โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

บล.กสิกรฯคัดหุ้นเด่นเชิงกลยุทธ์ ชี้โอกาสสะสมหุ้นปัจจัยพื้นฐานแกร่ง

ทันหุ้น

อัพเดต 26 มิ.ย. เวลา 05.39 น. • เผยแพร่ 26 มิ.ย. เวลา 05.39 น.

#หุ้นเด่น #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย

.

ต่ำกว่ามูลค่าบัญชีหมายถึงมูลค่าที่ถูก?

SET Index ลดลงต่อเนื่องทั้งในส่วนของ ROE และ PBV ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งสอดคล้องกับภาพของกลุ่มพลังงานและการเงิน

บล.กสิกรไทยเชื่อว่าโอกาสที่จะมีการปรับเพิ่มตัวคูณ PBV ของ SET Index นั้นจำกัดจากอัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลที่จำกัด และ GDP ที่โตช้าซึ่งกดดัน ROE

บล.กสิกรไทยมองว่าสถานการณ์นี้เป็นโอกาสที่จะสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น SPALI, CPN, CENTEL, AMATA และ PTT

.

PBV และ ROE ของ SET Index มักจะมีแนวโน้มขาลง

ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา SET Index ปรับตัวลดลงต่อเนื่องทั้งในส่วนของ ROE และ PBV โดยROE ปรับลดลงจาก 20% มาอยู่ที่ 6.9% และ PBV ลดลงจาก 2.1 เท่ามาอยู่ที่ 1.4 เท่า ภายในปี 2567

แนวโน้มขาลงของ ROE เกิดจากอัตรากำไรสุทธิที่ลดลง และการลดระดับอัตราส่วนทางการเงินของสินทรัพย์ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่อเนื่องตามการก่อหนี้ที่ลดลง

PBV จึงลดลงตามผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่น้อยลง รูปแบบนี้เกิดขึ้นเฉพาะในกลุ่มพลังงานและการเงิน ซึ่งคิดเป็นราว 45–50% ของกำไรสุทธิรวมของตลาด

.

กลุ่มพลังงานฉุดอัตรากำไรสุทธิของ SET Index

อัตรากำไรสุทธิของกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มปรับลดลงตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของ SET Index โดยรวมลดลง

สาเหตุหลักจาก 1) อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ที่ลดลงของโครงการใหม่ 2) ฐานเงินทุนที่สูงขึ้น และ 3) การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมจากเทคโนโลยีการสกัดน้ำมันจากชั้นหินดินดาน

.

งบดุลและเลเวอเรจทางการเงินอยู่ในระดับที่น้อยลง

ธนาคารพาณิชย์พยายามลดขนาดงบดุล สอดคล้องกับการลดการใช้จ่ายเพื่อโครงการใหม่ โดยเน้น Maintenance CAPEX มากขึ้น (2554–2567)

ส่งผลให้ ROE ลดลงตามเลเวอเรจทางการเงิน และถูกกดดันเพิ่มจากฐานทุนที่สูงขึ้น ส่งผลต่อกลุ่มธนาคารและ SET Index

.

การเพิ่มตัวคูณ PBV ของ SET Index จะยังจำกัด

แม้ SET Index ซื้อขายด้วย PBV ที่ 0.9–1.0 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต -2SD) แต่โอกาสปรับเพิ่มตัวคูณยังจำกัด เพราะ GDP ไทยปี 2568 คาดโตเพียง 1.4% ลดลงจาก 2.5% ในปี 2567 อีกทั้งบริษัทจดทะเบียนจะเน้นการสำรองเงินสดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่มีกำไรเติบโตดีใน H2/2568–2569 ได้แก่ อสังหาฯ นิคมอุตสาหกรรม และพลังงาน

.

โอกาสใน SET100

พบว่าหุ้น 56 จาก 100 ตัวใน SET100 ซื้อขายต่ำกว่า PBV 1.0 เท่า ในปี 2569 ถือเป็นโอกาสสะสมหุ้นคุณภาพดีที่มูลค่าต่ำกว่าบัญชีอย่างมีนัยสำคัญ หุ้นเด่นเชิงกลยุทธ์: SPALI, CPN, CENTEL, AMATA, PTT

.

