โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

‘พาวิลเลี่ยนญี่ปุ่น’เทคโนโลยีแก้ปัญหาสังคม Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 09 ก.ค. เวลา 18.17 น. • เผยแพร่ 10 ก.ค. เวลา 05.00 น.

งานเวิลด์เอ็กซ์โปปีนี้ที่ใช้ชื่อว่า Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan ถือเป็นอีกหนึ่งความประทับใจ เมื่อนครโอซากาได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งหนึ่ง จากที่เคยเป็นมาแล้วในทศวรรษ 1970 แม้นานาประเทศทั้ง 158 ประเทศที่มาร่วมงานต่างงัดของดีมาอวดกันเต็มที่ แต่ด้วยความเป็นเจ้าภาพพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่นย่อมเป็นที่จับตามองซึ่งญี่ปุ่นก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง

Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan บนเกาะยูเมะชิมะ เมืองโอซากา ที่จัดขึ้นภายใต้ธีม “Designing a Future Society for Our Lives” (การออกแบบสังคมแห่งอนาคตเพื่อชีวิตเรา) กลายเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยีเข้ากับศิลปะและวัฒนธรรม พาวิลเลียนญี่ปุ่นที่ใช้ธีมว่า “Between Lives” (ระหว่างชีวิต) สอดประสานไปกับธีมงาน มีการใช้เทคโนโลยีเอไอ หุ่นยนต์ การสื่อสารเสมือนจริง (XR) และงานศิลปะอินเตอร์แอคทีฟ นำเสนอการผลิตพลังงานก๊าซชีวภาพโดยใช้ขยะอาหารจากสถานที่จัดงานเอ็กซ์โปและเทคโนโลยีรีไซเคิลคาร์บอนล้ำสมัยอื่นๆ ของญี่ปุ่น นำมาสร้างวงจรแบบวนซ้ำและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เยี่ยมชมปรับใช้พฤติกรรมที่ยั่งยืนเพื่อสังคมที่ยั่งยืน

ความโดดเด่นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้มาเยือนเป็นจุดแรกคือโครงสร้างพาวิลเลี่ยนที่นำแผ่นไม้จำนวนมากมาเรียงกันเป็นวงกลม สะท้อนถึงวัฏจักรแห่งชีวิต เมื่อมองผ่านแผ่นไม้ซึ่งเชื่อมโยงภายนอกและภายในเข้าด้วยกันผ่านนิทรรศการและสถาปัตยกรรม ทำให้เกิดความเข้าใจถึงสิ่งที่ “อยู่ระหว่าง” อันเป็นส่วนหนึ่งของธีมพาวิลเลียน

(ภาพจาก expo2025.or.jp)

แผ่นไม้เหล่านี้ส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ลามิเนตแนวขวาง (ซีแอลที) ออกแบบมาเพื่อให้รื้อถอนได้ง่าย เสร็จงานแล้วก็รื้อไปใช้ทำอาคารหลังอื่นๆ ได้ทั่วประเทศ

ตัวพาวิลเลี่ยนประกอบด้วยสามส่วนคือส่วนโรงเรือน ฟาร์ม และโรงงาน โดยส่วนโรงเรือนแสดงให้เห็นถึงกระบวนการเปลี่ยนน้ำเสียโดยใช้จุลินทรีย์เป็นตัวช่วยย่อยสลายขยะจากงานเอ็กซ์โป จากนั้นเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า และน้ำสะอาด ถือเป็นการเดินทางผ่านวัฏจักรแห่งการฟื้นคืนชีพ ไม่ผิดเลยกับข้อความที่ว่า “ชีวิตเริ่มต้นที่ขยะ”

จากโซนโรงเรือนไปสู่โซนฟาร์ม ผู้ชมต้องเดินผ่านสระน้ำวงกลมกว้างใหญ่ ณ ใจกลางพาวิลเลี่ยน น้ำนี้มาจากน้ำเสียภายในงานที่ผ่านการบำบัดแล้วสะอาดถึงขนาดดื่มได้

โซนฟาร์มแสดงถึงกระบวนการเปลี่ยนน้ำเป็นวัสดุ ด้วยการทำงานของสาหร่ายและจุลินทรีย์รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยของวัสดุไบโอพลาสติก ความโดดเด่นของโซนนี้คือการนำเสนอประโยชน์ของสาหร่ายชนิดต่างๆ ที่ยังไม่มีใครพูดถึง

