จับตา “ครม.ใหม่” พ่นพิษ “อิ๊งค์” ! ?
ดูเหมือนว่า ชะตาทางการเมือง ของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในองศาที่ยังไม่อาจวางใจได้ มิหนำซ้ำยังต้อง “ลุ้น” กันช็อตต่อช็อต !
โดยเฉพาะเมื่อ “นิติสงคราม” ด้วยการใช้ข้อกฎหมาย และหลักรัฐธรรมนูญ มาเป็นเครื่องมือตรวจสอบ “สถานะ” ของนายกฯอิ๊งค์ อาจกลายเป็น “ดาบ” ที่ทรงพลังมากกว่า “ม็อบรวมพลังแผ่นดิน” บรรดา “ขาประจำ”ที่ประกาศชุมนุมขับไล่ในวันที่ 28 มิ.ย.68 นี้ด้วยซ้ำ
การปรับครม. แต่งตัวปรับโฉมกันใหม่ เพื่อหวังเรียกคะแนนนิยมและความเชื่อมั่นกลับคืนมาจากนี้คือ หนึ่งในกลยุทธ์ที่รัฐบาลผสม ในรหัสใหม่ “แพทองธาร2” กำลังเร่งดำเนินการ “ตรวจสอบคุณสมบัติ” รายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอเชื่อเข้ามาเป็น “รัฐมนตรี”
แน่นอนว่าเมื่อการปรับครม. จาก “แพทองธาร 1” ไปสู่ “แพทองธาร 2” เกิดขึ้นด้วยเงื่อนไขและแรงกดดันทางการเมือง รอบด้าน จึงทำให้การปรับครม.ครั้งนี้ยังแฝงเอาไว้ด้วย “ความขัดแย้ง” ทั้งระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” พรรคแกนนำรัฐบาล ที่ “เขี่ย” เอา “พรรคภูมิใจไทย” ออกไปจากรัฐบาล เท่ากับว่า “รอยแค้น” ของ พรรคสีน้ำเงินจึงยังมีอยู่ และรอวันที่จะ “เอาคืน” โดยไม่ต้องสงสัย
ขณะเดียวกัน อย่าลืมว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยเสร็จสิ้นจากการปรับพรรคสีน้ำเงินออกไปได้แล้ว สิ่งที่ได้คืนกลับมาคือ “8 เก้าอี้” ที่เคยประเคนให้กับ พรรคภูมิใจไทย เมื่อครั้งทำปฏิญญาช็อคมิ้นต์ ประกาศจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา
และเมื่อการปรับครม.ผ่าน การพูดคุยที่ โรงแรมโรสวูด จนเกิดเป็น “ปฏิญญาโรสวูด” เมื่อวันที่22 มิ.ย.ที่ผ่านมา สิ่งที่พรรคเพื่อไทย ต้องทำคือการนำเอา 8 เก้าอี้รัฐมนตรีไปเฉลี่ยให้กับ “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่ยังเหลืออยู่ เพื่อให้ช่วย “ค้ำยัน” รัฐบาลและช่วย แพทองธาร รักษาเก้าอี้นายกฯคนที่ 31 ต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้จึงทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้อยู่ในฐานะที่เป็นต่อ หรือ “ถืออำนาจต่อรอง” มากกว่าพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ในโควตาของพรรคร่วมรัฐบาล จึงกลายเป็นเรื่อง “ภายใน” ของแต่ละพรรคร่วมฯ
แต่ปัญหาที่จะตามมา และกำลังถูกจับตาว่าอาจจะซ้ำรอยปัญหา “คุณสมบัติรัฐมนตรี” ที่เคยเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” นั่งรมต.ประจำสำนักนายกฯ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าพิชิต มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ จนทำให้ถูกถอดออกจากสภาทนายความ ถอดชื่อจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ 5 ปี จนทำให้เศรษฐา ต้องหลุดจากเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับอดีตนายกฯเศรษฐา เมื่อในอดีต จะซ้ำรอยกับการปรับครม.ใหม่ “แพทองธาร 2” อีกหรือไม่ ยังเป็นข้อกังวลไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อดูจากรายชื่อ ผู้ที่ได้รับการเสนอให้เป็นรัฐมนตรี จากบางพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว
ทำให้กูรูการเมืองที่จับตามองประเมินว่า ทันทีที่ มีการประกาศรายชื่อครม.ใหม่ ออกมาอย่างเป็นทางการ สิ่งที่ตามมาคือการยื่นคำร้อง จาก “นักร้อง” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้มีการตรวจสอบปัญหา “คุณสมบัติ” ตามมาทันที และคงไม่ต้องคาดคะเนกันต่อไปว่า โอกาสที่นายกฯอิ๊งค์ จะถูกยื่นถอดถอนด้วยปัญหาคุณสมบัติของรัฐมนตรีใหม่ จะเป็นดาบซ้ำตามมาต่อไป !