โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

“ก้อย-ตูน” แฮปปี้เลี้ยงลูกสองคน ลั่นปิดอู่แล้ว

INN News

อัพเดต 08 ก.ค. เวลา 22.41 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. เวลา 15.41 น. • INN News

“ก้อย-ตูน” แฮปปี้เลี้ยงลูกสองคน รับคอยสอนเวลาลูกเสียงดัง เผยน้องทะเลชอบร้องเพลง ลั่นปิดอู่ ไม่มีคนที่สาม

เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและน่ารักมาก สำหรับคุณแม่ “ก้อย รัชวิน” และคุณพ่อ “ตูน บอดี้แสลม” ที่ล่าสุดได้จูงมือพาลูกทั้งสองคนอย่าง “พี่ทะเล-น้องเวลา” มาออกงาน วันนี้มีโอกาสได้เจอ “ก้อย-ตูน” จึงได้จ่อไมค์ไถ่ถาม อัพเดทถึงเรื่องลูกๆ

เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงมีความต่างกันเยอะไหม?
ก้อย : “เยอะนะ อย่างน้องทะเลก็จะค่อนข้าง active มีความ hyper แต่น้องเวลาจะมีความเรียบร้อยกว่า ด้วยความที่เขาเป็นเด็กผู้หญิง ทีนี้พอเด็กผู้หญิงไปอยู่กับเด็กผู้ชาย เขาก็จะตามพี่หมดเลย พี่พูดอะไรก็จะพูดตาม ปกติเวลาไม่ตะโกน แต่พอทะเลตะโกน เขาก็เอาด้วย เราก็ต้องค่อยๆ สอนเขาไป”
ตูน : “เราเองก็เรียนรู้ ในฐานะพ่อแม่เราก็ต้องเรียนรู้ เราต้องคอยสังเกตว่าทำยังไงถึงจะดีที่สุด บางวันก็ดีบ้าง ไม่ดีบ้างในความรู้สึกเรา แต่เราก็เรียนรู้ไปพร้อมลูก”
ก้อย : “เด็กก็คือผ้าขาว เราแต้มสีอะไรลงไป เขาก็เป็นสีนั้น แต่ว่าสำหรับเด็กบางคน บางทีเขาก็มีสีของเขาติดมาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพ่อแม่ก็ต้องหาสีที่ไปเบลนด์กับเขาให้เป็นธรรมชาติที่สุด โดยที่เราไม่ต้องไปกดดันเขา เพียงแต่เราสอนเขา เรียนรู้ไปกับเขา”

มีสอนน้องทะเลเวลาเสียงดังหรือเวลาเล่นกับน้องไหม?
ตูน : “มีครับ ก็สอนเวลาเขาเล่นกับน้องแรงๆ เพราะน้องเขาเป็นผู้หญิง”
ก้อย : “เราจะบอกเขาอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าธรรมชาติของเด็ก เรื่องเสียงดังมันเป็นเรื่องปกติ เราเข้าใจได้ แต่ว่าเราก็ต้องบอกเขาว่าที่ไหนทำได้ ที่ไหนทำไม่ได้ อันไหนควรหรือไม่ควร แต่ว่าบางทีคือน้องเห็นคุณพ่อเยอะเวลาไปดูคอนเสิร์ต เขาก็จะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ทำแล้ว entertain คนดู ทำให้คนดู เพราะเราเล่าให้เขาฟังว่าเวลาคุณพ่อร้องเพลงจะเสียงดังนะ แต่พอเราออกมาข้างนอก เราก็จะบอกว่าอันนี้ไม่ได้นะ อันนี้ไม่ใช่เวทีคอนเสิร์ต อยู่ในที่สาธารณะ มันมีผู้คนนะ เราก็ต้องสอนเขาว่าเบาๆ”
ตูน : “มันก็เป็นความยากของผมที่ต้องบอกให้เขาเข้าใจว่างานของเราคืออะไร ที่เราขึ้นไปบนเวทีทำเสียงดังเกรี้ยดกราด ที่เราตะโกนมันคือดนตรีนะ มันคือการแสดงที่ทำให้คนดูมีความสุข แต่พอเขาไปดู เขาคิดว่ามันปกติเลยเอามาใช้ชีวิตประจำวันด้วยเสียงแบบนั้น เราก็ต้องค่อยๆ สอนเขา เราก็ไม่รู้หรอกว่าวันไหนที่เขาจะเริ่มรับรู้ได้เองว่าข้างบนกับข้างล่างมันคนละที่กัน”
ก้อย : “แต่ก็บอกลูกนะ คุณพ่ออยู่ข้างบนเป็นแบบนั้น แต่พอลงมาข้างล่าง เห็นไหมว่าคุณพ่อพูดเบา พูดปกติ ก็เลยแบบเราอยากเห็นลูกเป็นยังไง เราต้องทำให้เขาดูก่อน วันนี้เขาอาจจะยังไม่รู้ เขายังอยู่ในกระบวนการเรียนรู้ เราก็ค่อยๆ สอนเขาไป ให้เขาเห็น ให้เขาซึมซับ”

