โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"พิชัย" แจง 5 ข้อเสนอไทยเจรจาภาษีทรัมป์ ชี้ท่าทีเชิงบวก เชื่อ Win-Win Solution

SpringNews

อัพเดต 14 พ.ค. เวลา 08.37 น. • เผยแพร่ 14 พ.ค. เวลา 06.05 น.

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงเกี่ยวกับความคืบหน้าการเจรจานโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ นายพิชัย ได้ระบุว่าได้ส่งข้อเสนอ (proposal) ในการเจรจากับสหรัฐฯของไทยถึงนาย นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ และเจมสัน กรีเออร์ ประธานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) โดยหวังว่าจะได้รับการตอบในการนัดเจรจาใน 2 สัปดาห์นี้

นายพิชัย เปิดเผยว่า รมว.คลังสหรัฐ ได้แสดงท่าทีเป็นบวกต่อข้อเสนอของรัฐบาลไทย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีจากระดับนโยบายจากสหรัฐฯ

"ข้อเสนอของเราเป็นข้อเสนอที่เราจะปรับปรุงตัวเอง เป็น win-win โซลูชั่น 2 ฝั่งได้ประโยชน์ หวังว่าจะจัดคิวในเร็ววัน เพราะผ่านมา 1-2 เดือนแล้ว"

สาระสำคัญของข้อเสนอมี 5 ข้อ ได้แก่

1. เสริมความร่วมมือธุรกิจอาหารแปรรูปไทยและสหรัฐ มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ด้วยการใช้จุดแข็ง 2 ประเทศร่วมกัน โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพื่อเป็นวัตถุดิบแปรรูปและส่งออกไปตลาดโลก และหารือร่วมภาคเกษตรของสหรัฐที่เป็นฐานเสียงสำคัญทางการเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

2. เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ โดยไทยมีแผนเพิ่มการนำเข้าสินค้าจำเป็น อาทิ พลังงาน (น้ำมันดิบ, LNG, อีเทน), เครื่องบินและชิ้นส่วน, อาวุธยุทโธปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เกษตรอย่างข้าวโพด ถั่วเหลือง และเนื้อวัว เพื่อกระชับความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ และตอบสนองความต้องการของเศรษฐกิจในประเทศ

3. เปิดตลาดและลดอุปสรรคทางการค้า การลดภาษีนำเข้าภายใต้ระบบ MFN จำนวน 11,000 รายการ ลง 14% รวมถึงการลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs) เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของความร่วมมือ อีกทั้งลดโควตาและข้อจำกัดพร้อมเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐ เช่น เชอรี่ แอปเปิ้ล ข้าวสาลี ข้าวโพด และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์

4. บังคับใช้กฎหมายถิ่นกำเนิดสินค้าเคร่งครัดผ่านการบังคับใช้กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า เพื่อแก้ปัญหาการสวมสิทธิ์สินค้า "Made in Thailand" โดยสินค้าจากประเทศที่ 3 ส่งออกผ่านไทยไปสหรัฐ ซึ่งจะเพิ่มการเฝ้าระวังเพื่อรักษาภาพลักษณ์สินค้าไทยในตลาดสหรัฐ

5. ส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐ ภาครัฐสนับสนุนการขยายการลงทุนของเอกชนไทยในสหรัฐ ภายใน 4 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน เช่น โครงการลงทุน LNG ในรัฐอลาสก้า และการลงทุนฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่ ปัจจุบันเอกชนไทยลงทุนในสหรัฐ 70 แห่ง ใน 20 มลรัฐ สร้างงานมากกว่า 16,000 ตำแหน่ง มูลค่าการลงทุน 16,000 ล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ วันอังคาร 13 พ.ค. นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ขึ้นเวทีเสวนา Saudi Investment Forum ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ตอบคำถามพิธีกรถึงแนวโน้มการทำข้อตกลงกับประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากที่ทำกับสหราชอาณาจักร

ขุนคลังสหรัฐระบุว่า ตนเน้นการทำข้อตกลงในเอเชียใหญ่สุดก็คือจีน การหารือกับญี่ปุ่นได้ผลมาก ส่วนเกาหลีใต้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงผู้นำ อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ได้ติดต่อสหรัฐมาก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งพร้อมด้วยข้อเสนอที่ดีมาก อินโดนีเซีย คู่ค้ารายใหญ่ก็ติดต่อกันอย่างดี ไต้หวันยื่นข้อเสนอที่ดีมาก “และประเทศไทยก็เช่นกัน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...