โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใหญ่ในเทกซัสพุ่งเกิน 80 ราย เตรียมรับมือฝนถล่มซ้ำ

เดลินิวส์

อัพเดต 07 ก.ค. เวลา 10.09 น. • เผยแพร่ 07 ก.ค. เวลา 01.23 น. • เดลินิวส์
มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 80 ราย จากอุทกภัยครั้งใหญ่ในรัฐเทกซัสของสหรัฐ ขณะที่มีคำเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักระลอกใหม่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฮันต์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของรัฐเทกซัส อัปเดตจำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันครั้งรุนแรง ซึ่งเป็นผลจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 82 ราย ในจำนวนนี้รวมเด็กอย่างน้อย 28 ราย ส่วนใหญ่อยู่ที่เขตเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเทกซัส ซึ่งแม่น้ำกัวดาลูป เอ่อล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ภายในเวลาเพียง 45 นาที

ขณะเดียวกัน จากจำนวนเด็กหญิงอย่างน้อย 27 คน ซึ่งสูญหายระหว่างการทำกิจกรรมที่ค่ายมิสติก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำกัวเดอลูป ลดลงเหลืออย่างน้อย 10 ราย เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กหญิงที่สูญหายอย่างต่อเนื่อง และยังมีรายงานผู้สูญหายในอีกหลายเขตของรัฐเทกซัสด้วย

ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) พยากรณ์ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐเทกซัสจะยังคงเผชิญกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักระลอกใหม่ในสัปดาห์นี้ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และการพังทลายของสิ่งปลูกสร้าง

ขณะที่นางคริสตินา ดาห์ล รองประธานของ "ไคลเมต เซ็นทรัล" ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสงหาผลกำไรด้านสภาพอากาศ กล่าวว่า ภาคกลางของรัฐเทกซัสมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เพิ่มขึ้นประมาณ 20% นับตั้งแต่ปี 2513 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เฉพาะในสหรัฐ แต่ยังรวมถึงอีกหลายประเทศบนโลก

เมื่อสภาพภูมิอากาศบนโลกร้อนขึ้น บรรยากาศสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดฝนตกหนักแบบสุดขั้วเช่นนี้ได้ ภายในช่วงเวลาอันสั้น และเห็นได้ชัดว่า ขอบเขตขอบความสูญเสีย และจำนวนผู้เสียชีวิต สะท้อนว่า สหรัฐยังคงขาดความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติระดับนี้ ไม่ต้องพูดถึงระดับที่จะมาถึงกับการที่โลกของเรายังคงร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ดาห์ลวิจารณ์การที่รัฐบาลสหรัฐตัดงบประมาณและลดจำนวนบุคลากรของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) และสำนักงานบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (โนอา) ว่าส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพด้านการแจ้งเตือน และการรับมือกับภัยธรรมชาติ "ที่ควรจะทันท่วงทีกว่านี้".

เครดิตภาพ : AFP, GETTY IMAGES

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...