โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“SOS ขอความช่วยเหลือ” ฟีเจอร์ใหม่ Whoscall ช่วยเหยื่อถูกหลอกโอนเงินช่วงวิกฤต

SpringNews

อัพเดต 03 ก.ค. เวลา 06.48 น. • เผยแพร่ 03 ก.ค. เวลา 04.15 น.

บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่นชั้นนำ (TrustTech) และผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Whoscall เดินหน้ายกระดับมาตรการป้องกันภัยมิจฉาชีพในโลกดิจิทัล ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด “SOS ขอความช่วยเหลือ” ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างครอบคลุมและทันท่วงที โดยช่วยเหลือผู้ใช้งานที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน ผ่านขั้นตอนสำคัญต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนในแอปเดียว

ในปัจจุบันปัญหามิจฉาชีพออนไลน์ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) ซึ่งระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 27 มิถุนายน 2568 มีผู้เสียหายโทรแจ้งเหตุผ่านศูนย์รวมกว่า 1.85 ล้านครั้ง หรือเฉลี่ยมากกว่า 3,000 ครั้งต่อวัน ขณะที่สามารถ อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพได้แล้วกว่า 739,000 บัญชี ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่กำลังลุกลามในสังคมไทยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภัยคุกคามออนไลน์มีพัฒนาการและวิธีการหลอกลวงที่ซับซ้อนมากขึ้น อาทิ

  • การหลอกให้ลงทุนผ่านระบบออนไลน์ โดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Messenger และ LINE
  • การหลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล
  • การข่มขู่ทางโทรศัพท์จนผู้รับสายเกิดความกลัวและยอมโอนเงิน
  • การหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษหรือรายได้เสริม

จากข้อมูลในช่วงเดียวกัน พบว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นสูงถึงกว่า 21,849,222 บาท สถานการณ์เหล่านี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ประชาชนรับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของการพัฒนาฟีเจอร์ “SOS ขอความช่วยเหลือ” โดย Whoscall ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งานในยามฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ และครบทุกขั้นตอนในแอปเดียว

นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) กล่าวว่า “Whoscall ยึดมั่นพันธกิจในการปกป้องผู้ใช้งานจากภัยมิจฉาชีพทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤตหลังจากที่ผู้ใช้งานรู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับเหตุการณ์ไม่ปกติจากมิจฉาชีพซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจและดำเนินการอย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์ “SOS ขอความช่วยเหลือ” จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยเหลือผู้ใช้งานในสถานการณ์เร่งด่วน ตั้งแต่การอายัดบัญชี ไปจนถึงการแจ้งความออนไลน์หรือแจ้งความกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) ได้ครบจบในแอปเดียว”

ฟีเจอร์ “SOS ขอความช่วยเหลือ” ที่ Whoscall ได้พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นตัวช่วยให้แก่ผู้เสียหายได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย โดยครอบคลุม 2 ขั้นตอนหลักในการจัดการสถานการณ์เมื่อผู้ใช้งานตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ ได้แก่

1. การติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชี

Whoscall ได้รวบรวมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินของธนาคารและผู้ให้บริการวอลเล็ทชั้นนำในประเทศไทยไว้ในที่เดียว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่ออายัดบัญชีของตนเองและบัญชีมิจฉาชีพได้อย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมรับ
“เลขที่อ้างอิง” (Bank Case ID) สำหรับใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความต่อไป

2. การแจ้งความออนไลน์หรือติดต่อศูนย์ AOC (สายด่วน 1441)

หลังจากได้ Bank Case ID ฟีเจอร์จะแนะนำช่องทางการแจ้งความออนไลน์กับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) ผ่านสายด่วน 1441 พร้อมให้คำแนะนำในการเตรียมข้อมูลที่จำเป็น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการแจ้งความได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน

“จากจำนวนผู้เสียหายที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย เราจึงมีความมุ่งมั่นในการคิดค้นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินได้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เรามองว่า ฟีเจอร์ “SOS ขอความช่วยเหลือ” จึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่เป็นส่วนหนึ่งที่เราตั้งใจจะดูแลชีวิตผู้คนให้ปลอดภัยขึ้นในโลกออนไลน์” นายแมนวู กล่าวเสริม
นอกจากนี้ Whoscall ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องมือและฟีเจอร์อื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นระบบแสดงข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ การแจ้งเตือนเบอร์ต้องสงสัย และการกรองข้อความ SMS ที่อาจเป็นอันตราย ทั้งนี้ Whoscall มุ่งหวังให้คนไทยทุกคนตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย โดยเริ่มต้นจากการปกป้องตนเองและคนรอบข้างด้วยการใช้เทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือและเข้าถึงได้จริง

สามารถศึกษาวิธีการใช้งานฟีเจอร์ “SOS ขอความช่วยเหลือ” บนแอปพลิเคชัน Whoscall คลิ๊กที่นี่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...