โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

WHO ประกาศจับตาโควิดสายพันธุ์ใหม่ "XFG" แพร่เร็ว-เลี่ยงภูมิได้ดี แนะวิธีสังเกตอาการดังนี้

sanook.com

เผยแพร่ 23 ก.ย เวลา 13.03 น. • Sanook
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศจัดให้โควิด-19 สายพันธุ์ XFG หรือชื่อเรียก “Stratus” เป็น สายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศจัดให้โควิด-19 สายพันธุ์ XFG หรือชื่อเรียก “Stratus” เป็น สายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง

เนื่องจากมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า ล่าสุดมีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศมาเลเซียแล้ว

โควิด-19 สายพันธุ์ XFG คืออะไร?

XFG เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน ที่เพิ่งถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มต้องจับตา หลังพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งการติดเชื้อใหม่และการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

แม้ตัวเลขจะเพิ่มขึ้น แต่ WHO ประเมินความเสี่ยงโดยรวมว่ายังอยู่ใน ระดับต่ำ และยังไม่มีหลักฐานว่าสายพันธุ์นี้ก่อให้เกิดอาการรุนแรงหรือการเสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์อื่น

อาการของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XFG

อาการโดยทั่วไปใกล้เคียงกับโควิดสายพันธุ์อื่น ได้แก่

  • มีไข้หรือหนาวสั่น

  • ไอ เจ็บคอ หรือหายใจลำบาก

  • คัดจมูก น้ำมูกไหล

  • สูญเสียการรับรสหรือกลิ่น

  • อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย

  • ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ป่วยบางรายมี เสียงแหบหรือคอแห้งระคายเคือง ร่วมด้วย โดยทั่วไปอาการจะไม่รุนแรงและสามารถหายเองได้

cdn4.premiumread

ความรุนแรงและความเสี่ยง

แม้จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ข้อมูลปัจจุบันบ่งชี้ว่า XFG ไม่ได้ทำให้เกิดอาการรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อื่น อัตราการเข้าโรงพยาบาลยังอยู่ในระดับต่ำ

ประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วจากการติดเชื้อก่อนหน้า หรือการฉีดวัคซีน ทำให้อัตราความรุนแรงลดลง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้ดูเหมือนไม่อันตราย แต่ก็ยังสร้างภาระต่อระบบทางเดินหายใจมากกว่าหวัดทั่วไป

วิธีป้องกันตัวจากโควิดสายพันธุ์ XFG

แนวทางการป้องกันยังเหมือนเดิม ได้แก่

  • ล้างมือบ่อยๆ และรักษาความสะอาด

  • หากมีอาการควรอยู่บ้าน เลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น

  • สวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ

  • พักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ หากติดเชื้อ และใช้ยาลดไข้หรือยาแก้ปวดตามอาการ

  • หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 5 วัน ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษา อาจพิจารณาใช้ยาต้านไวรัสเช่น Paxlovid

วัคซีนยังคงมีความสำคัญ

WHO และ CDC ย้ำว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ใช้อยู่ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนัก การเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น

  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

  • ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวหลายโรค

การอัปเดตเข็มวัคซีนจึงยังจำเป็น เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงจากโควิดสายพันธุ์ใหม่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...