โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ส่องตลาด ‘ร.ร.อินเตอร์พุ่ง-เอกชนร่วง’สัญญาณเปลี่ยนการศึกษาไทยวิกฤต

MATICHON ONLINE

อัพเดต 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ส่องตลาด ‘ร.ร.อินเตอร์พุ่ง-เอกชนร่วง’สัญญาณเปลี่ยนการศึกษาไทยวิกฤต

โรงเรียนเอกชนปิดตัว ถือเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลายโรงเรียนไปต่อไม่ไหว ประกาศปิดกิจการต่อเนื่อง เฉพาะในปีการศึกษา 2567 มีโรงเรียนปิดกิจการกว่า 40 โรงเรียน และล่าสุด ‘โรงเรียนไผทอุดมศึกษา’ ร่อนจดหมายถึงผู้ปกครอง ประกาศเลิกกิจการ หลังเปิดมานานกว่า 55 ปี…

สาเหตุหลัก คือ เด็กเกิดน้อยลงทำให้จำนวนผู้เรียนลดลงทั่วประเทศ การแข่งขันสูง ทั้งในหมวดโรงเรียนเอกชนเดิมและทางเลือกใหม่ เช่น โฮมสคูล-การเรียนออนไลน์ และต้นทุนดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบุคลากร ค่าอาคาร และการตั้งมาตรฐานด้านคุณภาพ ซึ่งสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่ขาดเสถียรภาพทางการเงินและตกต่ำ โดยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนเอกชนลดลงจาก 4,143 โรงเรียน เหลือ 3,946 โรงเรียน ในปี 2567 คิดเป็น 4.8% ของจำนวนโรงเรียนเอกชนทั้งหมด ประเภทสามัญศึกษา ลดลง 6.1% จํานวนนักเรียน ลดลงจาก 2,242,442 คน เหลือ 2,034,262 คน ในปี 2567 คิดเป็น 9.3% ของนักเรียนโรงเรียนเอกชนทั้งหมด ประเภทสามัญศึกษา ลดลงจาก 2,155,099 คน เหลือ 1,956,528 คน ในปี 2567 คิดเป็น 9.2%

สวนทางกับกระแส ‘โรงเรียนนานาชาติ’ซึ่งเติบโตต่อเนื่องทั้งด้านจำนวน รายได้ และผลกำไร สะท้อนพฤติกรรมการเลือกการศึกษาของผู้ปกครองยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับโอกาสสากลและมาตรฐานระดับโลกมากขึ้นรายงานล่าสุดของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เดือนพฤษภาคม 2568 ระบุว่า ตลาดโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยมีมูลค่ามากกว่า 95,000 ล้านบาท และมีจำนวนสถานศึกษาถึง 257 แห่ง จากเดิมปี 2567 ที่มีอยู่ 249 โรงเรียน ประเมินมูลค่าอยู่ที่กว่า 8.5 หมื่นล้านบาท กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจการศึกษาที่มีการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบหลายปีการเติบโตของธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในไทยยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการหลักสูตรนานาชาติที่ทันสมัย โดยผู้ปกครองที่มีศักยภาพในการลงทุนด้านการศึกษาแสดงแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

สอดคล้องกับการคาดการณ์ว่าจํานวนคนไทยที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเพิ่มขึ้น 24% ในช่วงปี 2566-2571ข้อมูลจากสํานักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า โรงเรียนนานาชาติกระจุกตัวที่เมืองหลวงและหัวเมืองใหญ่ทั่วไทย โดยที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติส่วนมากอยู่ในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ตามภาคต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้มีทั้งกำลังซื้อสูง และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก ทำให้เกิดความต้องการด้านศึกษาแบบอินเตอร์เป็นพิเศษ หลายสถาบันลงทุนขยายอาคารเรียน สร้างสนามกีฬา โรงละคร ห้องเรียนเฉพาะทาง เพื่อแข่งขันด้านคุณภาพและประสบการณ์การเรียนรู้

จากการวิเคราะห์กลุ่มตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติ 20 แห่งของ DBD พบว่า ตัวเลขด้านการเงินเติบโตอย่างชัดเจน รายได้รวมฟื้นตัวหลังโควิด และขยายตัวต่อเนื่องในปี 2566-2567 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 136% ในปี 2566

ถือเป็นอัตราเติบโตที่สูงกว่าหลายอุตสาหกรรมปี 2567 โรงเรียนหลายแห่งกลับมาลงทุนด้าน ‘สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน’ เช่น อาคารเรียนใหม่และสิ่งอำนวยความสะดวก ตอกย้ำความมั่นใจในตลาดการศึกษาอินเตอร์ การเติบโตนี้สะท้อนว่าโรงเรียนนานาชาติเป็นธุรกิจที่‘มีเสถียรภาพสูง’ เพราะรายได้ส่วนใหญ่เกิดจากค่าเล่าเรียนที่มีความต่อเนื่องทุกเทอม รวมทั้งค่าใช้จ่ายเสริม เช่น ค่ากิจกรรม-ค่าอาหาร-ค่าขนส่งหนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ โรงเรียนนานาชาติปรับอัตราส่วนนักเรียนต่อครูลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เรียนได้รับการดูแลใกล้ชิดขึ้น โดยอัตราส่วนนักเรียนต่อครู ประเภทสามัญศึกษา ค่อนข้างคงที่อยู่ที่ 20-21 คนต่อครู 1 คน ประเภทนานาชาติ 15 คนต่อครู 1 คน ในปี 2562 และเหลือ 8 คนต่อครู 1 คน ในปี 2567

