Gen Z 70% เครียดรายได้ต่ำ-ค่าครองชีพพุ่ง แถมไร้เงินเก็บ “ฉุกเฉิน”
วันนี้ (26 มิ.ย.68) รายงานจาก วิจัยกรุงศรี ได้สำรวจพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคชาวไทยที่มีอายุระหว่าง 18-30 ปี หรือเรียกโดยย่อว่า “Gen Z” ในช่วงเดือนก.พ.-มี.ค.68 ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ร่วมตอบแบบสำรวจชาว Gen Z ทั้งสิ้น 426 คน
ในภาพรวมนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจ Gen Z กลุ่มใหญ่ หรือ 43% อยู่ในวัยยี่สิบตอนปลาย (27-30 ปี) รองลงมาเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยเรียน หรือมีอายุระหว่าง 18-22 ปี (31%) และวัยเริ่มทำงาน (23-26 ปี) ในสัดส่วน 26% ซึ่งจากทั้งหมด 63% ทำงานประจำ และ 61% สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
ทั้งนี้ ผู้ตอบฯ เกือบ 2 ใน 3 เป็นเพศหญิง และกว่า 9 ใน 10 มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 บาท โดยกลุ่มใหญ่ที่สุด 41% จะมีรายได้อยู่ในช่วง 15,000-30,000 บาทต่อเดือน
โดยได้สำรวจความกังวลด้านการเงิน ผู้ตอบแบบสำรวจ Gen Z มีความกังวลด้านการเงินอยู่ไม่น้อย โดย “ค่าครองชีพ” เป็นสิ่งที่ Gen Z กังวลมากที่สุด (69%) สำรวจสะท้อนว่ายิ่งมีรายได้น้อย ยิ่งกังวลเรื่องค่าครองชีพ โดย 70% ของผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 50,000 บาท กังวลเรื่องค่าครองชีพ
ขณะที่เพียง 45% ของผู้มีรายได้ต่อเดือนสูงกว่า 50,000 บาทกังวลในเรื่องเดียวกัน นอกจากนี้ ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบฯ ยังกังวลเรื่อง “เงินเก็บไม่พอยามฉุกเฉิน” และ “รายได้ไม่พอใช้จ่าย” โดยราว 23% ของผู้ตอบฯ มีความกังวลทั้ง 3 เรื่องดังกล่าวพร้อมกัน
นอกจากนี้ประเด็น “ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ/การรักษาพยาบาล” และ “การมีเงินเก็บไม่พอหลังเกษียณ” ยังอยู่ใน 5 อันดับแรกของความกังวลด้านการเงิน โดยพบว่าวัยยี่สิบตอนปลาย (27-30 ปี) ราวครึ่งหนึ่ง กังวลเรื่องเงินเก็บไม่พอหลังเกษียณ ส่วนผู้ตอบฯ ที่ระบุว่า “ไม่มีความกังวล” ต่อประเด็นด้านการเงินใดๆ เลย มีอยู่เพียงร้อยละ 6 เท่านั้น