โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

ลดความอ้วนโดยการ "งดกินแป้ง" นั้นมีผลร้ายมากกว่าที่คิด

Spiceee.net

เผยแพร่ 07 พ.ค. 2561 เวลา 03.58 น. • Stell E.

"แป้ง" เจ้าตัวร้ายทำลายหุ่นสวย ใคร ๆ พอจะลดหุ่นที่ไรก็มักจะจ้องตัดเมนูแป้งออกจากรายการอาหาร ก็จริงอยู่ที่ว่าการบริโภคแป้งมากเกินไปนั้นจะทำให้เราอ้วน แถมเมนูสุดโปรดของคุณสาว ๆ ส่วนใหญ่ ขนม นม เนย ของกินเล่นต่าง ๆ มักมีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก แต่รู้หรือไม่ว่าหากเรางดไม่ทานแป้งเลยนั้นเป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี

studybreaks.com
yeinjee.com

#1. "แป้ง" แหล่งพลังงานสำคัญ

แป้ง อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หนึ่งในอาหารหลัก 5 หมู่ที่จำเป็นต่อร่างกาย แป้งนั้นจัดเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกาย ถือเป็นเชื้อเพลิงหลักเลยก็ว่าได้ เมื่อเราบริโภคแป้งเข้าไป ร่างกายจะย่อยแป้งให้เป็นโมเลกุลที่เล็กลงและนำไปใช้ได้ง่ายขึ้นอย่างน้ำตาลกลูโคส แล้วแหล่งพลังงานนี้จะถูกนำไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง กิน นอน เดิน วิ่ง หรือแม้แต่หายใจก็จำเป็นต้องใช้พลังงานทั้งสิ้น

articles.bplans.com

#2. งด "แป้ง" มีแต่จะอยากของหวานเพิ่มขึ้น

www.idskinexpert.com

แม้จะเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ แต่หากว่าบริโภคเกินความจำเป็น ร่างกายก็จะเก็บสะสมไว้ในรูปแบบของส่วนเกินที่จะค่อย ๆ พอกพูนไปเรื่อย ๆ แต่กระนั้นถ้าวันหนึ่งวันใด คุณเกิดตัดสินใจไดเอทแล้วงดแป้งไปเลย ก็จะทำให้คุณรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรง สมองไม่แล่น มือไม้สั่น จะเป็นลมขึ้นมาได้ แล้วก็จะตามมาด้วยอาการอยากของหวานอย่างแรงกล้า จนอาจตะบะแตก แล้วฟาดหนักกว่าเดิมจนเกิดโยโย้ได้ แถมระยะยาว การงดแป้งก็ส่งผลร้ายต่อสุขภาพในหลาย ๆ ทางด้วย

#3. "แป้ง" ดูเหมือนจะตัวร้าย แต่ร่างกายก็ขาดไม่ได้

ไม่มีอาหารใดเป็นตัวร้ายจริง ๆ หรอก หากคุณรับประทานมันแต่พอดี แต่การงดเว้นไม่ทานแป้งเลยนั้นจะมีผลเสียมากกว่าผลดีแน่นอน เพราะร่างกายคุณจะขาดคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลัก แน่นอนว่าอันดับแรกคุณจะอ่อนระโหยโรยแรง จากนั้นร่างกายก็จะหาแหล่งพลังงานอื่นมาเผาผลาญทดแทน โดยจะดึงเอาโปรตีนและไขมันในร่างกายมาใช้ ซึ่งน้้นจะเป็นการทำลายกล้ามเนื้อ หากเป็นเช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ กล้ามเนื้อก็จะลีบแบน ร่างกายซูบผอม ผิวหนังเหี่ยวย่นแห้งกร้านไม่สดชื่นเนื่องจากการขาดไขมัน

www.wallpaperbetter.com

#4. ขาด "แป้ง" แล้วร่างกายจะเป็นเช่นไร

นอกจากคุณจะอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว ระบบต่าง ๆ จะทำงานผิดปกติ ภูมิคุ้มกันลดลง ระบบโลหิต ต่อมน้ำเหลือง และอื่นๆ ทำงานไม่สมดุล คุณอาจกลายเป็นคนขี้โรคที่มีแต่โรคภัยมารุมเร้า ร่างกายจะอ่อนแอ ติดเชื้อได้ง่าย ถ้าไม่อยากกลายเป็นยายขี้โรคก็จงอย่าลดน้ำหนักโดยการงดแป้งกันนะจ๊ะ

www.kaitomstudio.com
channel-korea.com

#5. อ้าว !! ไม่งด "แป้ง" แล้วจะลดน้ำหนักกันยังไง

การงดแป้งไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการลดน้ำหนัก หากคุณกำลังลดน้ำหนัก แนะนำให้ทานในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกทานแต่คาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อร่างกาย เช่น คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีน้อย (ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ขนมขนมปังโฮลวีท) ร่วมกับผักผลไม้ที่มีรสหวานน้อย กากใยอาหารสูง เช่น มันเทศ ข้าวโพด แทน ทานแต่พอดี ทานของดีมีประโยชน์จะดีกว่า

www.theonlinecitizen.com

#6. ทาน "แป้ง" แค่ไหนจึงเรียกว่าพอดี

คำนวนง่ายๆ ในมื้อหนึ่ง ทานคาร์โบไฮเดรตได้ 1 กำปั้นมือ ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ มื้อเย็นอาจลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลงแล้วเน้นเนื้อสัตว์ผักผลไม้แทน ไม่จำเป็นต้องงดแป้งโดยสิ้นเชิง

www.rejuvinstitute.com

#7. น้ำตาลน่ะ ร้ายกว่า "แป้ง" เยอะ

หากจะงดควรไปลดปริมาณน้ำตาลที่บริโภคต่อวันจะดีกว่า ซึ่งไม่ควรบริโภคเกินวันละ 6 ช้อน หากเกินกว่านี้ น้ำตาลท่ีร่างกายนำไปใช้ไม่ทันจะสะสมอยู่ในรูปส่วนเกินตามที่ต่าง ๆ และสะสมเป็นไขมันในตับ ทำให้ตับอักเสบ และเป็นสาเหตุตับแข็งได้

cutekoreangirls.xyz

#8. ลดน้ำหนักยังไงให้ได้หุ่นสวยพร้อมสุขภาพดี

การไดเอทจึงไม่ใช่การงดหรืออดอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นการทานอย่างพอดี ทานให้หลากหลายเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่มากหรือน้อยเกินไปร่วมกับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อที่ว่าเราจะได้มีทั้งหุ่นดีและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ไปพร้อม ๆ กัน

onefc.com

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับข้อมูลการลดน้ำหนักฉบับคนรักสุขภาพ ทานแต่พอดี ไม่มีอด ไม่งดแป้งที่เรานำมาเสนอในวันนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์และลบล้างความเชื่อเดิม ๆ เกี่ยวกับการไดเอทแบบงดแป้งของคุณสาว ๆ ไปได้ สาว ๆ ชาว spice จะได้มีหุ่นเพรียว ฟิตแอนด์เฟิร์ม สุขภาพดีกันทั่วหน้า

cutekoreangirls.xyz
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...