เทคบอลไทยได้ 2 แชมป์โลกจากเดี่ยวหญิงและคู่หญิง
การแข่งขันเทคบอลชิงแชมป์โลก 2025 ที่สตราดาบานไยยานอส เมืองโอดอร์เฮอู เซกุยเอสค์ ประเทศโรมาเนีย ระหว่างวันที่ 3-7 ธันวาคม 68 โดยเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.68 เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย ซึ่งไฮไลต์คือการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศของทั้ง 5 ประเภท โดยทัพเตะโต๊ะโค้งไทย สามารถผ่านเข้ามาลุ้นแชมป์ถึง 4 ประเภทด้วยกัน และแต่ละคนต่างเป็นแชมป์เก่าทั้งหมด
เริ่มจากประเภทเดี่ยวหญิง “หยก” จุฑาทิพย์ กันทะธง อันดับ 1 ของโลกชาวไทย ดีกรีแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว เข้าชิงเป็นครั้งที่ 3 พบกับ คินกา บาราบาซี่ อันดับ 2 ของโลกจากโรมาเนีย
แม้จะเป็นรองในเรื่องเสียงเชียร์ทว่า จุฑาทิพย์ อาศัยทักษะการเล่นที่เฉียบขาดกว่า ก่อนจะเฉือนชนะไปอย่างระทึก 2-1 เซต 12-8, 10-12 และ 12-3 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ติดต่อกันได้สำเร็จ
จากนั้นในประเภทคู่หญิง “หยก” จุฑาทิพย์ กันทะธง กับ “นิด” สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ คู่อันดบ 1 ของโลกชาวไทย ดีกรีแชมป์โลก 2 สมัยหลังสุด จัดการสยบ เปตรา เพชี / โนรา วิชเซก จากฮังการี 2-1 เซต 12-9, 8-12 และ 12-6 คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน นับเป็นย้ำแค้นคู่จากฮังการีคู่นี้ได้อีกครั้ง หลังเคยชนะในศึกชิงแชมป์โลกรอบชิงชนะเลิศมาแล้วเมื่อปี 2023 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมกับทำให้ “หยก” คว้าแชมป์โลก 2 ประเภทในศึกชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ทั้งเดี่ยวหญิงและคู่หญิง
ถัดมาในประเภทคู่ชาย “สอ” สรศักดิ์ เทาศิริ กับ “ตุ้ม” จีรติ จันทร์เลียง จากประเทศไทย ดีกรีแชมป์โลกเมื่อปีที่แล้ว พบกับ บอกดาน มาโรเยวิช กับ นิโคล่า มิโตร จากเซอร์เบีย ที่เคยคว้าแชมป์โลกมาแล้ว 2 สมัยเมื่อปี 2021 และ 2022
ผลปรากฏว่าคู่จากเซอร์เบียอาศัยการเสิร์ฟแรกที่ดี ทำให้คู่ของไทยขึ้นฟาดตามสไตล์ที่ถนัดไม่ได้ ก่อนจะพ่ายไป 0-2 เซต 7-12 และ 3-12 ชวดป้องกันแชมป์อย่างน่าเสียดาย
ด้านประเภทคู่ผสม “ต้น ราชนาวี” พักตร์พงษ์ เดชเจริญ กับ “นิด” สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ ดีกรีอันดับ 1 ของโลก และเป็นแชมป์โลก 2 สมัยหลังสุด พบกับ คินกา บาราบาซี่ กับ อาปอร์ ยอร์กีเดค คู่ตัวเต็งจากเจ้าถิ่น
แมตช์นี้คู่จากโรมาเนียเล่นได้อย่างเหนียวแน่น ส่งผลให้ ต้น-นิด พ่ายไป 0-2 เซต 2-12 และ 10-12 ชวดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 อย่างน่าเสียดาย
ทำให้ศึกชิงแชมป์โลก 2025 ทีมเทคบอลไทยทำผลงานได้ทั้งสิ้น 2 เหรียญทอง, 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง
โดย 2 เหรียญทองได้จากประเภทเดี่ยวหญิง(จุฑาทิพย์ กันทะธง) กับคู่หญิง(จุฑาทิพย์ กันทะธง กับ สุภาวดี วงศ์คำจันทร์) ส่วน 2 เหรียญเงินได้จากประเภทคู่ชาย(สรศักดิ์ เทาศิริ กับ จีรติ จันทร์เลียง) กับ คู่ผสม(พักตร์พงษ์ เดชเจริญ กับ สุภาวดี วงศ์คำจันทร์) ขณะที่ 1 เหรียญทองแดงจากประเภทเดี่ยวชาย(อุเทน กู้เขียว)