โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เอ็น.ซี.ซี. ผนึกรัฐ-เอกชน ยกระดับท่องเที่ยวมูลค่าสูง จัดมหกรรมกอล์ฟ-ดำน้ำ-กีฬากลางแจ้งใหญ่สุดในอาเซียน

ไทยโพสต์

อัพเดต 09 พ.ค. เวลา 16.14 น. • เผยแพร่ 09 พ.ค. เวลา 09.14 น.

เอ็น.ซี.ซี. ผนึกกำลังภาครัฐ และเอกชน จัดงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025 มหกรรมกีฬากอล์ฟ – ดำน้ำ – กิจกรรมกลางแจ้ง ใหญ่สุดในอาเซียน ระดมผู้ประกอบการกว่า 590 คูหา จำหน่ายสินค้าในราคาสุดพิเศษ คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 59,000 คน ด้าน ททท. หนุนการท่องเที่ยวด้านกีฬา ยกระดับการท่องเที่ยวสูงพรีเมียม คาดปี 68 ธุรกิจดำน้ำมูลค่าทะลุ 8.5 พันล้านบาท โตเฉลี่ย 12% ต่อปี

9 พ.ค. 2568 - นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า เอ็น.ซี.ซี. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรจัดงาน “THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST” ติดต่อกันมาอย่างยาวนานถึง 21 ปี และเห็นถึงเห็นถึงการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีผู้เข้าร่วมชมงาน และผู้ประกอบการมาเข้าร่วมเพิ่มขึ้นทุกปี จนทำให้การท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ ดำน้ำ และกิจกรรมการแจ้ง เป็นหนึ่งในสาขาของการท่องเที่ยวที่รายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาล และยังส่งผลให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวและเล่นกีฬากลางแจ้งที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับการท่องเที่ยวของไทยไปสู่การท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง หรือการท่องเที่ยวแบบพรีเมียม ตามเป้าหมายของรัฐบาล โดยการจัดงานฯ ในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 55,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 10% จากปีก่อนหน้า มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

สำหรับการจัดงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025 หรืองานแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ ปี 2568 ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 590 คูหา ได้แก่ สนามกอล์ฟ อุปกรณ์กอล์ฟ สถาบันสอนดำน้ำ อุปกรณ์ดำน้ำ บริษัทนำเที่ยว เรือนำเที่ยว อุปกรณ์เดินป่า ที่พัก อุปกรณ์ถ่ายภาพ ฯลฯ พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ การเสวนาด้านการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ทะเลไทย เทคนิคการถ่ายภาพใต้น้ำ และกิจกรรม “TDEX You Give.. We Share” ครั้งที่ 4 เชิญชวนบริจาคชุดดำน้ำและอุปกรณ์ดำน้ำมือสองสภาพดี เพื่อมอบให้มูลนิธิหรือหน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ในสาธารณะประโยชน์ เป็นต้น โดยการจัดงานฯ ในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานเพิ่มขึ้น 10% และมีมูลค่าซื้อขายเกิดขึ้นภายในงานและต่อเนื่องไปในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ กิจกรรมที่ได้รับความสนใจ คือ การประกวดภาพถ่ายใต้น้ำ "18th TDEX Underwater Photo Contest" ในปีนี้ได้เปิดโอกาสให้ช่างภาพใต้น้ำทั้งมือเก่า มือใหม่ และมืออาชีพ ได้ส่งผลงานเข้าร่วม โดยมีผู้ส่งภาพเข้าประกวดสูงถึง 164 คน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. ประเภท Animal Portrait : 386 ภาพ 2. ประเภท Animal in their Environment : 312 ภาพ และ3. ประเภท Human & Underwater Nature : 191 ภาพ รวมทั้งสิ้น 889 ภาพ

รวมทั้งยังได้จัดประกวดคลิปวิดีโอใต้น้ำ "TDEX Underwater Moment Video Contest" ครั้งที่ 2 มีผลงานรวมทั้งหมด 117 คลิป โดยผลงานทั้งหมดจะถูกคัดเลือกและตัดสินจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการถ่ายภาพชั้นนำของเมืองไทย เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเลิศที่เหมาะสมที่สุด รวมทั้งรางวัลอื่น ๆ ที่มีมูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท โดยจะประกาศผลงานในวันที่ 22 พ.ค. 2568 นี้ ซึ่งผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจะนำมาจัดแสดงในช่วงวันแสดงงาน

ในส่วนของงานแสดงสินค้าครั้งนี้เรามีการจัด Business Matching โดยเชิญกลุ่มผู้ซื้อจากประเทศเวียดนาม และมาเลเซียมาพบกับผู้ประกอบการไทยด้วย ซึ่งในปีนี้มีผู้ประกอบการชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศมากมายขนสินค้า และบริการที่มีคุณภาพมาจัดโปรโมชั่นในราคาพิเศษ โดยมีผู้ประกอบการชั้นนำ เช่น บริษัท Dynamicnord แบรนด์อุปกรณ์ดำน้ำน้องใหม่จากเยอรมนี จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ดำน้ำหลากหลายประเภทอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับดำน้ำลึกและฟรีไดฟ์ ที่ทีมวิจัยและพัฒนาของเยอรมนี ออกแบบโดยอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการและความปรารถนาของนักดำน้ำ ภายใต้แนวคิด: "นวัตกรรม - ความน่าเชื่อถือ - การใช้งานได้จริง" นอกจากนี้ยังมีแบรนด์อุปกรณ์ดำน้ำชั้นนำอีกมากมายมาจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษภายในงาน

นายขจรฤทธิ์ ขวัญมงคล ผู้อำนวยการกองตลาดภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มดำน้ำเติบโตในระดับสูงทั้งในแง่ของรายได้และจำนวน โดยมีผู้สนใจดำน้ำเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งในปี 2568 คาดว่าประเทศไทยจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวดำน้ำมากกว่า 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึงเกือบ 2,000 ล้านบาท ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่สูงถึง 12% ต่อปี

สำหรับปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ตลาดดำน้ำไทยขยายตัว ได้แก่ การขยายตัวของชนชั้นกลางที่กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ ที่มีอายุในช่วง 20–40 ปี เข้าสู่วงการผจญภัยทางทะเล จนกลายเป็นกลุ่มหลักกว่า 70% ของนักดำน้ำทั่วโลก และไทยยังมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดำน้ำที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ฝึก PADI/SSI เรือ Liveaboard คุณภาพสูง และระบบจองออนไลน์ที่ทันสมัยที่ช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงกิจกรรมนี้

โดยประเทศไทยมีแหล่งดำน้ำยอดนิยมระดับโลกหลายแห่งที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคใต้ ทั้งแหล่งดำน้ำในฝั่งอันดามัน อาทิ หมู่เกาะสิมิลัน เกาะพีพี รวมถึงฝั่งอ่าวไทย อย่างเกาะเต่า และหมู่เกาะชุมพร ก็ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญที่รองรับการดำน้ำในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่ดำน้ำตื้นตามแนวปะการัง ไปจนถึงการดำน้ำลึกไปชมซากเรือ และการดำน้ำแบบ Freediving อย่างเกาะเต่านับเป็นแหล่งเรียนดำน้ำที่ได้รับความนิยม และมีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก

ในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภคมีข้อมูลว่า การใช้จ่ายเฉลี่ยของนักดำน้ำอยู่ที่ราว 4,300 บาทต่อวัน โดยแต่ละทริปใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 2.5 วัน ได้แก่ ไดฟ์บอร์ด การดำน้ำแบบเทคนิค และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งสะท้อนความต้องการที่ลึกซึ้งและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไทยเองมีโอกาสต่อยอดตลาดเหล่านี้ ด้วย หลักสูตรดำน้ำเชิงลึก และกิจกรรม “ดำน้ำฟื้นฟูปะการัง” เป็นต้น

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ความสนใจกับกลุ่มสินค้าและบริการท่องเที่ยว Premium มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดของกิจกรรมดำน้ำและกอล์ฟ บทบาทของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในงานนี้คือการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้านการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้การท่องเที่ยวในรูปแบบไลฟ์สไตล์ไปยังนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดย ททท. ได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST มาอย่างต่อเนื่อง งานดังกล่าวจะเป็นจุดเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการในด้านกีฬากอล์ฟ การดำน้ำ และการท่องเที่ยวกลางแจ้ง ได้มาพบบปะกับผู้ที่สนใจ ตลอดจนเป็นการแสดงถึงความพร้อม และศักยภาพของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวด้าน กีฬากอล์ฟ ดำน้ำ และกิจกรรมกลางแจ้งของประเทศไทย

ภายในงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025 นอกเหนือไปแพ็กเกจการท่องเที่ยวที่น่าสนใจราคาพิเศษแล้ว ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโดยภูมิภาคภาคใต้ ยังร่วมกับสำนักงานในพื้นที่ 4 สำนักงาน คือ สำนักงานชุมพร สำนักงานเกาะสมุย สำนักงานกระบี่ และสำนักงานพังงา ได้นำตัวแทนสมาคมชมรมในพื้นที่มาร่วมออกบูธนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ ทั้งกอล์ฟ ดำน้ำ กิจกรรมกลางแจ้ง สำหรับผู้เข้าชมงานที่อยากทราบข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดย ททท. คาดหมายว่าในงานนี้จะมีผู้ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวจากผู้ที่เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นแพ็กเกจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับการท่องเที่ยว และส่งเสริมการท่องเที่ยวพรีเมียม ให้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ

นางสาวณิชาภา อุรุวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญพัฒนา SME สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) กล่าวว่า ในขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในธุรกิจท่องเที่ยวกว่า 471,706 ราย มีมูลค่าธุรกิจรวมประมาณ 835,832 ล้านบาท และยังมีธุรกิจผลิตสินค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอีกกว่า 10,000 ราย ดังนั้น หากภาครัฐ และเอกชนร่วมกันผลักดันเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจท่องเที่ยว ก็จะช่วยยกระดับรายได้ให้กับประเทศไทยได้อีกมหาศาล และยังเป็นส่วนสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจของไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตสงครามการค้าในปีนี้ไปได้

