เร่งเดินหน้าอุดช่องโหว่ ปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ พบผลประโยชน์ทับซ้อนมานาน | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ส่วนเรื่องมาตรการขันน็อตป้องกันปราบปรามเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ นอกจากการไล่จับกุมแล้ว ก็คือการเฝ้าระวัง จุดไหนที่เคยเป็นจุดบอดก็อุดจุดนั้นไม่ให้เป็นช่องโหว่ได้อีก ทหาร-ตร.เดินหน้าอุดช่องโหว่ ปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ ยกตัวอย่างการเข้าตรวจค้นช่องทางธรรมชาติ ผ่านบ้าน เจ๊สาว เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ผ่านมาถึงวันนี้จะ 1 สัปดาห์แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป คือการจัดกำลังทหาร มาเฝ้าสังเกตการณ์ที่หลังบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่มาช่วยเฝ้าบ้านให้ เจ๊สาว แต่มาคอยป้องปราม ป้องกัน ไม่ให้มีการลักลอบขนคนเข้า-ออก ผ่านจุดนี้ได้อีก อีกจุดหนึ่งอยู่ด้านหลังวัดโคกสะแบง ก็ต้องมีทหารพรานคอยเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลกับเราว่า บริเวณชายแดน อำเภออรัญประเทศ การลักลอบขนคน ออก นอกประเทศ แทบจะไม่มีแล้ว มีแต่ลักลอบขนคนจาก กัมพูชา ข้ามเข้ามาในไทย และส่วนใหญ่ที่เจอ ก็จะเป็นบัญชีม้าที่ตายแล้ว หรือ ถูกบล็อกบัญชีแล้ว ไม่ค่อยมีการลักลอบขนแรงงานชาวกัมพูชา เข้ามาทำงานในไทยมากนัก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า การอุดช่องโหว่แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนเล่นเกมแมวไล่จับหนู ข้อมูลนี้สอดคล้องกับที่ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันกับทีมข่าวว่า เรื่องคนไทยลักลอบไปทำงานที่กัมพูชา มีแนวโน้มจำนวนลดน้อยลง สังเกตได้จากการตั้งเงินรางวัลล่อใจจากหลักพันบาท เป็นหลักหมื่นบาท เพื่อหวังให้คนไทยที่ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติหลงกล และการปิดด่าน การกวดขันจับตาตามช่องทางธรรมชาติ ก็ทำให้การเดินทางข้ามประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า การลุยปราบปรามมิจฉาชีพในต่างแดนเกิดขึ้นได้ก่อนหน้านี้เพราะ 1.มีคนไทยตกเป็นเหยื่อ และ 2.แก๊งคอลเซนเตอร์ ไม่ได้แฝงตัวอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่วนกระแสลุยปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่เกาหลีใต้กำลังเรียกร้องให้เกิดขึ้น เรื่องนี้หากไทยจะเข้าร่วม ต้องเป็นการตัดสินใจระดับนโยบายระหว่างรัฐต่อรัฐ ไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะตัดสินใจได้เอง แฉกัมพูชา ไม่เคยปราบแก๊งคอลเซนเตอร์จริงจัง เรื่องเกี่ยวกับการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ กำลังเคลื่อนไหว ในมุมมองของนักวิชาการ ก็เห็นว่านี่คือการตอกย้ำให้เห็นชัดเจนกับความเชื่อมโยงกลุ่มทุนสีเทา นายทรงฤทธิ์ โพนเงิน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ให้ความเห็นว่า เครือข่ายที่กำลังกดดันกวาดล้าง อยู่ตอนนี้มีชื่อว่า แก๊ง 14K แก๊งนี้จริง ๆ แล้วหลบหนีการจับกุมมาตั้งแต่ปี 2013 มาตั้งศูนย์ใหญ่อยู่ในกัมพูชา มีหัวหน้าใหญ่ฝ่ายกัมพูชา คือ นายฮุน โต เป็นบิ๊กของบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี Huione Group และอีกคนก็คือ นายเฉิน จื้อ ที่ทำหน้าที่ฟอกเงินให้กับสแกมเมอร์ หลอกลวงคนมาลงทุน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลกัมพูชาออกมาเคลื่อนไหว เรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์ ในประเทศล่าช้า เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่ทำกันมานาน และผลการจับกุมที่ผ่านมา ก็จับได้แต่พวกลิ่วล้อตัวเล็ก ๆ ตัวการใหญ่ไม่เคยถูกจับกุม ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มสแกมเมอร์ และแก๊งคอลเซนเตอร์ ข้อมูลตรงกับตำรวจ ที่พบว่าย้ายไปอยู่ที่ชายแดนกัมพูชาฝั่งติดกับเวียดนาม ซึ่งเป็นผลจากมาตรการที่ไทยตัดไฟและอินเทอร์เน็ต ดังนั้นถ้าถามถึงมาตราการป้องกัน ก็อยากให้ไทยพัฒนาเครือข่ายระหว่างประเทศให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหยื่อรายใหม่ ช่วยคนที่ตกเป็นเหยื่อ และจับกุมผู้กระทำผิด มาลงโทษ ส่วนเรื่องข่าวสารเกี่ยวกับแก๊งคอลเซนเตอร์ในกัมพูชา เชื่อว่า นานาชาติ รับทราบและรู้ปัญหานี้ดีในระดับหนึ่งแล้ว ประเทศไทยจึงต้องไปให้ถึงจุดที่นานาประเทศ ลงนามให้ความร่วมมือในการปราบปรามให้ได้ ทั้งนี้ ขอให้คนไทยเชื่อมั่น กระทรวงการต่างประเทศ ที่กำลังขับเคลื่อนด้านการทูต เพื่อเตรียมพร้อม กรณีที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเข้าร่วมประชุมอาเซียนซัมมิท เพื่อให้ไทยทำข้อตกลงสันติภาพกับกัมพูชา ในปี 2569 กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://news.ch7.com #ข่าวเย็นประเด็นร้อน #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero