โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ปิดตำนานไดโดมอน บุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีแห่งแรกในไทยที่ครองใจคนไทยยาวนานกว่า 41 ปี

Stock2morrow

อัพเดต 06 ส.ค. 2567 เวลา 08.34 น. • เผยแพร่ 06 ส.ค. 2567 เวลา 09.00 น. • Stock2morrow
ปิดตำนานไดโดมอน บุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีแห่งแรกในไทยที่ครองใจคนไทยยาวนานกว่า 41 ปี

ปิดตำนานไดโดมอน บุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีแห่งแรกในไทยที่ครองใจคนไทยยาวนานกว่า 41 ปี

ข่าวการปิดตัวของไดโดมอน ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลีชื่อดังที่ครองใจคนไทยมานานกว่า 41 ปี ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับเหล่าคนรักอาหารเกาหลีเป็นอย่างมาก การจากไปของไดโดมอนนับเป็นการปิดฉากตำนานร้านอาหารที่เคยเป็นผู้นำเทรนด์และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างในประเทศไทย

ตลอดระยะเวลา 41 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีร้านอาหารบุฟเฟต์เพิ่มขึ้นสูงเป็นอย่างมาก โดยได้มีร้านปิ้งย่างหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้ 99 บาทต่อหัว จนไปถึงปิ้งย่างระดับพรีเมียมราคา 1,599 บาทต่อหัว

[ไดโดมอน: ผู้บุกเบิกบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีในไทย]

ไดโดมอนก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2525 โดยเป็นหนึ่งในร้านอาหารเกาหลีรายแรก ๆ ในประเทศไทยที่เปิดให้บริการในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง

ในสมัยนั้นถือเป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่แปลกใหม่และได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภค ด้วยคุณภาพของวัตถุดิบที่สดใหม่หลากหลาย รสชาติอาหารที่ถูกปากคนไทย และบรรยากาศร้านที่อบอุ่นเป็นกันเอง ทำให้ไดโดมอนกลายเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและขยายสาขาออกไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ไดโดมอนสามารถขยายสาขาธุรกิจทั่วกรุงเทพฯ มากกว่า 20 สาขา ก่อนที่จะเผชิญหน้ากับช่วงขาลงของบริษัทยาวนานหลายปี โดยมีการเปิดเผยว่าขาดทุนสะสมต่อเนื่องหลักพันล้านบาท ก่อนที่ท้ายที่สุดจะขายกิจการต่อให้กับ บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน)

[ไดโดมอน = เจ้าแรกที่ต้องปรับตัว]

แม้บริษัทจะขาดทุนต่อเนื่องมหาศาลแต่ความรุ่งเรืองของไดโดนมอนไม่ได้หายไปตามการขาดทุน เพราะในช่วงที่ซื้อธุรกิจต่อมา ไดโดมอนและ HOT POT สามารถขยายสาขาไปได้รวมแล้วมากกว่า 130 สาขาทั่วประเทศ

แม้ว่าไดโดมอนจะเป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างเจ้าแรกที่เปิดตัวในไทย แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ไดโดมอน ก็ต้องกลายเป็นเจ้าแรกที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับลูกค้าเช่นเดียวกัน เนื่องจากภายหลังเปิดธุรกิจได้อีกสักพัก ร้านบุฟเฟต์หมูกระทะ-ชาบู ก็เกิดเป็นฟีเวอร์ในประเทศไทยอย่างมาก

สิ่งนี้ทำให้เจ้าตลาดใหญ่ ๆ ต้องปรับตัวกันอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นเพิ่มไลน์อาหารหรือแม้แต่กระทั่งทำโปรโมชั่นเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้าน แต่อย่างไรก็ตามไดโดมอนกลับไม่ได้เข้าไปอยู่ในลิสต์ร้านอันดับแรก ๆ ของคนไทยเหมือนแต่ก่อน ทำให้ร้านค่อย ๆ ปรับตัวและปิดตัวลงจนเหลือเพียง 1 สาขา

และล่าสุด สาขาสุดท้ายที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตก็ได้ปิดตัวลง สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามสุดท้ายของ HOT POT ที่ต้องการดันแบรนด์นี้กลับสู่ตลาดอีกครั้งก่อนที่จะเหลือไว้เพียงความทรงจำของคนไทยเท่านั้น

[ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี]

ปี 2566 มีรายได้ 397 ล้านบาท ขาดทุน 108 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้ 547 ล้านบาท ขาดทุน 214 ล้านบาท

ปี 2564 มีรายได้ 440 ล้านบาท ขาดทุน 257 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทขาดทุนสะสมเกือบ 600 ล้านบาท และหากดูย้อนหลัง 4 ปีจะพบว่าบริษัทขาดทุนสะสมหลักพันล้านบาท

แม้ว่าวันนี้จะไม่มี ไดโดมอน บุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีขวัญใจคนไทยแล้ว แต่ก็ HOT POT ยังคงดำเนินกิจการตามปกติ ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 4 สาขาเท่านั้น

ทำให้เราต้องมาติดตามกันต่อไปว่า HOT POT ชาบูบุฟเฟต์ขวัญใจคนไทยจะปรับตัวตามตลาดในอนาคตและจะขึ้นกลับเป็น Top of Mind ของลูกค้าได้อีกไหม ต้องติดตามชมกันต่อไป

#Stock2morrow #HOTPOT #Business #ไดโดมอน #ธุรกิจ #ประเทศไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...