โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รวบหนุ่มเขมรขนซากหมูเถื่อนข้ามแดนนับร้อยตัว เอาไปกักตุนทำหมูหันขาย!

เดลินิวส์

อัพเดต 11 มิ.ย. เวลา 23.02 น. • เผยแพร่ 11 มิ.ย. เวลา 16.02 น. • เดลินิวส์
ด่านกักกันสัตว์จับชาวเขมร ขนซากหมูเถื่อนข้ามแดนนับร้อยตัว น้ำหนักรวม 560 โล หลังด่านปิดหลายวัน เอาไปกักตุนทำหมูหันขาย ก่อนนายกฯ เดินทางมาที่ฐานกลางไม่กี่นาที

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สุรินทร์ นำโดย นายประภาส พันธุ์กวี และนายกิตติรัตน์ เฉลียวไว ได้ จับกุมนายรุน โซเฮง ชาวกัมพูชา วัย 25 ปี ขณะขับรถตู้โตโยต้า ทะเบียนพนมเปญ บรรทุก ซากสุกรเถื่อนกว่าร้อยตัว รวมน้ำหนัก 560 กิโลกรัม ที่จุดตรวจของทหารบริเวณฐานปฏิบัติการกลาง ทางเข้าหน้าด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่นาทีก่อนที่นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเดินทางมาถึงฐานปฏิบัติการกลาง ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารตรวจตราอย่างเข้มงวดและพบความผิดปกติ นายรุน โซเฮง สารภาพว่าถูกว่าจ้างให้ไปรับซากหมูที่ปั๊มน้ำมันใน อ.สังขะ โดยทำมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้มีจำนวนมากเป็นพิเศษ เพราะด่านชายแดนเพิ่งเปิดได้เพียง 2 วัน หลังจากปิดไปหลายวัน ซึ่งเขาได้รับว่าจ้างให้ขนซากหมูจำนวนมากเพื่อนำไปกักตุนทำหมูหันขายในกัมพูชา

เจ้าหน้าที่ได้ยึดซากสุกรซึ่งมีมูลค่าประมาณ 40,000 บาท และส่งตัวนายรุน โซเฮง ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 และมาตรา 65 ฐานเคลื่อนย้ายซากสุกรในเขตเฝ้าระวังโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ นอกจากนี้ นายประภาส พันธุ์กวี หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สุรินทร์ จะดำเนินการสืบสวนหาฟาร์มหมูที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนซากสุกรของกลางจะถูกนำไปเก็บรักษาและส่งตรวจหาเชื้อโรคในห้องปฏิบัติการต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...