SPALI: ราคาเป้าหมาย 16.30 บาท

เด่นในกลุ่มอสังหาฯ ซื้อขายที่ PBV เพียง 0.48 เท่า ปี 2569

กำไรคาดฟื้น 12% จากการควบรวมในอุตสาหกรรมและการแข่งขันที่ผ่อนคลาย

มีวินัยทางการเงินดี หนี้สินต่อทุนต่ำสุดในกลุ่ม คุมต้นทุนได้ดี GPM สูง

ผลิตภัณฑ์กระจายหลายตลาด เน้นกลุ่ม value-for-money

ธุรกิจในออสเตรเลียยังสนับสนุนการเติบโต

ให้ผลตอบแทนเงินปันผลปี 2569 ที่ 9.6%

.

CPN: ราคาเป้าหมาย 65.00 บาท

รายได้หลัก 90% มาจากพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า

รายได้ Q1/68 โต 9%YoY เกินเป้าทั้งปี

หนุนจากค่าเช่าขึ้น 2–3% และศูนย์ใหม่ในนครสวรรค์-นครปฐม

GPM จากการบริหารพื้นที่แตะ 60% (สูงสุดเป็นประวัติการณ์)

โครงการ "ดุสิต เซ็นทรัลพาร์ค" เปิด ส.ค. 68 ยอดขายที่อยู่อาศัย 80–90% แล้ว

มีโครงการใหม่อีกหลายแห่งเปิดภายในปี 2570

ซื้อขายที่ PE 11 เท่า, PBV 1.7 เท่า, ผลตอบแทนเงินปันผลราว 5%

.

CENTEL: ราคาเป้าหมาย 30.73 บาท

เด่นสุดในกลุ่มท่องเที่ยว กำไรต่ำสุดใน Q2/68 คาดว่าจะฟื้นใน Q3/68

RevPAR ไทยโต 2–3% จากกลุ่ม MICE

โรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2569

ธุรกิจอาหารมี S-curve เด่น (Shinkanzen Sushi, Katsu Midori)

EV/EBITDA ปี 2569 อยู่ที่ 6 เท่า, PBV 1.3 เท่า, ROE ปี 2569 อยู่ที่ 7%

.

AMATA: ราคาเป้าหมาย 23.30 บาท

ราคาหุ้นสะท้อนข่าวลบส่วนใหญ่แล้ว ปัจจุบัน PBV ปี 2569 เพียง 0.5 เท่า

ให้ปันผลปี 2569 ที่ 7.8%

Backlog Q1/68 อยู่ที่ 21.5 พันลบ. รับรู้รายได้ถึงปี 2570

GPM คงที่จากการโอนที่ดินชลบุรี

แม้เจรจาขายบางส่วนอาจไม่สำเร็จ แต่ downside risk ต่ำมากแล้ว

.

PTT: ราคาเป้าหมาย 33.80 บาท

ราคาหุ้นต่ำกว่า -2SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาว PBV ปี 2569 เพียง 0.7 เท่า

ให้ปันผล 6.8% คาดคงปันผล 2.10 บ./หุ้น อีก 5 ปี

Free cash flow แข็งแรงหลังลด CAPEX เหลือ 4–5 พันลบ./ปี (2569–2572)

มีโครงการซื้อหุ้นคืน 470 ล้านหุ้น (1.6 หมื่นลบ.)

เตรียมขายทรัพย์สินบางส่วนครึ่งหลังปี 2568 สร้างกำไรพิเศษ 8 พันลบ.

และเงินสดอีก 1.5 หมื่นลบ. งบดุลแข็งแกร่ง หนี้ต่ำ กำไรมั่นคง

เหมาะกับกลยุทธ์ dividend play

.

กลุ่มแนะนำเพิ่มเติมที่เน้นปันผลสูงและมูลค่าต่ำ

เกณฑ์คัดเลือก: Dividend yield > 5% ปี 2569 และ PBV < 1 เท่า

: AP, TTB, KTB, PTTEP, PTT

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews

Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...