โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

“ดีอี”เร่งสร้าง“สมาร์ท ซิตี้” 105 เมืองอัจฉริยะในปี 70

เดลินิวส์

อัพเดต 05 พ.ย. เวลา 15.55 น. • เผยแพร่ 05 พ.ย. เวลา 08.55 น. • เดลินิวส์
รมว.ดีอี เป็นประธานเปิดงาน Thailand Smart City Expo 2025 ภายใต้แนวคิด Activating Smart Cities, Elevating Smart Living โดยการผนึกกำลังระหว่าง ดีป้า และ เอ็น.ซี.ซี. ย้ำรัฐบาลเดินหน้าผลักดัน เมืองอัจฉริยะ

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยในงาน ไทยแลนด์ สมาร์ท ซิตี้ เอ็กซ์โป 2025 ว่า รัฐบาลมุ่งผลักดันให้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักของภาครัฐในการยกระดับการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และเข้าถึงประชาชนไทยอย่างแท้จริง พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล โดยกระทรวงดีอีมองเห็นโอกาสที่จะต่อยอดและยกระดับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น การบูรณาการข้อมูลเมืองเพื่อการตัดสินใจเชิงนโยบาย การนำเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง เอไอ และ ไอโอที มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง ซึ่งรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เป็นพิเศษ เมืองอัจฉริยะจะไม่เพียงปลอดภัยจากโอกาสในการก่ออาชญากรรม แต่จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะทำให้เราสามารถสร้างวิถีชีวิตที่ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ด้วย

นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ดีป้า ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาตั้งแต่ปี 60 ช่วยผลักดันให้เกิดเมืองอัจฉริยะแล้ว 37 พื้นที่ใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ เกิดเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ 173 พื้นที่ โดยมีการลงทุนเพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะมูลค่ารวมกว่า 11,900 ล้านบาท อีกทั้งสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไทยรวมกว่า 9 ล้านคน โดย ดีป้า ตั้งเป้าว่า เมืองอัจฉริยะประเทศไทยจะเพิ่มสู่ 105 พื้นที่ภายในปี 70 โดยมุ่งพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ในมิติด้านการดำรงชีวิตอัจฉริยะ (สมาร์ท ลีฟวิ่ง) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนผ่าน 2 โครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการ สมาร์ท ลีฟวิ่ง และ สมาร์ท ลีฟวิ่ง พลัส

โดยการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเข้าใจและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ 45 ชุมชนทั่วประเทศผ่านการสนับสนุนแพลตฟอร์มคาร์บอนบันทึกกิจกรรมด้านการเกษตร แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟส่องสว่างอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์ โดรนเพื่อการเกษตร และ IoT การเกษตรอัจฉริยะ และโครงการ 5G Ambulance โดยความร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อยกระดับบริการการแพทย์ฉุกเฉินผ่านการติดตั้งเทคโนโลยีดิจิทัลบนรถพยาบาลฉุกเฉิน จำนวน 40 คันของโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ 17 แห่งในพื้นที่ 11 จังหวัด

นอกจากนี้ ดีป้า ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของมาตรฐานเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีจากต่างประเทศที่จะต้องผ่านการทดสอบมาตรฐาน และหากได้รับการรับรองมาตรฐานแล้วจะสามารถขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัล (Thailand Digital Catalog) เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ ในราคาที่เป็นธรรม

“Thailand Smart City Expo 2025 จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และแนวทางการพัฒนาเมืองจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และเครือข่ายพันธมิตรจากนานาประเทศ เป็นพื้นที่รวมรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระดับโลก อีกทั้งเปิดโอกาสให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาของเมืองอย่างแท้จริง อีกทั้งงานในปีนี้ยังได้จัดร่วมกับ Secutech Thailand ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างยิ่งขึ้น โดย ดีป้า เชื่อว่า Thailand Smart City Expo 2025 จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม และนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มในทุกมิติ” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

Thailand Smart City Expo คือมหกรรมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ปีนี้มาพร้อมแนวคิด Activating Smart Cities, Elevating Smart Living โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และแนวทางการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาสให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ของเมืองอย่างแท้จริง ซึ่งงานในปีนี้ได้เพิ่มพื้นที่ส่วนจัดแสดงกว่า 80% รองรับการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมกว่า 800 รายการจากหลากหลายประเทศ อีกทั้งมีเวทีเสวนาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานชั้นนํารวมกว่า 80 หัวข้อตลอด 3 วัน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานในปีนี้มากกว่า 15,000 คน และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 1,200 ล้านบาท

จากนั้น นายไชยชนก ได้ให้เกียรติมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทยให้กับ ภูเก็ตทินิคอนวัลเลย์ จังหวัดภูเก็ต และประกาศนียบัตรแก่เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะจำนวน 43 พื้นที่ รวมถึงรางวัล Smart City Solutions Awards 2025 แก่หน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นในการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน จำนวน 3 รางวัล ได้แก่

1. โครงการบริหารจัดการขยะเศษอาหารในพื้นที่ตำบลแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ โดย เทศบาลเมืองแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

2. ระบบขออนุญาตก่อสร้างและควบคุมอาคารอัจฉริยะ (Smart Building Permit) “สะดวก โปร่งใส ถูกใจคนเมือง” โดยเทศบาลตำบลบ้านกลาง จังหวัดลำพูน ร่วมกับ บริษัท เบดร็อค อนาไลติกส์ จำกัด

3. ระบบดูแลและคัดกรองนักเรียน (App.CARE) โดยเทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลดัชนีเมืองอัจฉริยะและเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ ประกอบด้วย

• รางวัลพัฒนาขีดความสามารถเมืองอัจฉริยะ

เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

• รางวัลยกระดับความพร้อมเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ

อุโมงค์เมืองอัจฉริยะ โดย เทศบาลตำบลอุโมงค์ จังหวัดลำพูน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...