‘ไทรวมพลัง’ ส่ง 26 สส. หวังกวาด ‘อุบลฯ-สุราษฎร์ฯ’ ชูนโยบายช่วยทหารแนวหน้า
วันนี้ (26 ธันวาคม) วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง เปิดตัวผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขต 11 เขต แบ่งเป็นจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 6 เขตเลือกตั้ง และผู้สมัคร สส. จังหวัดสุราษฎร์ธานี 5 เขตเลือกตั้ง รวมถึงผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ 15 คน
วสวรรธน์ได้แสดงวิสัยทัศน์การนำความเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ทั้งพลังสุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี และจังหวัดอื่นๆ มารวมกันเป็น ‘ไทรวมพลัง’ แม้จะเป็นพรรคเล็ก แต่คิดใหญ่ เพราะที่ผ่านมาได้กินนอนอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ชายแดน ที่ห่างจากช่องอานม้า ช่องบก ไม่ถึง 10 กิโลเมตร เข้าใจความเดือดร้อน ชีวิตทรัพย์สินที่เสียไป เข้าใจหัวอกทหารแนวหน้า
“แม้หลายคนจะบอกว่า หน้าที่ของ สส. คือไปผลักดันกฎหมายในสภา แต่ผมคิดเสมอ ว่า นี่คือหน้าที่ของ สส. ที่ไปช่วยประชาชน ช่วยทหารแนวหน้า และขณะนี้คนไทยทุกคนต้องร่วมกัน เราจะไม่ทะเลาะกันเอง และรักษาอธิปไตยของเรา วันนี้ไม่ว่าจะเป็นภัยความมั่นคง สถานการณ์ชายแดน ที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานี ผมสัมผัสแล้วรู้สึกว่า ต้องนำมากำหนดเป็นนโยบาย นำไปสู่การแก้ไข จึงคิดการใหญ่ที่จะไปสนับสนุนไปช่วยเหลือในการไปสู้กับรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่”
ขณะที่ผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อทั้ง 15 คน ที่เปรียบเหมือนเป็น ‘มือตีมีด’ เป็นผู้ปิดทองหลังพระ สส. ของพรรคไทรวมพลัง ถือค้อน ถือเครื่องมือช่าง ขับรถแม็คโคร ขับรถขนดิน ไปสนับสนุนทหารที่ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีแผ่นพื้นคอนกรีต เพราะฐานบังเกอร์ คือ สิ่งที่จะรักษาชีวิต จึงขอเสียงสนับสนุน เพื่อให้คนที่ทำความดี มีแรงที่จะทำดีต่อไปให้ประเทศ
ส่วนได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ที่นั่งกี่เก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรนั้น วสวรรธน์กล่าวว่า คาดหวังจะได้ทั้ง 26 ที่นั่ง หากประชาชนให้โอกาสพรรคเล็กเข้าไปในระบบประชาธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมาทางพรรคเคยสร้างปรากฏการณ์ที่ส่งผู้สมัคร 2 คน และทำได้ทั้ง 2 คนมาแล้ว ขอโอกาสให้พรรคเล็กได้มีที่ยืน
ส่วนมองการร่วมรัฐบาลหลังเลือกตั้งไว้อย่างไร วสวรรธน์กล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลพรรคใดที่เชิญเราไปร่วมเป็นรัฐบาล ก็ถือว่าเป็นเกียรติ แต่มองว่าสิ่งใดที่จะทำประโยชน์ให้กับประชาชน สิ่งใดที่จะรักษาชีวิต ทรัพย์สิน ครอบครัว ทหารไม่บาดเจ็บ ไม่เสียขีวิต ก็พร้อมที่จะสนับสนุน
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่สุราษฎร์ธานี พรรคไทรวมพลังมี วชิราภรณ์ กาญจนะ อดีต สส. สุราษฎร์ธานี พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบหลัก โดยระบุว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับสังกัดพรรคใด เพียงแต่มองหาว่ามีพรรคการเมืองใดให้โอกาสเปิดกว้างในการทำงาน