บล.กสิกรฯคัดหุ้นเด่นเชิงกลยุทธ์ ชี้โอกาสสะสมหุ้นปัจจัยพื้นฐานแกร่ง
#หุ้นเด่น #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
.
ต่ำกว่ามูลค่าบัญชีหมายถึงมูลค่าที่ถูก?
SET Index ลดลงต่อเนื่องทั้งในส่วนของ ROE และ PBV ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งสอดคล้องกับภาพของกลุ่มพลังงานและการเงิน
บล.กสิกรไทยเชื่อว่าโอกาสที่จะมีการปรับเพิ่มตัวคูณ PBV ของ SET Index นั้นจำกัดจากอัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลที่จำกัด และ GDP ที่โตช้าซึ่งกดดัน ROE
บล.กสิกรไทยมองว่าสถานการณ์นี้เป็นโอกาสที่จะสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น SPALI, CPN, CENTEL, AMATA และ PTT
.
PBV และ ROE ของ SET Index มักจะมีแนวโน้มขาลง
ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา SET Index ปรับตัวลดลงต่อเนื่องทั้งในส่วนของ ROE และ PBV โดยROE ปรับลดลงจาก 20% มาอยู่ที่ 6.9% และ PBV ลดลงจาก 2.1 เท่ามาอยู่ที่ 1.4 เท่า ภายในปี 2567
แนวโน้มขาลงของ ROE เกิดจากอัตรากำไรสุทธิที่ลดลง และการลดระดับอัตราส่วนทางการเงินของสินทรัพย์ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่อเนื่องตามการก่อหนี้ที่ลดลง
PBV จึงลดลงตามผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่น้อยลง รูปแบบนี้เกิดขึ้นเฉพาะในกลุ่มพลังงานและการเงิน ซึ่งคิดเป็นราว 45–50% ของกำไรสุทธิรวมของตลาด
.
กลุ่มพลังงานฉุดอัตรากำไรสุทธิของ SET Index
อัตรากำไรสุทธิของกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มปรับลดลงตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของ SET Index โดยรวมลดลง
สาเหตุหลักจาก 1) อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ที่ลดลงของโครงการใหม่ 2) ฐานเงินทุนที่สูงขึ้น และ 3) การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมจากเทคโนโลยีการสกัดน้ำมันจากชั้นหินดินดาน
.
งบดุลและเลเวอเรจทางการเงินอยู่ในระดับที่น้อยลง
ธนาคารพาณิชย์พยายามลดขนาดงบดุล สอดคล้องกับการลดการใช้จ่ายเพื่อโครงการใหม่ โดยเน้น Maintenance CAPEX มากขึ้น (2554–2567)
ส่งผลให้ ROE ลดลงตามเลเวอเรจทางการเงิน และถูกกดดันเพิ่มจากฐานทุนที่สูงขึ้น ส่งผลต่อกลุ่มธนาคารและ SET Index
.
การเพิ่มตัวคูณ PBV ของ SET Index จะยังจำกัด
แม้ SET Index ซื้อขายด้วย PBV ที่ 0.9–1.0 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต -2SD) แต่โอกาสปรับเพิ่มตัวคูณยังจำกัด เพราะ GDP ไทยปี 2568 คาดโตเพียง 1.4% ลดลงจาก 2.5% ในปี 2567 อีกทั้งบริษัทจดทะเบียนจะเน้นการสำรองเงินสดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่มีกำไรเติบโตดีใน H2/2568–2569 ได้แก่ อสังหาฯ นิคมอุตสาหกรรม และพลังงาน
.
โอกาสใน SET100
พบว่าหุ้น 56 จาก 100 ตัวใน SET100 ซื้อขายต่ำกว่า PBV 1.0 เท่า ในปี 2569 ถือเป็นโอกาสสะสมหุ้นคุณภาพดีที่มูลค่าต่ำกว่าบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ หุ้นเด่นเชิงกลยุทธ์: SPALI, CPN, CENTEL, AMATA, PTT
.