ข้อดีของสาหร่ายคือให้พลังงานมากมาย เติบโตได้ทุกที่แม้ในที่ยากลำบาก แต่จะทำอย่างไรให้ผู้คนรู้จักเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ทั้ง 32 ชนิด ก็ต้องนำเสนอพวกมันผ่านคิตตี้สีเขียว 32 ตัว ที่ใครเห็นเข้าเป็นต้องกรี๊ด! กับความน่ารักของสาหร่ายคิตตี้

โซนสุดท้ายคือโซนโรงงานซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระบวนการนำวัสดุมาทำเป็นผลิตภัณฑ์และงานฝีมือดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่แฝงการหมุนเวียน การซ่อมแซม นำกลับมาใช้ใหม่อยู่ตลอดเวลา เช่น ถ้วยญี่ปุ่นทำจากไมโครพลาสติกสามารถย่อยสลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หากสังเกตดูให้ดีผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่นมักประกอบด้วยส่วนประกอบชิ้นเล็กๆ หลักคิดคือ ถ้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งพังไปก็ซ่อมเฉพาะชิ้นนั้น ไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งหมด นี่คือแนวคิดเรื่องการหมุนเวียนที่ญี่ปุ่นมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แม้แต่ตัวพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่นก็แสดงให้เห็นถึงการหมุนเวียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจากน้ำสู่ขยะ ขยะสู่น้ำ น้ำสู่วัสดุ วัสดุสู่ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์กลับไปเป็นขยะ

ในภาพรวมการเยี่ยมชมพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่นช่วยจุดประกายให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงแง่มุมที่กว้างขวาง เริ่มต้นจากการสอดประสานระหว่างเทคโนโลยีทันสมัยกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ไปกันได้ดี โดยไม่ลืมประเด็นปัญหาสังคมในปัจจุบัน ทั้งสังคมสูงวัย มาตรการรับมือภัยพิบัติ เทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ

  • เทคโนโลยีสอดประสานศิลปะ

ทาคุโบะ โนริฮิโกะ รักษาการผู้อำนวยการพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่น บรรยายสรุปแก่คณะผู้สื่อข่าวอาเซียนที่มาเยี่ยมชมพาวิลเลี่ยนว่า บริษัท องค์กร และเอกชนกว่า 30 รายร่วมเป็นสปอนเซอร์และสนับสนุนการจัดนิทรรศการในพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่น ที่สามารถชี้ให้ผู้ชมเห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้สร้างผลกระทบต่อสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรม และโลกโดยรวม เช่น การเน้นย้ำถึงประโยชน์ทางโภชนาการของสาหร่ายและศักยภาพในการเป็นแหล่งดูดซับ CO2

“เราหวังว่านิทรรศการนี้จะช่วยสนับสนุนความพยายามระดับโลกในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การขาดแคลนอาหารในอนาคตและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้”

และแม้เทคโนโลยีก้าวล้ำแค่ไหน ญี่ปุ่นไม่เคยลืมศิลปวัฒนธรรมของตนเอง เห็นได้จากในพื้นที่โรงงานของพาวิลเลี่ยน งานฝีมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เน้นการลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุดและการทำผลิตภัณฑ์ที่คงทนได้รับการนำเสนอควบคู่กับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่สืบสานคุณค่าเหล่านั้น

"พาวิลเลี่ยนญี่ปุ่นไม่เพียงแต่แสดงออกถึงแนวคิดเรื่องการหมุนเวียนผ่านการจัดนิทรรศการเท่านั้น แต่ยังแสดงออกผ่านสถาปัตยกรรมด้วย โครงสร้างแบบวงกลมแสดงถึงวงจรที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีจุดเริ่มต้นที่ชัดเจน ในระหว่างงานนิทรรศการครั้งนี้ เราหวังว่าผู้เยี่ยมชมจะมองเห็นตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของวงจรที่ยิ่งใหญ่นี้ และได้รับแรงบันดาลใจในการดำเนินการเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น"

สำหรับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมป้องกันภัยพิบัติใหม่ๆ ที่ประเทศเสี่ยงต่อภัยพิบัติอย่างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถนำไปใช้ได้ ถูกนำเสนออยู่ในโซนโรงงานเช่นกัน อาทิ เทคโนโลยีระบบลดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่ใช้ในตึกโตเกียวสกายทรี และเทคโนโลยีที่ใช้ในสะพาน Nagarebashi หรือสะพานเตี้ยๆ แบบไม่มีราวกั้น ช่วยลดความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อให้กระแสน้ำไหลผ่านได้แทนที่จะต้านทานแรงน้ำ

“เราเชื่อว่านวัตกรรมเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้จริงในประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พาวิลเลียนญี่ปุ่นมีธีม Between Lives ซึ่งส่งเสริมความยั่งยืน เพราะญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่สร้างสรรค์เทคโนโลยี”

  • PASONA NATUREVERSE ชีวิตแห่งอนาคต

นอกเหนือจากพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่น ยังมีพาวิลเลี่ยนของบริษัทเอกชนอีกหลายแห่งนำนวัตกรรมล้ำยุคมาจัดแสดง สะท้อนให้เห็นความตระหนักถึงชีวิตในอนาคตว่าเราจะอยู่กันอย่างไร เช่นPASONA NATUREVERSE ของ PASONA บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ของญี่ปุ่น ที่จับมือกับบริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ นำเทคโนโลยีก้าวหน้ามากมายมาร่วมงานเอ็กซ์โป เช่น หัวใจ iPS, การนอนแห่งอนาคต, ตัวฉันในอนาคต การแพทย์แห่งอนาคต โลกมหัศจรรย์ เป็นต้น

  • หัวใจ iPS

หัวใจiPS เป็นหัวใจสามมิติดัดแปลงมาจากเซลส์ต้นกำเนิดโดยใช้ชีววัตถุและชีววิศวกรรม เต้นได้จริงๆ ถือเป็นความหวังทางการแพทย์และอนาคตของชีวิต

(ภาพจาก PASONA)

เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ (cardiomyocytes) ที่สร้างจากเซลล์ iPS ของมนุษย์ถูกแปรรูปเป็นแผ่นสามารถผ่าตัดปลูกถ่ายเข้าไปในหัวใจมนุษย์ได้ ดร.โยชิกิ ซาวะ ศาสตราจารย์กิตติคุณจากมหาวิทยาลัยโอซาก้าและผู้อำนวยการบริหาร PASONA NATUREVERSE ดำเนินการวิจัยและพัฒนาแผ่น iPS สำหรับกล้ามเนื้อหัวใจ ในปี 2020 ได้ผ่าตัดปลูกถ่ายแผ่น iPS เข้าไปในหัวใจมนุษย์สำเร็จเป็นครั้งแรก

  • การนอนแห่งอนาคต

นิทรรศการที่อธิบายกลไกการนอนหลับของมนุษย์ พร้อมเตียงที่ทำมาสำหรับสไตล์การนอนของแต่ละคน ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อกับการนอนมากที่สุด ผู้ชมงานสามารถทดลองนอนบนเตียงและสัมผัสประสบการณ์การจำลองประเมินการนอนหลับโดยใช้เซ็นเซอร์ได้

(ภาพจาก PASONA)

  • ตัวฉันในอนาคต

เมื่อร่างกายต้องเสื่อมถอยลงเพราะอายุมากขึ้นหรือเจ็บป่วย แต่มนุษย์ยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างอิสระและมีความสุขด้วยความช่วยเหลือของ HALหุ่นยนต์ไซบอร์กสวมใส่ได้ ช่วยให้การทำงานของร่างกายของมนุษย์ดีขึ้นและฟื้นฟูได้เพียงแค่สวมใส่

ที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เทคโนโลยีใน PASONA NATUREVERSE สรุปรวบยอดด้วยการนั่งยานแห่งความหวังเดินทางสู่อนาคต นิทรรศการที่บอกเล่าผ่าน Immersive Theater ตอกย้ำว่าในภาพรวมประเทศญี่ปุ่นทั้งภาครัฐและเอกชนต่างตระหนักถึงปัญหาสังคมสูงวัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม และให้ความสำคัญกับชีวิตในอนาคตมากแค่ไหน

นวัตกรรมที่ปรากฏในงาน Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan นั้นมากมายสาธยายไม่ถ้วน ไม่ต้องแปลกใจหากญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าด้านเทคโนโลยีการแพทย์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมอีกหนึ่งตำแหน่ง และนั่นหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมวลมนุษยชาติ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...