Nasdaq เตรียมขยายเวลาซื้อขายหุ้น 24 ชั่วโมง คาดเริ่มครึ่งหลังปี 2569
Nasdaq เตรียมขยายเวลาซื้อขายหุ้น 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 วัน คาดเริ่มครึ่งหลังปี 2569 ตอบโจทย์นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้าถึงตลาด ท่ามกลางการแข่งขันจาก NYSE และ Cboe
วันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 06.39 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Nasdaq หนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นแหล่งจดทะเบียนของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Nvidia, Apple และ Amazon เตรียมยื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ในวันจันทร์นี้ เพื่อเดินหน้าเปิดซื้อขายหุ้นแบบตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายใช้ประโยชน์จากความต้องการลงทุนในหุ้นสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนทั่วโลก
ความต้องการของนักลงทุนในการซื้อขายหุ้นสหรัฐแบบไม่หยุดพักพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูแลออกกฎใหม่และอนุมัติข้อเสนอจากตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่ เพื่อให้สามารถซื้อขายนอกเวลาทำการปกติได้ โดยตลาดหุ้นสหรัฐคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของมูลค่าตลาดรวมของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก ขณะที่มูลค่าการถือครองหุ้นสหรัฐของนักลงทุนต่างชาติแตะระดับ 17 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
การยื่นเอกสารต่อ SEC ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกอย่างเป็นทางการของแนสแด็กในการเปิดซื้อขายหุ้นตลอด 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 วัน ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม ทัล โคเฮน ประธานแนสแด็ก ระบุว่าบริษัทได้เริ่มหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลแล้ว และคาดว่าจะเริ่มเปิดซื้อขายแบบไม่หยุดพักได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2569 ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และ Cboe Global Markets ก็เพิ่งประกาศแผนเดินหน้าเปิดซื้อขายหุ้นตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน
ชัค แม็ก รองประธานอาวุโสฝ่ายตลาดอเมริกาเหนือของแนสแด็ก กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “แนวโน้มโลกาภิวัตน์ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และเราก็เห็นชัดว่าตลาดสหรัฐเองมีลักษณะเป็นสากลมากขึ้นเรื่อย ๆ”
ภายใต้แผนใหม่ Nasdaq จะขยายเวลาซื้อขายหุ้นและผลิตภัณฑ์ซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETP) จากเดิม 16 ชั่วโมง เป็น 23 ชั่วโมงต่อวัน สัปดาห์ละ 5 วัน ปัจจุบัน Nasdaq มีการซื้อขาย 3 ช่วงต่อวันในวันทำการ ได้แก่ ช่วงก่อนเปิดตลาดเวลา 04.00–09.30 น. (ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ) ช่วงเวลาทำการปกติ 09.30–16.00 น. และช่วงหลังปิดตลาด 16.00–20.00 น.
เมื่อเปลี่ยนเป็นระบบ 23 ชั่วโมงต่อวัน แนสแด็กจะจัดการซื้อขายเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงกลางวันตั้งแต่ 04.00–20.00 น. จากนั้นหยุดพัก 1 ชั่วโมงเพื่อการบำรุงรักษา ทดสอบระบบ และชำระบัญชี ก่อนเริ่มช่วงกลางคืนตั้งแต่ 21.00–04.00 น. ของวันถัดไป โดยการซื้อขายระหว่างเวลา 21.00–24.00 น. จะถูกนับเป็นธุรกรรมของวันทำการถัดไป โดยภายใต้ระบบใหม่นี้ สัปดาห์การซื้อขายจะเริ่มตั้งแต่คืนวันอาทิตย์เวลา 21.00 น. และสิ้นสุดในวันศุกร์เวลา 20.00 น. หลังจบช่วงกลางวัน
การเปิดซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงจะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยการยกระดับระบบประมวลผลข้อมูลราคาหลักทรัพย์ (Securities Information Processor) ซึ่งเป็นระบบที่แสดงราคาหุ้นที่แม่นยำที่สุดในตลาดสหรัฐ ขณะเดียวกันศูนย์กลางการชำระราคาอย่าง Depository Trust and Clearing Corporation (DTCC) มีแผนเปิดระบบชำระราคาตลอด 24 ชั่วโมงภายในสิ้นปี 2569
ผู้สนับสนุนแนวคิดซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงมองว่า จะช่วยให้นักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่นอกสหรัฐ สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์สำคัญที่เกิดนอกเวลาทำการได้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามธนาคารวอลล์สตรีทหลายแห่งยังคงระมัดระวัง โดยกังวลเรื่องสภาพคล่องที่อาจลดลง ความผันผวนที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนด้านผลตอบแทนจากการลงทุน
แม้ปริมาณการซื้อขายนอกเวลาปกติจะยังต่ำกว่าช่วงเวลาทำการหลัก แต่ความต้องการซื้อขายในช่วงกลางคืนของสหรัฐกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันนักลงทุนที่ต้องการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงต้องพึ่งแพลตฟอร์มนอกตลาดหลัก เช่น Blue Ocean, Bruce ATS และ OTC Moon
แม็กกล่าวว่า นักลงทุนจากนอกสหรัฐมีความต้องการเข้าถึงหุ้นที่จดทะเบียนในแนสแด็กมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และต้องการลงทุน “ในเงื่อนไขของตนเอง และในเขตเวลาของตนเอง”
ทั้งนี้เวลาซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่อย่าง NYSE มีมาตั้งแต่กว่าหนึ่งศตวรรษก่อน เมื่อการซื้อขายยังต้องดำเนินการแบบพบหน้าบนฟลอร์ แม้ปัจจุบันการซื้อขายส่วนใหญ่เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่กรอบเวลาซื้อขายของตลาดสหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลงมานานหลายทศวรรษ
ก่อนหน้านี้ในปีนี้ Nasdaq ได้ยื่นเอกสารต่อหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อขออนุญาตซื้อขายหุ้นในรูปแบบโทเคน (tokenized stocks) สะท้อนความพยายามรุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ท่ามกลางกฎระเบียบคริปโทที่ผ่อนคลายลงในยุครัฐบาลทรัมป์
แม็กกล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงที่ตลาดเผชิญความตึงเครียดและความผันผวนสูง ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และแนสแด็กได้พัฒนาระบบที่มีความทนทานสูง รองรับปริมาณธุรกรรมจำนวนมาก และสามารถรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิง : reuters.com