เขามีขอเสียงหน่อยไหม?
ตูน : “ตลอดเวลาๆ คอเป็นเอ็นเลย”
ก้อย : “แต่เราสอนเขาว่าถ้าอยู่ด้วยกันเองในบ้านทำได้ อยู่กันเองในครอบครัวมันโอเค แต่ถ้าออกไปข้างนอกเราอาจจะแบบเบาๆ นิดนึง”
ตูน : “ก็ตลกดีครับ สนุกดีครับเลี้ยงทะเลกับเวลา”

เขาถามไหมเวลาออกไปคอนเสิร์ตว่าพ่อจะร้องเพลงอะไร?
ตูน : “ทุกวันเลยครับ มันเป็นเหมือนกิจวัตรผมด้วยนะ เดี๋ยววันนี้พ่อไปร้องเพลงนะ พ่อไม่อยู่ด้วยหนึ่งคืน นอนกับแม่เป็นเด็กดีนะ คำถามของเขาคือวันนี้พ่อร้องกี่เพลง พ่อร้องเพลงอะไรบ้าง กว่าจะออกจากบ้านก็ต้องตอบคำถามเขาก่อน”

เขามีอยากออกไปร้องเพลงกับคุณพ่อไหม?
ก้อย : “มี เขาพูดบ่อยมากว่าวันนี้หนูจะไปร้องเพลง หนูจะไปเป็นเกสต์ให้คุณพ่อ ทะเลจะไปเล่นคอนเสิร์ตกับพ่อ คือเขาพร้อมแล้วที่จะขึ้นเวที เราก็แบบก่อนขึ้นเวที เราต้องซ้อมก่อนนะ ถ้าทะเลอยากขึ้นไปร้องเพลง อยากขึ้นไปตีกลองก็ต้องหัดก่อน”

เขาชอบเพลงไหนเป็นพิเศษไหม?
ก้อย : “เยอะนะ ร้องได้หลายเพลง ดัมมะชาติ วิชาตัวเบา ความหมายของจักรวาล”
ตูน : “เป็นความแปลกของทะเลอย่างหนึ่ง เขาชอบฟังเพลงบีไซด์ แบบเพลงลึกมาก ขึ้นรถทีไรก็ให้เปิดให้ฟังตลอด”

เขาชอบร้องเพลงหรือตีกลองมากกว่ากัน?
ตูน : “ตอนนี้เขาเริ่มทั้งร้องและหัดนับจังหวะนะ พร้อมๆกัน ตอนนี้ก็ส่งเขาไปเรียนตีกลอง คุณครูเขาจะแบบทดสอบก่อนว่าทะเลมีสมาธิพอไหม คุณครูถึงจะอนุญาตให้เรียนได้”
ก้อย : “เราเห็นความตั้งใจ ความสนใจของน้อง เขาชอบตีกลองมากๆ มันแบบเท่ ตอนนี้ก็เลยให้ลองเรียน”

ทะเลเรียกตัวเองว่าพี่สาม แปลว่ามีแพลนจะมีน้องเพิ่มไหม?
ก้อย : “ทะเลเขาจะชอบบอกว่าตัวเองชื่อพี่สาม ไม่รู้เอามาจากไหน พี่ทะเลไม่อยู่ ตอนนี้จะชื่อพี่สาม ชอบแทนตัวเองด้วยชื่อนี้ แต่เราก็งง เพราะทะเลเป็นพี่คนแรก น้องเวลาเป็นพี่สอง แล้วใครจะเป็นพี่สาม ทุกคนเลยแซวว่าแล้วยังไง หรือต้องมีพี่สาม”
ตูน : “ไม่ไหวแล้วครับ คือเราก็คุยกันอยู่แล้ว น่าจะอยู่ที่เขามากกว่า เขาตั้งท้องมันลำบาก”
ก้อย : “มันก็โอเคแล้ว ก้อยว่าเราโชคดีแหละที่มีลูกทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยที่เขาก็มาตามธรรมชาติ ก็สองคนกำลังดี กำลังสนุก พ่อเขาก็ทำงานเยอะ ก้อยก็ได้กลับมาดูแลตัวเอง ก็รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี ถ้ามีอีกคนหนึ่งก็ต้องกลับไปเริ่มใหม่ คิดว่าประมาณนี้ดีแล้วค่ะ”

ปิดอู่เลยไหม?
ตูน : “ตอนนี้ๆ ปิดแล้วๆ”
ก้อย: “ปิดแล้วค่ะ ปิดแล้วแหละ”

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...