โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นักร้องร้องเพลงไม่ได้อีกเลย หลังดื่มเครื่องดื่มสุดโปรดทุกวัน

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 07 ก.ค. เวลา 01.55 น. • เผยแพร่ 07 ก.ค. เวลา 08.42 น.

สายหวานต้องฟังให้ดี เมื่อสื่อจีนรายงานกรณีของนักร้องสาววัย 28 ปี จากมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ที่ต้องพบจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตการทำงาน หลัง เสียงหายจนไม่สามารถร้องเพลงได้อีก โดยสาเหตุไม่ได้มาจากโรคทางพันธุกรรมหรือการใช้งานเสียงเกินขีดจำกัด แต่เกิดจาก “ชานมไข่มุก” เครื่องดื่มสุดโปรดที่เธอดื่มทุกวันไม่ต่ำกว่า 4 แก้ว!

นักร้องสาวรายนี้ เปิดเผยว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เธอมีอาการแปลก ๆ ในลำคอ ทั้งรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอม เสียงแหบเรื้อรัง แสบร้อนแน่นอก และรู้ตัวอีกที…เสียงก็หายไปจนไม่สามารถขึ้นแสดงได้อีก กระทั่งไปพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะ กรดไหลย้อนขึ้นมาที่กล่องเสียง (Laryngopharyngeal Reflux) ซึ่งมีผลอย่างชัดเจนต่อความสามารถในการใช้เสียง

แพทย์ระบุว่า สาเหตุที่น่าจะเกี่ยวข้องกับอาการของเสี่ยวหลี่คือ การบริโภคชานมมากเกินไป เพราะชานมมีน้ำตาลสูง และมีคาเฟอีน ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กรดในกระเพาะหลั่งออกมามาก เมื่อร่างกายไม่สามารถควบคุมสมดุลได้ กรดเหล่านี้ก็จะย้อนขึ้นมาในหลอดอาหารและกล่องเสียง ทำให้เกิด กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก กลืนลำบาก หรือแม้แต่ทำลายเส้นเสียงในระยะยาว

สรุปคำเตือนจากแพทย์

  • ดื่ม ชานมวันละหลายแก้ว เสี่ยงกรดไหลย้อน
  • อาการกรดไหลย้อนเรื้อรังอาจทำลายกล่องเสียง และเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง
  • แนะนำไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้วต่อวัน และ ลดน้ำตาล-ลดไขมัน ในทุกมื้อ

ดังนั้นใครที่ยังติดหวาน ชานมไข่มุกต้องมีทุกวัน อาจต้องทบทวนใหม่ เพราะนอกจากเสียงจะหายได้แบบไม่รู้ตัวแล้ว ยังเสี่ยงโรคอื่น ๆ ตามมาอีกเพียบ ทั้ง สิว ฟันผุ นอนไม่หลับ โรคหัวใจ และโรคเก๊าท์

ข้อมูลจาก CTWANT

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...