SPALI: ราคาเป้าหมาย 16.30 บาท
เด่นในกลุ่มอสังหาฯ ซื้อขายที่ PBV เพียง 0.48 เท่า ปี 2569
กำไรคาดฟื้น 12% จากการควบรวมในอุตสาหกรรมและการแข่งขันที่ผ่อนคลาย
มีวินัยทางการเงินดี หนี้สินต่อทุนต่ำสุดในกลุ่ม คุมต้นทุนได้ดี GPM สูง
ผลิตภัณฑ์กระจายหลายตลาด เน้นกลุ่ม value-for-money
ธุรกิจในออสเตรเลียยังสนับสนุนการเติบโต
ให้ผลตอบแทนเงินปันผลปี 2569 ที่ 9.6%
.
CPN: ราคาเป้าหมาย 65.00 บาท
รายได้หลัก 90% มาจากพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า
รายได้ Q1/68 โต 9%YoY เกินเป้าทั้งปี
หนุนจากค่าเช่าขึ้น 2–3% และศูนย์ใหม่ในนครสวรรค์-นครปฐม
GPM จากการบริหารพื้นที่แตะ 60% (สูงสุดเป็นประวัติการณ์)
โครงการ "ดุสิต เซ็นทรัลพาร์ค" เปิด ส.ค. 68 ยอดขายที่อยู่อาศัย 80–90% แล้ว
มีโครงการใหม่อีกหลายแห่งเปิดภายในปี 2570
ซื้อขายที่ PE 11 เท่า, PBV 1.7 เท่า, ผลตอบแทนเงินปันผลราว 5%
.
CENTEL: ราคาเป้าหมาย 30.73 บาท
เด่นสุดในกลุ่มท่องเที่ยว กำไรต่ำสุดใน Q2/68 คาดว่าจะฟื้นใน Q3/68
RevPAR ไทยโต 2–3% จากกลุ่ม MICE
โรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2569
ธุรกิจอาหารมี S-curve เด่น (Shinkanzen Sushi, Katsu Midori)
EV/EBITDA ปี 2569 อยู่ที่ 6 เท่า, PBV 1.3 เท่า, ROE ปี 2569 อยู่ที่ 7%
.
AMATA: ราคาเป้าหมาย 23.30 บาท
ราคาหุ้นสะท้อนข่าวลบส่วนใหญ่แล้ว ปัจจุบัน PBV ปี 2569 เพียง 0.5 เท่า
ให้ปันผลปี 2569 ที่ 7.8%
Backlog Q1/68 อยู่ที่ 21.5 พันลบ. รับรู้รายได้ถึงปี 2570
GPM คงที่จากการโอนที่ดินชลบุรี
แม้เจรจาขายบางส่วนอาจไม่สำเร็จ แต่ downside risk ต่ำมากแล้ว
.
PTT: ราคาเป้าหมาย 33.80 บาท
ราคาหุ้นต่ำกว่า -2SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาว PBV ปี 2569 เพียง 0.7 เท่า
ให้ปันผล 6.8% คาดคงปันผล 2.10 บ./หุ้น อีก 5 ปี
Free cash flow แข็งแรงหลังลด CAPEX เหลือ 4–5 พันลบ./ปี (2569–2572)
มีโครงการซื้อหุ้นคืน 470 ล้านหุ้น (1.6 หมื่นลบ.)
เตรียมขายทรัพย์สินบางส่วนครึ่งหลังปี 2568 สร้างกำไรพิเศษ 8 พันลบ.
และเงินสดอีก 1.5 หมื่นลบ. งบดุลแข็งแกร่ง หนี้ต่ำ กำไรมั่นคง
เหมาะกับกลยุทธ์ dividend play
.
กลุ่มแนะนำเพิ่มเติมที่เน้นปันผลสูงและมูลค่าต่ำ
เกณฑ์คัดเลือก: Dividend yield > 5% ปี 2569 และ PBV < 1 เท่า
: AP, TTB, KTB, PTTEP, PTT
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้