โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"ชูวิทย์" ซัดการเมืองไทยแบ่งขั้ว บังคับให้คนเลือกข้าง ประเมิน "รัฐบาลใหม่" อยู่ไม่ถึง1ปี เตรียมเดินสายแสดงความเห็น ยันไม่เป็นศัตรูกับใคร

สยามรัฐ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

">

วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงบรรยากาศการเมืองในช่วงเปิดฤดูกาลเลือกตั้ง โดยตั้งข้อสังเกตว่า พรรคการเมืองจำนวนมากออกมาแสดงพิธีกรรมทางการเมืองในช่วงเลือกตั้ง แต่ไม่เคยรับฟังเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมตั้งคำถามว่า นักการเมืองเคยถามประชาชนหรือไม่ก่อนตัดสินใจทางการเมือง

นายชูวิทย์ กล่าวว่า สังคมการเมืองไทยมีทั้งการเมืองเก่าและการเมืองใหม่โดยเห็นว่าพรรคการเมืองใหม่ควรเปิดใจรับฟังคำวิจารณ์ ไม่ควรกล่าวโทษฝ่ายการเมืองเก่าว่าเป็นต้นเหตุปัญหาทั้งหมด พร้อมพาดพิงถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าการอ้างความเป็นการเมืองใหม่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมทางการเมืองที่ผ่านมา โดยเฉพาะการจับมือจัดตั้งรัฐบาล ปฏิเสธว่าการเมืองเก่าไม่ได้ทำ ก็ไปตกลงกันเอง ซึ่งเมื่อตกลงกันไม่รู้เรื่อง ท้ายสุดจึงทะเลาะกัน ก็นำไปสู่การยุบสภา และเสียเงินเลือกตั้งเป็นหมื่นล้าน ประชาชนไม่เคยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในประชาชนกว่า 14 ล้านเสียงที่เลือกพรรคการเมืองมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง และมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ด้วยความชอบธรรม ในส่วนของคนรุ่นใหม่ทางการเมือง ตนไม่ได้ตำหนิบุคคลอย่าง น.ส.รักชนก ศรีนอก และ นายรังสิมันต์ โรม จากพรรคประชาชน คนรุ่นใหม่ที่มีไฟและเป็นความหวังของประเทศ แต่สะท้อนว่าภายในพรรคการเมืองเองยังมีความไม่เสมอภาค และยังถูกครอบงำโดยผู้นำหรือแกนนำหลัก

นายชูวิทย์กล่าวว่า การเมืองไทยแบ่งขั้ว ประชาชนถูกบังคับให้เลือกข้างทางการเมือง แบ่งสี แบ่งฝ่าย ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นเพียงคนทำมาหากิน ไม่ได้รับรู้หรือมีส่วนร่วมในการเจรจาทางการเมืองเบื้องหลัง แต่กลับต้องรับผลจากการตัดสินใจของนักการเมือง

นายชูวิทย์ ย้ำว่าตนมีสิทธิ์ 100% ที่จะออกมาวิจารณ์การเมืองไม่ได้โกรธแค้น แต่รู้สึกผิดหวังต่อพรรคการเมืองที่เคยเลือก และยังยืนยันว่าจะให้โอกาสพรรคการเมืองใหม่ต่อไป พร้อมระบุว่า การวิพากษ์วิจารณ์ของตนเป็นการสอนบทเรียนทางการเมือง เพื่อไม่ให้นักการเมืองหลงตัวเอง

นายชูวิทย์ กล่าวว่า นโยบายต่างๆ ของพรรคการเมือง หลายครั้งเป็นเพียงการแสดงบนเวที ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติจริง และประชาชนไม่เคยถูกถามความเห็นจากพรรคการเมือง นอกจากนี้ นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ โดยย้ำว่า นักการเมืองทั้งเก่าและใหม่ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อบกพร่อง และไม่ควรผลักภาระความผิดพลาดให้ประชาชน

นายชูวิทย์ กล่าวว่า รัฐบาลผสมที่เลือกตั้งในครั้งนี้อยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี เพราะเป็นรัฐบาลผสมมีความเปราะบาง พร้อมตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าในการนำเงินภาษีประชาชนไปจัดการเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นายชูวิทย์ ระบุว่า ตนจะเดินสายแสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชนทั่วไป ไม่ได้เป็นศัตรูกับนักการเมืองคนใด แต่ต้องการสะท้อนความผิดหวัง และเรียกร้องให้พรรคการเมืองเลิกแบ่งขั้ว เลิกสร้างแรงกดดันให้ประชาชน และหันมารับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...