พรรคก็ได้มีการสงวนความเห็นเอาไว้แล้วเราก็หวังว่า การสงวนความเห็นในวันพรุ่งนี้ของเราทั้ง 2 พรรค จะได้รับการสนับสนุนจากสส.และสว. ให้การเลือกตั้งของประชาชน การเลือกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญและกรรมาธิการรับฟังความเห็น และแน่นอนในส่วนของพรรคเพื่อไทยจุดยืนเรายังเหมือนเดิม ถึงแม้ร่างของพรรคเพื่อไทยจะถูกตีตกไปในวันที่หนึ่งก็คือพรรคเพื่อไทยยังยืนยันให้มีสสร.หรือสภาร่างรัฐธรรมนูญมาทำหน้าที่ในการช่วยร่างรัฐธรรมนูญ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนร่าง แต่เราขอให้สสร.นั้นเป็นกลไกๆหนึ่งร่วมกับกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญและกรรมาธิการรับฟังความเห็นในการที่จะนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็สงวนความเห็นตรงนี้ไว้ อยากได้รับการสนับสนุนจาก สส.และ สว. ทุกท่านให้มีสภาร่างที่ยึดโยง พรรคประชาชนมาจากการเลือกตั้งของประชาชน และที่สำคัญที่สุด เรามั่นใจว่าการมีสสร.ของเราจะไม่เป็นการกระทำที่ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด อันนี้คือจุดยืนของพรรคเพื่อไทย”

ในตอนท้ายขัตติยาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเคาะคำถามประชามติคำถามแรกโดยไม่ต้องรอเหตุการณ์ทางการเมืองหรือการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระสองและสาม

ส่วนสหัสวัต คุ้มคง สส. พรรคประชาชนกล่าวว่า “จุดยืนของพวกเราพรรคประชาชนก็ชัดเจน เราสงวนคำแปรญัตติไว้ในหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยืนยันคูหาเลือกตั้งว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามประชาชนต้องได้มีโอกาสเลือกกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง แล้วสภาจึงเลือกตอบเป็นการเลือกตั้งทางอ้อม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด 2) เราคงการเลือกสภารับฟังความคิดเห็นเอาไว้เป็นเลือกตั้งทางตรงเพื่อช่วยสะท้อนเสียงประชาชนสู่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เรายืนยัน เราต้องมีคูหา ซึ่งผมคิดว่า แม้ในชั้นกรรมาธิการเสียงข้างมากเราจะแพ้กันแต่ว่าวันพรุ่งนี้พวกเราก็จะยืนเรื่องนี้ในการพิจารณาวาระ 2 ของสภา รวมถึงสูตร 20 หยิบ 1 ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการผูกขาด ไม่ให้มีสีใดสีหนึ่งได้ยึดครองผู้ร่างรัฐธรรมนูญแต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า สีน้ำเงิน หรือสีแดง เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้ร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นระบบ และที่สำคัญ เรายืนยันอย่างชัดเจนเรื่องเสียงข้างมากของสภา ผมคิดว่าเรื่องนี้ชัดเจนว่าเราต้องยึดโยงอำนาจของประชาชนให้มากที่สุด ทุกคนที่ทุกคนออกมาพูดเมื่อกี้ว่าอยากเห็นรัฐธรรมนูญหน้าตาแบบไหน อยากเห็นรัฐธรรมนูญใหม่เป็นอย่างไร มันจะทำไม่ได้เลย ถ้าพรุ่งนี้การโหวตร่างรัฐธรรมนูญออกมาวาระ 2 มันไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นฝากทุกคนติดตาม การพิจารณาประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ว่าสุดท้ายในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 15/1 ที่นำไปสู่การรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มันจะหน้าตาเป็นอย่างไร”

ภาคประชาชนร่วมยื่นข้อเสนอต่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เวลา 18:00 น. องค์กรภาคประชาชนต่างๆ ได้แสดงจุดยืนต่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยมีเครือข่ายภาคประชาชน 18 เครือข่ายร่วมแถลงข้อเรียกร้องครั้งนี้

ข้อเสนอของเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนมีหลากหลายประเด็น ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม สวัสดิการ ความเป็นทั้งทางเพศ รวมถึงโครงสร้างทางการเมือง เช่น

  • ขบวนการประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (PDMT) ประกาศว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมาจากประชาชน และต้องแก้ไขได้ทุกหมวดทุกมาตรา และให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ทลายทุนผูกขาด สร้างอำนาจให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้

  • เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะและเครือข่ายรักษ์ระนอง อ่านแถลงการณ์มีใจความสำคัญว่า รัฐธรรมนูญใหม่ต้องเคาระสิทธิการพัฒนาของชุมชน โดยพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร และพื้นที่จังหวัดระนองได้รับผลกระทบจากโครงการแลนด์บริดจ์ และโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ โดยเรียกร้องให้ภาคการเมืองเปิดประตูการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างแท้จริง

  • เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย ระบุข้อเรียกร้องว่า รัฐธรรมนูญใหม่เป็นรัฐสวัสดิการ ดูแลประชาชนถ้วนหน้า ที่ทุกคนมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียมและมีมาตรฐาน ได้รับการศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้สูงอายุทุกคนได้รับบำนาญถ้วนหน้า โดยรัฐจะต้องจัดการภาษีให้ครอบคลุม และเคารพศักดิ์ศรีของมนุษย์โดยไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุใดๆ มีเสรีภาพทุกด้านเสมอกัน รวมทั้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคมเพื่อให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการ

  • เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ระบุข้อเรียกร้องว่า แต่เดิมทรัพยากรเป็นของรัฐ แต่ถูกลิดรอน ยึดครอง และเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน ดังนั้น อำนาจในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงทรัพยากรแร่ต้องเป็นของประชาชน และยืนยันว่า ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการเลือกตั้ง 100%

  • ภาคีนักกิจกรรมแห่งเครือข่ายประชาคมปาตานี ระบุว่า รัฐธรรมนูญใหม่จะต้องวางหลักการพื้นฐาน 3 ข้อ คือ ต้องรับรองการลงนามสนธิสัญญา อนุสัญญา กฎบัตร ระหว่างประเทศต่างๆ ให้มีผลบังคับใช้ คุ้มครองสิทธิเสรีภาพการเเสดงออกทางการเมือง การมีส่วนทางการเมืองอย่างสันติ เเละรื้อวาทกรรมความมั่นคงของรัฐที่พ่วงเข้ามาในมาตราคุ้มครองเสรีภาพการเเสดงออก และให้มีหมวดในรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยกระจายอำนาจการปกครองที่เปิดกว้าง

  • ครือข่ายความเป็นธรรมทางเพศเพื่อการร่างรัฐธรรมนูญ ระบุข้อเรียกร้องภาพรวมว่ารัฐธรรมนูญจะต้องโอบอุ้มและครอบคลุมความหลากหลายทางเพศ อีกทั้งต้องปกป้องสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศด้วย โดยมีองค์กรต่างๆ ระบุข้อเรียกร้องของกลุ่มตนเองด้วย เช่น สิทธิในการกำหนดเพศสภาพและคำนำหน้านาม สิทธิในความสุขทางเพศ เป็นต้น

  • ขบวนการประชาธิปไตยอีสาน (IDM) เรียกร้องให้รัฐธรรมนูญบรรจุประเด็นต่างๆ เช่น การให้ท้องถิ่นมีอำนาจตัดสินใจในเรื่องของตัวเอง ไม่ปิดกั้นเสรีภาพในการรู้ความจริง และให้เสรีภาพในการชุมนุมที่ไม่ต้องขออนุญาตจากผู้ใด แก้กฎหมายพรรคการเมือง รวมถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ทั้งยังเรียกร้องให้รัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ให้รัฐธรรมนูญ “กินได้”

  • กลุ่มเยาวชน The Sea Walk ลูกหลานของนักรบผ้าถุง จากอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เรียกร้องให้รัฐธรรมนูญที่คลี่คลายปัญหาความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และคุ้มครองให้เยาวชนเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่ดี ไม่ให้ผู้ใดแสวงหาผลกำไรและทำลายสิ่งแวดล้อมที่ดี

  • สหภาพแรงงานแพลตฟอร์ม เรียกร้องให้คนทำงานแพลตฟอร์มยังคงมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยรัฐธรรมนูญจะต้องกำหนดสิทธิและให้เสรีภาพในการรวมตัวเป็นสหภาพแรงงานในทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ และต้องรองรับอนุสัญญาฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีในการรวมตัว และฉบับที่ 98 ว่าด้วยเสรีภาพในการเจรจาต่อรอง เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิการรวมตัว คุ้มครองสิทธิแรงงานมากขึ้น ทำให้รัฐธรรมนูญเข้าใจง่าย

  • สมัชชาคนจน เสนอ “รัฐธรรมนูญคนจน” ที่มีข้อเสนอ เช่น ยืนยันการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทุกหมวด ทุกมาตรา โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประชาชนมากกว่าความมั่นคงของรัฐ เคารพความแตกต่างหลากหลายบนพื้นฐานของความเท่าเทียม อีกทั้งยืนยันว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย มีมาตรการป้องกันการรัฐประหารและไม่ให้ผู้ทำรัฐประหารลอยนวลพ้นผิด เป็นต้น

เวลา 20:05 น. เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ประธาน กป.อพช. อ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ เพื่อประกาศจุดยืนร่วมกัน คือ

  • ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560

  • เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

  • ผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องมาจากการเลือกตั้ง 100%

และเสร็จสิ้นกิจกรรมในเวลา 20:15 น.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...