โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘ชีวิตดีๆ ในยุคเศรษฐกิจรุ่งเรือง’ แฮชแท็กโหยหาอดีตของคนหนุ่มสาวจีน ที่ครั้งหนึ่งเคย ‘เลือกงานได้’ แต่ปัจจุบันกลับหาความมั่นคงไม่ได้

THE STANDARD

อัพเดต 30 ก.ค. เวลา 05.25 น. • เผยแพร่ 30 ก.ค. เวลา 05.25 น. • thestandard.co
‘ชีวิตดีๆ ในยุคเศรษฐกิจรุ่งเรือง’ แฮชแท็กโหยหาอดีตของคนหนุ่มสาวจีน ที่ครั้งหนึ่งเคย ‘เลือกงานได้’ แต่ปัจจุบันกลับหาความมั่นคงไม่ได้

ในยามที่ข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการอาจไม่น่าเชื่อถือเสมอไป กระแสไวรัลในโซเชียลมีเดียของจีนกลับกลายเป็นดัชนีชี้วัดทางสังคมที่น่าสนใจยิ่งกว่า โดยล่าสุดแฮชแท็ก ‘ชีวิตดีๆ ในยุคเศรษฐกิจรุ่งเรือง’ (beauty in the time of economic upturns) ได้กลายเป็นภาพสะท้อนความรู้สึกโหยหาอดีตและความคับข้องใจของคนหนุ่มสาวที่กำลังเผชิญกับตลาดแรงงานที่ฝืดเคืองอย่างหนัก

แฮชแท็กดังกล่าวคือการรำลึกถึงช่วงยุค 2000-2010 ที่เศรษฐกิจจีนเฟื่องฟูจนบัณฑิตจบใหม่สามารถเลือกงานได้หลายแห่งพร้อมกัน ซึ่งเป็นภาพที่แตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

ทุกวันนี้คนหนุ่มสาวหลายล้านคนที่เข้าสู่ตลาดแรงงานในแต่ละปีกลับต้องเผชิญกับภาวะที่ภาคเอกชนไม่สามารถรองรับได้ทั้งหมด ทำให้หลายคนจำใจต้องรับงานที่ไม่ตรงกับความฝันและไม่มีความมั่นคง

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อนักเศรษฐศาสตร์เริ่มตั้งข้อสงสัยในความน่าเชื่อถือของตัวเลขการจ้างงานของทางการ หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเคยระงับการเปิดเผยข้อมูลการว่างงานของเยาวชนไปชั่วคราว หลังจากที่ตัวเลขพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2023 ทำให้นักวิเคราะห์ต้องหันไปพึ่งพาตัวชี้วัดจากภาคเอกชนและกระแสในโลกออนไลน์เพื่อทำความเข้าใจภาพที่แท้จริง

ข้อมูลจากสถาบันการเงินอย่าง Barclays และ Goldman Sachs ต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ตลาดแรงงานของจีนมี ‘สัญญาณการเสื่อมถอยอย่างต่อเนื่อง’ การจ้างงานชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่จีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภค

ความ ‘เจ็บปวด’ นี้แผ่ขยายไปในวงกว้าง เออร์นาน ชุย จาก Gavekal Dragonomics ชี้ว่าการปรับลดค่าจ้างในปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นในหลายภาคส่วนและรุนแรงยิ่งกว่าช่วงการระบาดของโควิดเสียอีก

โดยไม่เพียงแต่ภาคเทคโนโลยีที่เคยรุ่งเรืองจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด แม้แต่หน่วยงานภาครัฐเองก็ต้องลดค่าจ้างพนักงานเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงปัญหางบประมาณของรัฐบาลท้องถิ่น

ทั้งหมดนี้ได้สร้างวงจรอุบาทว์ที่น่ากังวล เมื่อตำแหน่งงานและรายได้ที่ ‘เปราะบาง’ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าอนาคตของตนเองไม่แน่นอน และส่งผลให้พวกเขา ‘ไม่เต็มใจที่จะใช้จ่าย’ ซึ่งการบริโภคที่ซบเซาก็ยิ่งกลับมากดดันให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงไปอีก กลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกของรัฐบาลปักกิ่ง

ที่สุดแล้วสิ่งที่ผู้คนโหยหาผ่านแฮชแท็กนี้อาจไม่ใช่แค่ตำแหน่งงานหรือเงินเดือนสูงๆ เท่านั้น แต่เป็นการรำลึกถึงยุคสมัยที่พวกเขามี ‘ความหวัง’ และความเชื่อมั่นว่าการเติบโตของรายได้เป็นสิ่งที่แน่นอน, ราคาบ้านจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อที่ว่าความขยันหมั่นเพียรและจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการจะได้รับการตอบแทนเสมอ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่กำลังเลือนหายไปจากสังคมจีนในปัจจุบัน

ภาพ: humphery / Shutterstock

อ้างอิง:

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...