ปวดหัวไมเกรน เป็นยังไง จันมีคำตอบ
ปวดหัวไมเกรน แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1.ไมเกรนที่ไม่มีอาการเตือน (พบมากที่สุด)
2.ไมเกรนที่มีอาการเตือน อาการ คือ การมองเห็นผิดปกติ จะเห็นแสงเป็นเส้นซิกแซกคล้ายฟันเลื่อย อาจจะมีหรือไม่มีสี หรือเห็นภาพมืดไปเป็นบางส่วน หรือมองเห็นภาพไม่ชัด หลับตาแล้วยังเห็นได้อยู่ หรือเห็นภาพบิดเบี้ยว ซึ่งอาการผิดปกติของการมองเห็นจะเคลื่อนที่อย่างช้าๆ อาการเตือนอื่นๆ เช่น อาการชาที่มือ-แขน หรือชารอบปาก, ไม่สามารถพูดได้ชั่วคราวหรือนึกชื่อไม่ออก, หรือมีอาการอ่อนแรงของแขน-ขาซีกหนึ่งของร่างกาย เป็นต้น
โดย เว็บไซต์ของโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่า สาเหตุมาจาก ความผิดปกติของระบบไฟฟ้าที่ผิวสมอง ทำให้สมองเกิดการกระตุ้นได้ง่ายและไวกว่าคนปกติ หลังจากสมองถูกกระตุ้นแล้ว จะเกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งไปตามผิวของสมองอย่างช้าๆ ทำเกิดอาการการเตือนขึ้นมา กระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นนี้ทำให้การไหลเวียนของเลือดในสมองเปลี่ยนแปลงไป และยังไปกระตุ้นเส้นประสาทสมอง ทำให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิด มีผลทำให้หลอดเลือดสมองเกิดการขยายตัวและเกิดการอักเสบขึ้น เป็นผลทำให้มีอาการปวดหัวในที่สุด
ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือได้รับการรักษาช้า จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของระบบรับความเจ็บปวดในสมอง ทำให้มีอาการปวดหัวที่รุนแรงขึ้น ความถี่ของการปวดหัวเพิ่มมากขึ้น, ไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวด, อาจพบอาการเจ็บแปลบๆ ที่บริเวณรอบกระบอกตาหรือหนังหัวได้ และพบความผิดปกติของสมองจากการตรวจด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า
+++
อาการ คือ จะปวดหัวข้างเดียว อาจย้ายข้างได้ แต่มักเป็นทีละข้าง ลักษณะการปวดเป็นแบบตุ้บๆ ความรุนแรงของอาการปวดจะรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก การทำกิจวัตรทั่วไป อาการจะดีขึ้นถ้าได้พักผ่อนอยู่นิ่งๆในห้องที่มืดและเย็น ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือได้รับรักษาไม่เหมาะสม อาการปวดหัวจะเป็นอยู่นาน 4-72 ชั่วโมง
บางครั้งอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อวก ไวต่อแสง ไม่อยากเห็นแสงจ้า และไม่อยากได้ยินเสียงดัง
ในบางคน มีสิ่งกระตุ้น ที่ทำให้เกิดอาการมากขึ้นมา เช่น ความเครียด, การอดนอน, การนอนและตื่นที่ไม่เป็นเวลา, ช่วงที่เป็นประจำเดือน, กลิ่นหรือควัน, การเปลี่ยนแปลงของอากาศ หรือ ความร้อน, แสงแดด, อาหารหมักดอง, ชีส, ไวน์ (พยายามเลี่ยงนะคะ)
เพราะฉะนั้นเราต้องสังเกตตัวเอง และพยายามเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดโรคนี้ นั่นก็คือ ต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และตรงตามเวลาทุกวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
ในผู้ที่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมกำเนิด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ ถ้าอาการปวดหัวรุนแรงมากขึ้น หรือมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไป ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ส่วนการรักษา ในระยะที่มีอาการปวดหัวเฉียบพลัน ใช้เฉพาะเวลามีอาการปวดหัวเท่านั้น และให้กินยาหลังจากที่เริ่มมีอาการปวดหัวทันที จะได้ผลในการรักษาอาการปวดหัวที่ดี
เช่น ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล, ยาลดการอักเสบที่ไม่ไช่สเตียรอด์ (NSAIDs) เป็นต้น, ยาที่เฉพาะเจาะจงกับไมเกรน เช่น ยากลุ่มทริปแทน (triptan) หรือ ยาที่มีส่วนผสมของเออโกทามีน (ergotamine) ซึ่งออกฤทธิ์ที่เส้นเลือดสมองโดยตรง, ยาสำหรับลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
ระยะที่ไม่ปวดหัว ต้องรับประทานติดต่อกันทุกวัน เช่น กลุ่มยากันชัก เช่น Topiramate, Valproic acid เป็นต้น, กลุ่มยาปิดกั้นตัวรับแคลเซียม เช่น Flunarizine, Cinnarizine, Verapamil เป็นต้น, กลุ่มยาปิดกั้นตัวรับเบต้า เช่น Propanolol, Atenolol, Metoprolol เป็นต้น
และ กลุ่มยาต้านอาการซึมเศร้า เช่น Amitriptyline, Nortriptyline, Duloxetine, Velafaxine เป็นต้น กรณีมีอาการปวดหัวไมเกรนในช่วงมีประจำเดือน สามารถรับประทานยา ยาลดการอักเสบที่ไม่ไช่สเตียรอด์ หรือ ยากลุ่มทริปแทน ในช่วงก่อนมีประจำเดือนประมาณ 2-3 วัน และรับประทานยาต่อจนหมดประจำเดือน 4-5 วัน