ทั้งนี้ เพื่อผลักดันธุรกิจการท่องเที่ยวให้มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ISMED จึงได้ออกมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ การจัดหลักสูตรอบรมและฝึกปฏิบัติ หัวข้อการลงทุนในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท รุ่นที่ 18 ที่เน้นการอบรมและฝึกปฏิบัติการบริหารจัดการในด้านต่างๆเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ อาทิ ด้านการตลาด ด้านการเงิน ทั้งนี้ ISMED ยังได้จัดให้มีการศึกษาดูงานการดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่ประสบผลสำเร็จทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากการอบรมดังกล่าว ISMED ยังจัดให้มีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก (Consulting) ในการจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operation Procedure : SOP) เพื่อบริการที่เหนือชั้น สำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ทั้งแผนกการให้บริการส่วนหน้าและแผนกส่วนครัว รวมถึงมีการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อการขอรับรองมาตรฐานฮาลาลในส่วนครัวหรือร้านอาหารในโรงแรมอีกด้วย

รวมทั้งยังได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025 โดยได้นำงาน Thailand Golf และ Outdoor Fest ลงทะเบียนเพื่อเข้าพิจารณาอนุมัติงบประมาณอุดหนุน ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. หากผู้ประกอบการ SME ท่านใด สนใจเข้าร่วมงาน Thailand Golf และ Outdoor Fest ก็จะได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 80% ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ SMEs ได้เป็นจำนวนมาก

มหกรรมแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ “THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 11.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5-6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจเข้าชมงานสามารถลงทะเบียนชมงานล่วงหน้า และติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมดำน้ำได้ทาง Facebook: Thailand Dive Expo (TDEX) หรือ www.ThailandDiveExpo.com กิจกรรมกีฬากอล์ฟ ติดตามดูรายละเอียดได้ทาง Facebook: Thailand Golf Expo หรือ www.ThailandGolfExpo.com กิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้ง Outdoor Fest ติดตามดูรายละเอียดได้ทาง Facebook: Traveler & Outdoor Expo หรือ www.traveloutdoorexpo.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

อิหร่านขู่โจมตีฐานทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง ตอบโต้การโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของตน

17 นาทีที่แล้ว

หลักสูตรเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว ปั้น SME ไทยสู่โลกยั่งยืน

21 นาทีที่แล้ว

‘ป็อกบา’ วิจารณ์ ‘ยูเว่’ ต้นสังกัดเก่า แทบไม่เหลียวแลในช่วงที่ยากลำบาก

21 นาทีที่แล้ว

‘ดร.มานะ’ ชำแหละขบวนการงาบงบ 950 ล้าน ซ่อมบำรุงเครื่องบินตำรวจ

27 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

หอการค้า ชี้ปิดช่องแคบฮอร์มุซ กระทบราคาน้ำมันพุ่ง คาดหวังครม.ใหม่ รัฐบาลทำงานได้

MATICHON ONLINE

BAM จับมือ วี บียอนด์ เดินหน้ายุทธศาสตร์ “หมุนเร็ว แบ่งกำไร” ชูกลยุทธ์ NPA Partnership เสริมแกร่งธุรกิจ

การเงินธนาคาร

ติดอาวุธให้ SME ใน “สมรภูมิธุรกิจ” ฉบับ “สงครามส่งด่วน”

การเงินธนาคาร

GUNKUL ผนึก muRata ลุย Direct PPAสู่เป้าใช้ไฟสะอาด 100%

Manager Online

คลัง หารือเอกชน เตรียมมาตรการรับมือไทย-กัมพูชา หากความขัดแย้งรุนแรงขึ้นประเมินผลกระทบค้าชายแดน ภาคการผลิต การเงิน ภาคบริการ

BTimes

พิชัย เร่งถกเอกชนรับมือวิกฤต หากปมไทย-กัมพูชา ขัดแย้งยืดเยื้อ

PostToday

KTC ดิ่งฟลอร์ พบหุ้นวางมาร์จิ้นสูงถึง 16.30% จับตาถูก Force Sell

PostToday

JSPเผยโควิดระบาดรอบใหม่หนุนคนไทยปรับไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพสูง

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ความคิดเห็นมากที่สุด

เปิดอาชีพยอดนิยม "คนกัมพูชา" มาทำงานอะไรที่ "ไทย"

sanook.com

พีระพันธุ์ เรียกถกด่วน! หลังกัมพูชา ระงับนำเข้าน้ำมัน-ก๊าซไทย

มุมข่าว

‘พีระพันธุ์’นัดถกผลกระทบกัมพูชาระงับนำเข้าน้ำมัน-ก๊าซ อิหร่านจ่อปิดช่องแคบฮอร์มุซ

เดลินิวส์

จับตากฎหมายปิด 'ช่องแคบฮอร์มุซ' กระทบเส้นเลือดใหญ่ขนส่งน้ำมันของโลก

BT Beartai

10 สินค้า กัมพูชา นำเข้าจากไทย มูลค่าแสนล้าน สำคัญต่อชีวิตทั้งนั้น

Thaiger

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น