โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

สัมพันธ์จีน-ไทย 50 ปี : สืบสานจากประวัติศาสตร์ ยืนยงด้วยการแลกเปลี่ยน

Xinhua

อัพเดต 27 ธันวาคม 2568 เวลา 5.30 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • XinhuaThai

× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป

(แฟ้มภาพซินหัว : รูปปั้นหินแกะสลักที่วัดโพธิ์ในกรุงเทพฯ วันที่ 30 ก.ค. 2024)

กรุงเทพฯ, 26 ธ.ค. (ซินหัว) — เหล่ารูปปั้นหินแกะสลัก ณ พระบรมมหาราชวังในกรุงเทพฯ อาจดูเป็นเพียงเทพผู้พิทักษ์ตกแต่งพื้นที่ในสายตานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ แต่ความจริงแล้วรูปปั้นหินบางส่วนนั้นเคยข้ามมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ในฐานะ “อับเฉาถ่วงดุล” ประจำเรือสินค้าของจีนและถูกนำขึ้นฟากฝั่งตั้งแต่หลายศตวรรษก่อน โดยโบราณวัตถุเหล่านี้เป็นดังเครื่องเตือนใจว่าความสัมพันธ์จีน-ไทยหล่อหลอมขึ้นมาจากการติดต่อค้าขายที่ยาวนาน ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ

หมุดหมายครึ่งศตวรรษ หยั่งรากลึกในเรื่องราวอันยาวนาน

ขณะการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนอย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 13-17 พ.ย. ซึ่งเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ไทยนับตั้งแต่สองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 1975 และจีนเป็นประเทศใหญ่แห่งแรกที่พระองค์ทรงเลือกในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ ได้เป็นหมุดหมายสำคัญในวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย และปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย

วันที่ 14 พ.ย. สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เข้าพบพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ อาคารมหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง โดยสีจิ้นผิงกล่าวว่าตลอดระยะเวลาครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา จีนและไทยได้สนับสนุนซึ่งกันและกันท่ามกลางภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมเสริมว่าจีนพร้อมทำงานร่วมกับไทย ณ จุดเริ่มต้นครั้งประวัติศาสตร์ใหม่นี้ เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านมาและเดินหน้าการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันในช่วง 50 ปีข้างหน้า

ด้านอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งตามเสด็จเยือนจีน กล่าวว่าการเสด็จเยือนครั้งนี้ “เปิดบทใหม่” ของความสัมพันธ์ทวิภาคี ขณะพิธีการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากฝ่ายจีนสะท้อนมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ประเมินค่าไม่ได้

ความสัมพันธ์ที่มีรากฐานมาก่อนการทูตสมัยใหม่

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างจีน-ไทยในด้านการค้ามีมาก่อนการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่างทั้งสองฝ่ายหลายศตวรรษ บันทึกทางประวัติศาสตร์หลายฉบับระบุว่า การแลกเปลี่ยนสื่อสารระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มต้นจากสมัยราชวงศ์หมิง (ปี 1368-1644) กองเรือจีนภายใต้การนำของเจิ้งเหอแล่นผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเดินทางถึงพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน รวมถึงแถบจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน ขณะการค้าทางทะเลเฟื่องฟู จีนนำเข้าข้าว เครื่องเทศ และแร่ธาตุจากสยาม ส่วนพ่อค้าไทยนำเข้าเครื่องเคลือบ ผ้าไหม ชา และเครื่องเหล็กจากจีน

ร่องรอยทางวัตถุของการแลกเปลี่ยนยุคแรกเริ่มเหล่านี้ยังคงปรากฏให้เห็นจนถึงปัจจุบัน โดยรูปปั้นหินแกะสลักจากจีน ซึ่งเดิมทีใช้เป็นอับเฉาถ่วงดุลเรือสินค้าขากลับ ถูกขนส่งมายังไทยและจัดวางตามสถานที่สำคัญและศาสนสถาน รูปปั้นหินบางส่วนมีจารึกว่า “ผลิตในกว่างตง (กวางตุ้ง)” ด้วย โดยรูปปั้นหินแกะสลักเหล่านี้ถูกค้นพบเป็นจำนวนมากระหว่างการบูรณะพระบรมมหาราชวังในปี 2021 คณะนักวิจัยเชื่อว่ารูปปั้นหลายตัวมาจากยุคปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเป็นสายใยสำคัญ

นอกเหนือจากการค้าขาย ปฏิสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมยังมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมความสัมพันธ์ทวิภาคี องค์ประกอบทางวัฒนธรรมของจีนค่อยๆ ปรากฏในสังคมไทย เห็นได้จากสถาปัตยกรรม จิตรกรรมฝาผนังวัด และชีวิตประจำวัน โดยอาหารอย่างก๋วยเตี๋ยว ซาลาเปา และโจ๊ก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากอาหารจีน กลายเป็นเมนูทั่วไปในไทย ขณะเดียวกันเทศกาลจีนดั้งเดิมอย่างตรุษจีนได้รับการเฉลิมฉลองอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะย่านเยาวราชของกรุงเทพฯ

การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมยังคงดำเนินต่อไปในรูปแบบสมัยใหม่ ภาพยนตร์ กีฬา และกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ กลายเป็นเวทีสร้างปฏิสัมพันธ์นอกเหนือจากช่องทางทางการ ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนสองประเทศ โดยปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เคยกล่าวว่าความสัมพันธ์ไทย-จีนฝังรากลึกอยู่ในประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม อาหาร และผู้คนของทั้งสองประเทศ

ห้าสิบปีแห่งความร่วมมือที่มั่นคง

จีนและไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 1975 มีการติดต่อสื่อสารเพิ่มขึ้นผ่านแลกเปลี่ยนด้านการค้าและวัฒนธรรม โดยตลอดห้าทศวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้ขยับขยายอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจขยายวงกว้างตามกาลเวลา สินค้าเกษตรของไทยได้รับความนิยมในตลาดจีน สินค้าที่ผลิตในจีนได้เข้าสู่ตลาดไทย บริษัทจีนจำนวนมากที่ดำเนินธุรกิจในไทยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นและการพัฒนาในระยะยาว

ขณะการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนเพิ่มขึ้นเช่นกัน ช่วยเสริมสร้างรากฐานทางสังคมของความสัมพันธ์ทวิภาคี ทำให้ความร่วมมือมีความยืดหยุ่นและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยการแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชนและความคิดสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมกำลังเกิดขึ้นควบคู่กับความร่วมมือดั้งเดิม เปิดช่องทางใหม่สำหรับการมีส่วนร่วมในระยะยาว สอดคล้องกับแนวทางของทั้งสองประเทศที่ให้ความสำคัญกับความต่อเนื่อง

นับจากหินถ่วงเรือที่เคยข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงการแลกเปลี่ยนประจำวัน ความสัมพันธ์จีน-ไทยได้เดินทางมาอย่างยาวไกล แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยประสบการณ์ร่วม และก้าวหน้าสู่บทต่อไปอย่างมั่นคง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...