โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ยอดผลิต-จำหน่ายรถยนต์ในไทย ซวนเซ รถอีวีแย่งตลาด

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 26 มี.ค. 2567 เวลา 17.26 น. • เผยแพร่ 26 มี.ค. 2567 เวลา 10.17 น. • สำนักข่าวไทย อสมท

กรุงเทพฯ 26 มี.ค.-รถอีวีมีส่วนแบ่งตลาดในไทยเพิ่มขึ้น ในขณะที่งบฯ 67 ล่าช้า แบงก์เข้มงวดสินเชื่อ ส่งผล ยอดผลิต-จำหน่ายรถยนต์ในไทย เดือน ก.พ.หดตัว ยอดผลิตลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์เดือน ก.พ.67 อยู่ที่ 133,690 คัน ลดลง 19.28% จากเดือน ก.พ.66 และลดลง 5.92% จากเดือน ม.ค.67 ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากยอดผลิตรถกระบะทั้งส่งออกและขายในประเทศลดลงเนื่องจากบางบริษัทขาดชิ้นส่วน ยอดผลิตรถยนต์นั่งลดลงเพราะถูกรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด และยอดผลิตรถกระบะลดลงตามยอดขายเนื่องจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ตามนโยบายการให้กู้แบบรับผิดชอบและหนี้ครัวเรือนสูงของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ยอดรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 275,792 คัน ลดลง 15.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับยอดจำหน่ายในประเทศของเดือน ก.พ.67 อยู่ที่ 52,843 คัน ลดลง 26.15% จากเดือน ก.พ.67 และลดลง 3.60% จากเดือน ม.ค.67 และยอดขายรถ PPV (รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานและดัดแปลงมาจากรถกระบะ) ลดลง 47.6% จากการไปซื้อรถยนต์นั่งตรวจการณ์ที่เป็น HEV (รถยนต์ Hybrid )มากขึ้นเพราะราคาถูกกว่า รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตในระดับต่ำ เพราะการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ล่าช้าไปถึงเดือน เม.ย.67 ทำให้การใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐลดลง ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 107,657 คัน ลดลง 21.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“หาก งบฯ 67 ผ่านสภาฯ มีผลบังคับใช้ เบิกจ่ายได้ และรัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วจะช่วยเพิ่มยอดขายในประเทศให้เพิ่มขึ้น ช่วงนี้น้ำมันแพงก็ทำให้รถปิกอัพมียอดขายต่ำกว่ารถยนต์นั่ง” นายสุรพงษ์ กล่าว

ส่วนยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ก.พ.67 อยู่ที่ 88,720 คัน เพิ่มขึ้น 0.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกรถ PPV และรถ HEV แม้ยอดส่งออกจะมีแนวโน้มชะลอลง แต่ตลาดส่งออกยังขยายตัวได้ดีจึงมั่นใจว่าการส่งออกจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่งผลลให้ช่วง 2 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-ก.พ.) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปรวม 175,436 คัน เพิ่มขึ้น 0.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าการส่งออก 121,228.69 คัน

ส่วนการนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนจำนวนมากคงไม่ได้เป็นการทำลายตลาดรถยนต์ในประเทศ เป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศเร็วขึ้น และเป็นเรื่องดีที่ภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมกันวางแผนให้มีความพร้อมที่ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปในภูมิภาค ส่วนยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงพบว่า
• ประเภท BEV อยู่ที่ 6,335 คัน ลดลง 15.94% จากเดือน ก.พ.66 เนื่องจากมีการเร่งจดทะเบียนเพื่อรับส่วนลดจากมาตรการสนับสนุนภาครัฐไปในเดือน ม.ค.67 และช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 22,278 คัน เพิ่มขึ้น 81.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.พ.67 มีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV สะสม 154,020 คัน เพิ่มขึ้น 247.72% จากสิ้นเดือน ก.พ.66
• ประเภท HEV อยู่ที่ 11,991 คัน เพิ่มขึ้น 51.38% จากเดือน ก.พ.66 และช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 26,134 คัน เพิ่มขึ้น 67.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.พ.67 มีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท HEV สะสม 369,532 คัน เพิ่มขึ้น 34.28% จากสิ้นเดือน ก.พ.66
• ประเภท PHEV อยูที่ 894 คัน ลดลง 28.42% จากเดือน ก.พ.66 และช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 1,834 คัน ลดลง 17.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.พ.67 มีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท PHEV สะสม 55,782 คัน เพิ่มขึ้น 25.08% จากสิ้นเดือน ก.พ.66.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...