ราชกิจจาฯ ประกาศจัดตั้งสมาคมโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ประเทศไทย)
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร จดทะเบียนจัดตั้งสมาคมโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ประเทศไทย)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง สมาคมโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ประเทศไทย) ซึ่งมี พลเอก กิตติ สมสนั่น นายวันชัย โฆษิตมาศ และพลเอก สรรเพชญ พิเนตรบูรณะ ในฐานะผู้เป็นสมาชิกของสมาคม ได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม เพื่อให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลต่อนายทะเบียน โดยนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร ได้มีคำสั่งให้รับจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมรายนี้แล้ว เลขทะเบียนที่ จ. 6405/2568 ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568
สำหรับวัตถุประสงค์ของสมาคมโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ประเทศไทย) มีดังนี้
1. ร่วมมือกันจัดทำภารกิจถ่ายทอดสด และรับการถ่ายทอดสดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกี่ยวกับพระราชพิธีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ รวมทั้งภารกิจอื่น ๆ ที่สำนักพระราชวังและรัฐบาลมอบหมาย เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะ ผ่านสถานีโทรทัศน์ของสมาชิกและสถานีโทรทัศน์ที่รับสัญญาณถ่ายทอดสด
2. ร่วมมือกันจัดทำข่าวพระราชสำนักเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมทั้งพระบรมวงศานวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะ ผ่านสถานีโทรทัศน์ของสมาชิกและสถานีโทรทัศน์ที่รับสัญญาณ
3. ร่วมมือกันจัดทำภารกิจถ่ายทอดสด และรับการถ่ายทอดสดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกี่ยวกับพระราชพิธีสำคัญทางศาสนาและ/หรือรัอรัฐพิธีของประเทศไทยตามที่ได้รับมอบหมายจากทางรัฐบาล เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะผ่านสถานีโทรทัศน์ของสมาชิกและสถานีโทรทัศน์ที่รับสัญญาณถ่ายทอด
4. ร่วมมือกันจัดทำภารกิจถ่ายทอดสด และรับการถ่ายทอดสดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬานานาชาติ เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะผ่านสถานีโทรทัศน์ของสมาชิก และสถานีโทรทัศน์ที่รับสัญญาณถ่ายทอดสด
5. ดำเนินกิจการทั้งปวงที่เป็นประโยชน์สาธารณะและความมั่นคงของประเทศ
6. ส่งเสริม และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวที่เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รวมทั้งการพัฒนาทางเทคโนโลยีระหว่างสมาชิกของสมาคมและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในและระหว่างประเทศ
7. การดำเนินกิจการทั้งปวงที่จะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด
พร้อมกันนี้ ยังมีการระบุคณะกรรมการของสมาคมฯ จำนวน 9 คน ดังนี้
- พลเอก กิตติ สมสนั่น – นายกสมาคม
- นายพัฒนพงค์ หนูพันธ์ – อุปนายก
- นายสุบัณฑิต สุวรรณนพ – อุปนายก
- นายผาติยุทธ ใจสว่าง – อุปนายก
- นายวันชัย โฆษิตมาศ – กรรมการและนายทะเบียน/ฝ่ายกฎหมาย
- นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย – กรรมการและปฏิคม
- นายเอกรัฐ คงมี – กรรมการและประชาสัมพันธ์
- นางสาวขันธนา หาเรือนโภค – กรรมการและเหรัญญิก
- พลเอก สรรเพชญ พิเนตรบูรณะ – กรรมการและเลขานุการ
ขณะที่ข้อบังคับสมาคม มีการระบุสมาชิกของสมาคมฯ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
สมาชิกสามัญ ได้แก่ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (บริษัท บีอีชี-มัลติมีเดีย จำกัด) กองทัพบก โดย สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก สถานีโทรทัศน์ช่อง 7HD (บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด) สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT HD (บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)) หรือบุคคลผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากสถานีโทรทัศน์ที่เป็นสมาชิกสามัญข้างต้น ให้เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมโดยทำเป็นหนังสือ
สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลผู้ทรงเกียรติ หรือทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีมีอุปการคุณต่อสมาคม ซึ่งคณะกรรมการลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม
และมีการกำหนดค่าบำรุงสมาคมฯ ดังนี้
สมาชิกสามัญ เสียค่าบำรุงปีละ จำนวน 1,000,000 บาท
สมาชิกกิตติมศักดิ์ มิต้องเสียค่าบำรุงสมาคมแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ค่าบำรุงสมาคมของสมาชิกสามัญให้เรียกเก็บจากสถานีโทรทัศน์ที่เป็นต้นสังกัดของสมาชิกสามัญ หน่วยงานละ 1,000,000 บาท ต่อปี
ทั้งนี้ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) เริ่มต้นจากการทำงานร่วมกันของ 2 สถานีโทรทัศน์ของรัฐ ในช่วงปี พ.ศ. 2500-2510 คือ ช่อง 4 บางขุนพรหม และ ททบ.7 ในการถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญและการแข่งขันกีฬาของชาติ
ก่อนที่เวลาต่อมา ที่ประชุมผู้บริหารของทั้ง 2 ช่อง มีความเห็นร่วมกันว่าควรจะมีการรวมตัวกันในวงการโทรทัศน์ เพื่อปรึกษาหารือจนการดำเนินการจัดการเรื่องต่าง ๆ อันก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันแก่ทุกสถานี
และมีมติให้จัดตั้งองค์กรขึ้น โดยให้มีคณะกรรมการในส่วนกลาง ประกอบด้วยผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ของทั้ง 3 ช่องหลัก คือ ช่อง 4 บางขุนพรหม, ททบ.7 (ททบ.5 ปัจจุบัน) ช่อง 7 สี และไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งเข้าร่วมในเวลาต่อมา และปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในนาม “โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ราชกิจจาฯ ประกาศจัดตั้งสมาคมโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ประเทศไทย)
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net