โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ส่องปัจจัยหนุนดัน ‘ทองคำ-โลหะ’ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2568

เดลินิวส์

อัพเดต 26 ธันวาคม 2568 เวลา 0.16 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ราคาโลหะมีค่าและโลหะอุตสาหกรรมพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงปลายปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ความต้องการทางอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง และในบางกรณีอุปทานที่ตึงตัว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ว่าสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม เช่น ดอลลาร์สหรัฐ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจน้อยลงในปีนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายของรัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบัน ขณะที่แนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

ในทางกลับกัน ราคาทองคำในปีนี้พุ่งขึ้นมากกว่า 70% และทะลุ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ราว 139,815 บาท) เป็นครั้งแรก เมื่อวันพุธ (24 ธ.ค.) ขณะที่เงินแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 72 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ราว 2,237 บาท) โดยราคาสูงขึ้นประมาณ 2.5 เท่า นับตั้งแต่เดือน ม.ค.

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่ายังช่วยหนุนราคาโลหะอุตสาหกรรม เนื่องจากสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐ จะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อเมื่อค่าเงินอ่อนลง

ขณะเดียวกัน ราคาทองแดงได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ (24 ธ.ค.) แตะ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (ราว 372,840 บาท) โดยมีแรงหนุนจากการที่จีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองแดงรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศมาตรการกระตุ้นความต้องการ

นอกจากนั้น อะลูมิเนียม ซึ่งเป็นทางเลือกที่ราคาถูกกว่าทองแดง และเงิน ก็ได้รับประโยชน์จากความเฟื่องฟูของปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และการเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน ส่วนแพลทินัมและแพลเลเดียม ซึ่งใช้ในตัวเร่งปฏิกิริยาในรถยนต์ ก็ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุด หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ตัดสินใจอนุญาตให้ขายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในใหม่ได้หลังปี 2578

ราคาทองแดงพุ่งสูงขึ้นในปีนี้จากความกังวลเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐ ทำให้บริษัทต่าง ๆ เร่งกักตุนสินค้า โดยภาษีจะเรียกเก็บจากผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป และอาจขยายไปถึงทองแดงกลั่น ซ้ำเติมด้วยอุปสงค์จากการหยุดชะงัก ตามเหมืองหลายแห่งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) ชิลี และอินโดนีเซีย ขณะที่ตลาดเงิน แพลทินัม และอะลูมิเนียม ก็ตึงตัวเช่นกัน.

เครดิตภาพ : AFP

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...