คลัง-ธปท. ช่วยลูกหนี้ คลอด “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” จ่ายปิดจบ–ผ่อน 3 ปี
วันนี้ (11 พ.ย.68) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนเป็นหนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย ซึ่งรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผลักดันแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่รายได้ของครัวเรือนจำนวนมากยังฟื้นตัวช้าและมีภาระหนี้สูง ครัวเรือนกลุ่มเปราะบางยังมีปัญหาในการชำระหนี้ และกลายเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว อาจซ้ำเติมสถานการณ์หนี้ครัวเรือน และส่งผลต่อการบริโภคภาคเอกชนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ธปท. และภาคสถาบันการเงิน ร่วมกันดำเนินโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ภายใต้ชื่อ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” การช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นมาตรการเฉพาะกิจที่จะดำเนินการเพียงครั้งเดียว
โดยเน้นหนี้เสียที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือลูกหนี้รายย่อยที่มีภาระหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทุกประเภทสินเชื่อกับผู้ให้บริการทางการเงินทุกแห่งรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ณ วันที่ 30 ก.ย.68
ซึ่งในระยะแรกจะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์จำนวนประมาณ 1.6 ล้านบัญชี หรือ 1.2 ล้านราย ภาระหนี้ประมาณ 43,600 ล้านบาท โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) จะรับซื้อหนี้ของลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายข้างต้น เพื่อนำมาปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนเพื่อให้ลูกหนี้กลับมาจ่ายชำระหนี้ได้
สำหรับลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) จะได้รับการช่วยเหลือผ่านกลไกการขายและโอนหนี้ให้กับบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด (Ari-AMC) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนอีก 3.3 แสนบัญชี ซึ่งกระทรวงการคลังจะดำเนินการภายใต้หลักการและแนวทางการช่วยเหลือที่สอดคล้องกัน รวมทั้งสิ้นโครงการจะช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยได้มากถึง 1.9 ล้านบัญชี
โครงการจะเริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. 2569 เป็นต้นไป โดยวันที่ 1 ม.ค. 69 ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ โอนกรรมสิทธิ์หนี้ไปยัง SAM
จากนั้นวันที่ 5 ม.ค. 69 ลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ และบริษัทในกลุ่มของธนาคารพาณิชย์ ที่สนใจปรับโครงสร้างหนี้กับโครงการนี้ สามารถติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ หรือสอบถามผ่านช่องทาง ธปท. และ SAMและตั้งแต่ ก.พ.69 SAM หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก SAM ติดต่อกลับลูกหนี้
มาตรการและรูปแบบการช่วยเหลือลูกหนี้
บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) จะรับซื้อรับโอนหนี้เสียของลูกหนี้รายย่อยมาจากเจ้าหนี้เดิม และจะปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนเพื่อลดภาระหนี้ให้ลูกหนี้
โดยในระยะแรก SAM จะรับซื้อเฉพาะหนี้ NPL ที่ไม่มีหลักประกัน (เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล) และติ่งหนี้ของหนี้ที่เคยมีหลักประกัน
ไม่รวมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (nano finance) ที่มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน เนื่องจากถือเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน
โครงการมีระยะเวลา 3 ปี ประกอบด้วย 2 มาตรการย่อย ได้แก่ 1. มาตรการ “จ่ายปิดจบ” จะให้ลูกหนี้เข้ามาจ่ายคืนหนี้บางส่วนแก่ SAM เพื่อปิดบัญชี
2. มาตรการ “ผ่อนชำระเป็นงวด”
• ลดภาระหนี้บางส่วนให้กับลูกหนี้ และส่วนที่เหลือให้ผ่อนชำระเป็นงวดแก่ SAM
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 3 ปี (ระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้แต่ละรายจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ลูกหนี้เริ่มเข้าโครงการ ถ้าเข้าร่วมช้า ระยะเวลาผ่อนจะเหลือน้อยลงตามระยะเวลาที่เหลือของโครงการ)
• อัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นระหว่างเข้าร่วมโครงการจะพักแขวนไว้ หากลูกหนี้ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขจะยกเว้นดอกเบี้ยทั้งจำนวน
กลุ่มเป้าหมายในระยะแรก ประกอบด้วย ลูกหนี้ที่อยู่กับธนาคารพาณิชย์และลูกหนี้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ซึ่งจะถูกรับโอนซื้อหนี้และช่วยเหลือต่อโดย SAM
คุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการ โดยลูกหนี้ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.เป็นลูกหนี้บุคคลธรรมดา
2.สถานะหนี้ ณ 30 ก.ย. 2568 เป็นหนี้ที่ค้างชำระต้นเงินหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน (NPL)
3.มีภาระหนี้ NPL รวมทุกผู้ให้บริการทางการเงิน และทุกประเภทสินเชื่อ ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย*
*นับเฉพาะผู้ให้บริการทางการเงินที่รายงานข้อมูลในเครดิตบูโร (NCB) และใช้ภาระหนี้ตามการรายงาน NCB
ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ
1.ได้ลดภาระหนี้ และเงื่อนไขการผ่อนชำระแบบผ่อนปรน จึงช่วยให้ลูกหนี้เสียสามารถกลับมาเป็นลูกหนี้ดีได้ง่ายขึ้น
2.ประวัติชำระหนี้ในเครดิตบูโร (NCB) ปรับดีขึ้น
3.มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้เร็วขึ้น
รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ
1.ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการทุกราย จะถูกโอนขายหนี้ให้ SAM ตั้งแต่ต้นเดือน 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป
2.เจ้าหนี้เดิม และ SAM จะส่งหนังสือแจ้งการโอนสิทธิ์เรียกร้องให้กับลูกหนี้ทุกรายที่ถูกโอนหนี้ไปยัง SAM
3.ลูกหนี้จะได้รับการติดต่อจาก SAM หรือคนที่ SAM มอบหมาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามโครงการต่อไป
ทั้งนี้ หากลูกหนี้มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขโครงการแต่ไม่ได้รับจดหมายดังกล่าว และมีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ หรือสอบถามผ่านช่องทาง ธปท. หรือ SAM ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป ซึ่ง SAM (หรือคนที่ SAM มอบหมาย) จะติดต่อกลับหากลูกหนี้มีสิทธิ์ตามเงื่อนไขของมาตรการ