สะท้อน 2 เรื่องสำคัญ โรงเรียนต้องการแข่งขันด้านคุณภาพมากขึ้น และผู้ปกครองยอมจ่ายเพื่อแลกกับคุณภาพการเรียนรู้และการดูแลรายบุคคลสิ่งนี้ทำให้หลายโรงเรียนได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรสากลเพิ่มขึ้น เช่น CIS, WASC, IB

จนเกิดภาพรวมว่าโรงเรียนนานาชาติในไทยกำลัง ‘ยกระดับคุณภาพทั้งระบบ’ความนิยมของโรงเรียนนานาชาติมีสาเหตุหลัก คือ ผู้ปกครองไทยต้องการโอกาสสากลให้ลูก แนวโน้ม ‘ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ’ สูงมาก โดยผู้ปกครองมองว่าหลักสูตรอินเตอร์เป็นจุดเริ่มต้นที่มั่นคงกว่า, กำลังซื้อกลุ่มรายได้ปานกลาง-สูงยังแข็งแรง, กลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูงยังคงมองการศึกษาเป็นการลงทุนระยะยาว และชาวต่างชาติในไทยเพิ่มขึ้นกลุ่มชาวต่างชาติในกรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา สนใจโรงเรียนนานาชาติระดับพรีเมียมเป็นพิเศษ และพร้อมจ่ายในอัตราสูงผลกระทบเชิงนโยบายและอนาคตของระบบการศึกษาไทย

การเติบโตของโรงเรียนนานาชาติสะท้อนแนวโน้มสำคัญหลายประการที่ภาครัฐควรจับตา หนึ่งในปัญหาใหญ่ คือ โรงเรียนเอกชนทั่วไปกำลังอ่อนแรง อาจต้องมีมาตรการช่วยเหลือหรือปรับโครงสร้าง ขณะที่ตลาดโรงเรียนนานาชาติอาจเกิดการแข่งขันด้านค่าเทอมสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอาจขยายตัว หากไม่มีนโยบายรองรับกลุ่มรายได้ปานกลาง-ล่างโรงเรียนนานาชาติในไทยกำลังเติบโตในทุกมิติ ทั้งมูลค่าตลาด จำนวนโรงเรียน รายได้ และผลกำไร เป็นธุรกิจการศึกษาที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างชัดเจน และสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่หันหา ‘หลักสูตรสากล’ มากขึ้น ขณะที่โรงเรียนเอกชนทั่วไปต้องเผชิญความท้าทายที่หนักกว่าเดิม

โดย นายศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) ระบุว่า สถานการณ์ของสถานศึกษาเอกชนกำลังประสบปัญหาเรื่องจำนวนนักเรียนที่ลดลง เฉพาะปีนี้จำนวนเด็กลดลงไปกว่า 56,000 คน เกิดจากจำนวนประชากรเด็กเกิดน้อย และสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ ซึ่งโรงเรียนเอกชนก็พยายามยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยเปิดห้องเรียนที่จัดการศึกษาตามความสนใจของนักเรียนและผู้ปกครองให้มากขึ้น ทำให้ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจำนวนนักเรียนยังคงที่ แต่ที่จำนวนลดลงมากๆ คือระดับอนุบาล แต่ก็มีโรงเรียนเอกชนเปิดใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนนานาชาติ แสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองและนักเรียนเองมีความสนใจที่จะเรียนหลักสูตรนานาชาติเพิ่มมากขึ้น

“นอกจากปัญหาทางเศรษฐกิจและจำนวนผู้เรียนแล้ว ยังมีปัจจัยด้านการสืบทอดกิจการของโรงเรียนเอกชน ซึ่งมักจะเป็นธุรกิจครอบครัว เช่น กรณีโรงเรียนดังย่านลาดพร้าวที่ประสบปัญหาในการโอนกิจการต่อให้กับทายาท หลังจากเจ้าของโรงเรียนถึงแก่กรรม ส่งผลให้ไม่สามารถบริหารจัดการต่อได้และต้องยุติการดำเนินงานในที่สุด แม้ปัจจุบันจะมีโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้น ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โรงเรียนเอกชน สายสามัญ ปิดตัวลง เนื่องจากรับเด็กคนละกลุ่มกันอย่างชัดเจน โรงเรียนนานาชาติจะเน้นไปที่กลุ่มผู้ปกครอง ที่มีฐานะทางการเงินสูง ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย หรือผู้ปกครองที่ต้องการส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในประเทศไทยเป็นหลัก”นายศุภเสฏฐ์กล่าว

ตัวเลขมูลค่าตลาดกว่า 9.5 หมื่นล้านบาท และจำนวนสถานศึกษารวมกว่า 257 แห่ง คือสัญญาณว่าธุรกิจนี้ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ แต่กำลังกลายเป็น ‘โครงสร้างใหม่ของการศึกษาเอกชนไทย’ซึ่งอาจส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาขยายตัวเพิ่มมากขึ้น …

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ส่องตลาด ‘ร.ร.อินเตอร์พุ่ง-เอกชนร่วง’สัญญาณเปลี่ยนการศึกษาไทยวิกฤต

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...