โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

กูรูชี้เป้าหุ้นเด่นปี 2026 ธีมเศรษฐกิจรอบใหม่ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บล.บัวหลวง คาดว่า ปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปี 2026 มาจาก 5 เหตุผล ได้เเก่

1) วัฏจักรสะสมสินค้าคงคลังรอบใหม่ (restocking cycle) หนุนการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมโลกในปี 2026 แต่ก่อนอื่นจะเห็นการระบายสินค้ารอบใหญ่ในช่วง 1-2 ไตรมาสหลังมาตรการภาษีทรัมป์เริ่มใช้ กดดันการค้าโลกในช่วง ไตรมาส 4/2025 - ไตรมาส1/2026 แต่จะตามมาด้วยวัฏจักรสะสมสินค้าคงคลังรอบใหม่ในช่วงไตรมาส 2 หลังตัวเลขสัดส่วนสินค้าคงคลังต่อคำสั่งซื้อใหม่สหรัฐฯ (US PMI Inventory-to-New Orders) อยู่ใกล้เคียงระดับต่ำสุดในรอบหลายปี (ไม่รวมช่วงวิกฤติ)

2) การลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่ตัวเลข BOI เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุนโดยปกติจะทยอยเข้ามาหลังจากการอนุมัติรับการส่งเสริมการลงทุน BOI เฉลี่ยราว 1 ปี ดังนั้น คาดเม็ดเงินจะเข้ามาหนุนการลงทุนภาคเอกชนชัดเจนต่อเนื่องในปี 2026-2027

3) มาตรการกระตุ้นตลาดทุนโครงการบัญชีออมหุ้นระยะยาว (TISA) คาดหนุนเม็ดเงินไหลเข้า

4) นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง จะหนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม คาด กนง.จะลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในปี 2026 เหลือ 1.00% จากคาด 1.25% ในปี 2025

5️) การทยอยฟื้นตัวของการท่องเที่ยว จะยังเป็นแรงส่งให้กับภาพเศรษฐกิจและตลาดหุ้น โดยการท่องเที่ยวทำจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2/2025 และจะเริ่มฟื้น ไตรมาส 4/2025 ต่อเนื่องไปถึงปี 2026 ปัจจุบันคาดนักท่องเที่ยวราว 33.2 ล้านคนในปี 2025 (ลดลงจาก 2024) แต่คาดจะฟื้นตัวขึ้นราว 34 ล้านคนในปี 2026

ขณะที่ความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอกว่าคาด ทั้งจากสหรัฐฯ (ภาคแรงงาฯ) และจีน (ภาคอสังหาฯ), หนี้ครัวเรือนไทย-ระดับหนี้เสียอยู่ในระดับสูง, ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า อาจกดดันการเบิกจ่ายงบลงทุน ซ้ำเติมงบลงทุนที่มีวงเงินน้อยกว่าปีก่อนอยู่แล้ว 7.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

กลยุทธ์ที่สำคัญช่วงปี 2026 ยังเน้นหุ้นที่ “กำไรชัด/ปันผลสูง” โดยเน้นไปที่อุตสาหกรรมดังนี้

1. “กลุ่มผู้นำการเติบโตธีมดาต้าเซ็นเตอร์-Digital transformation” ได้แก่ WHAUP, GUNKUL, GULF

2. “กลุ่มที่กำไรคาดเติบโตต่อเนื่อง/ผ่านจุดต่ำสุด-ได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐฯ” ได้แก่ CPN, CPALL, CENTEL, AOT, CBG

3. “กลุ่มปันผลสูง-กระแสเงินสดสม่ำเสมอ-ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นตลาดทุน TISA” ได้แก่ KTB, SCB, ADVANC

4. “กลุ่มเชื่อมโยงการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก” ได้แก่ PTTGC, SCC, ITC ทั้งนี้ สำหรับ PTTGC และ SCC แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวใน 1Q26 เพื่อรอรับรอบฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...